มรดกโลก 14 แห่งของเกาหลีที่รับรองโดย UNESCO
มาดูกันว่ามรดกโลก 14 แห่งที่กระจายอยู่ทั่วเกาหลีจะสวยและน่าไปเที่ยวขนาดไหนกันนะ?
สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#มรดกโลก #UNESCO
#มรดกโลกเกาหลี #เที่ยวเกาหลี
วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่ามรดกโลก 14 แห่งที่กระจายอยู่ทั่วเกาหลีจะสวยและน่าไปเที่ยวขนาดไหนกันนะ? ต้องบอกเลยว่าเกาหลีจะเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี และแม้จะผ่านสงครามมาหลายครั้ง แต่เกาหลีก็ยังคงรักษาและอนุรักษ์โบราณวัตถุทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์มากมายเอาไว้จนมาถึงในปัจจุบันค่ะ!
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
มรดกโลก 14 แห่งของเกาหลี
1. ถ้ำซอกกูรัมและวัดพุลกุกซา 석굴암과 불국사 (1995)
- ชื่อ: ถ้ำซอกกูรัม (석굴암)
- ที่อยู่: 경상북도 경주시 진현동 불국로 873-243 (873-243 Bulguk-ro, Jinhyeon-dong, Gyeongju-si, Gyeongsangbuk-do)
ถ้ำซอกกูรัม (석굴암) เป็นถ้ำที่สร้างขึ้นจากการสกัดหินแกรนิตและหินธรรมชาติที่ตั้งอยู่บนภูเขาโทฮัม ในเมืองคยองจู จังหวัดคยองซังเหนือ ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงโบราณของอาณาจักรชิลลามาก่อนนั่นเองค่ะ
ถ้ำซอกกูรัมสร้างขึ้นในปี 751 ซึ่งเป็นปีที่ 10 ในรัชสมัยของกษัตริย์คยองด็อกแห่งราชวงศ์ชิลลา ถือเป็นผลงานชิ้นเอกที่สมบูรณ์แบบชิ้นหนึ่งของยุคซิลลาที่แสดงให้เห็นถึงการรวมเป็นหนึ่งเดียวในแง่ของศาสนา, ศิลปะ, สถาปัตยกรรม, คณิตศาสตร์, และเรขาคณิต
เทคนิคต่าง ๆ ที่ใช้เพื่อออกแบบและสร้างขึ้นภายในถ้ำซอกกูรัมทำให้สถาปนิกจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็ตกหลุมรักค่ะ รวมถึงความงามและความซับซ้อนของถ้ำก็สะท้อนให้เห็นรูปปั้นในห้องโถงและภาพวาดนูนตามผนังถ้ำได้อย่างชัดเจนเลยด้วย
- ชื่อ: วัดพุลกุกซา (불국사)
- ที่อยู่: 경상북도 경주시 진현동 15-1 (15-1 Jinhyeon-dong, Gyeongju-si, Gyeongsangbuk-do)
วัดพุลกุกซา (불국사) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 528 ในสมัยราชวงศ์ซิลลา ซึ่งเป็นปีที่ 15 ในรัชสมัยของพระเจ้าพ็อบฮึง (ค.ศ. 514~540) ถือเป็นผลงานชิ้นเอกของยุคทองและแสดงให้เห็นถึงการที่ศิลปะและพุทธศาสนารวมกันเป็นหนึ่งด้วยค่ะ นอกจากนี้ก็ยังได้รับการยอมรับจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในปี 1995 พร้อมกับถ้ำซอกกูรัมเลยล่ะค่ะ
และที่วัดยังสามารถคงความเก่าแก่และคุณค่าทางวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะได้รับการบูรณะหลายครั้ง และครั้งสุดท้ายก็คือในปี 1969 นั่นเองค่ะ ตัววัดจะตั้งตระหง่านอยู่บนภูเขาสูง มีชั้นหินสูงด้านล่างจึงทำให้ตัววัดมีความสง่างามมากยิ่งขึ้น ในทุก ๆ วันจะมีทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนเกาหลีมากมายที่แวะไปเยี่ยมเยียนและสวดมนต์ค่ะ
2. ศาลเจ้าจงมโย 종묘 (1995)
ที่มา: Korea Culture Heritage
- ชื่อ: ศาลเจ้าจงมโย (종묘)
- ที่อยู่: 서울특별시 종로구 훈정동 종로 157 (157 Jong-ro, Hunjeong-dong, Jongno-gu, Seoul)
ศาลเจ้าจงมโย (종묘) เป็นวัดขงจื้อที่เก่าแก่ที่สุดที่ได้รับการอนุรักษ์และได้รับการบำรุงรักษามาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 วัดนี้สร้างขึ้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1394 แต่ถูกไฟไหม้ระหว่างการรุกรานของญี่ปุ่นและได้รับการบูรณะใหม่ในปี 1608 ค่ะ
ตัวศาลเจ้าหลัก ๆ มีพื้นที่ถึง 1,270 ตารางเมตร ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ทำมาจากไม้ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาอาคารที่สร้างขึ้นทั่วโลกในศตวรรษที่ 14 เลยทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีอนุสรณ์สถานของกษัตริย์ทั้งหมด 19 พระองค์, ราชินี 30 พระองค์, และจาลึกสรรเสริญความสำเร็จของกษัตริย์แต่ละพระองค์ก็อยู่ในวัดแห่งนี้ด้วยเช่นกันค่ะ
3. ชังกยองพันจอนแห่งวัดแฮอินซา 해인사 장경판전 (1995)
ที่มา: Jungang Ilbo
- ชื่อ: ชังกยองพันจอนแห่งวัดแฮอินซา (해인사 장경판전)
- ที่อยู่: 경상남도 합천군 가야면 치인리 10 (10 Chiin-ri, Gaya-myeon, Hapcheon-gun, Gyeongsangnam-do)
ชังกยองพันจอนแห่งวัดแฮอินซา (해인사 장경판전) สร้างขึ้นที่ตำแหน่งสูงสุดของวัดแฮอินซา ด้วยการใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศที่เป็นภูเขาทำให้ได้สถาปัตยกรรมที่สมบูรณ์แบบ
และเนื่องจากวัดเป็นที่ตั้งของพระไตรปิฎกฉบับเกาหลี ซึ่งเป็นชุดงานแกะสลักพระไตรปิฎกบนแผ่นไม้ 81,258 แผ่น ซึ่งเก็บรักษาไว้ตั้งแต่ปี 1398 จึงมีการระบายอากาศที่ดีและทนต่อความชื้นได้ดีมาก ๆ รวมถึงความสามารถในการจัดเก็บและความสามารถในการคงสภาพไม้ก็ต้องยาวนานเช่นกัน
4. พระราชวังชางด็อกกุง 창덕궁 (1997)
- ชื่อ: พระราชวังชางด็อกกุง (창덕궁)
- ที่อยู่: 서울특별시 종로구 와룡동 율곡로 99 (99 Yulgok-ro, Waryong-dong, Jongno-gu, Seoul)
พระราชวังชางด็อกกุง (창덕궁) เป็นพระราชวังอย่างเป็นทางการของราชวงศ์โชซอนตั้งแต่ปี 1610 ถึง 1868 สถาปัตยกรรมของวังแห่งนี้กลมกลืนไปกับความงามตามธรรมชาติของภูเขาโดยรอบ แสดงออกถึงแนวคิดทางสถาปัตยกรรมที่เน้นความสมดุลของภูมิทัศน์และธรรมชาติของชาวเกาหลีในสมัยโบราณ
พระราชวังชางด็อกกุงตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล มีความงามและเสน่ห์ทั้งกลางวันและกลางคืน รวมถึงในแต่ละฤดูกาลก็จะมีความดึงดูดใจที่ต่างกันออกไปด้วย
5. ป้อมปราการฮวาซอง 수원화성 (1997)
- ชื่อ: ป้อมปราการฮวาซอง (수원화성)
- ที่อยู่: 경기도 수원시 장안구 영화동 320-2 (320-2 Yeonghwa-dong, Jangan-gu, Suwon-si, Gyeonggi-do)
ป้อมปราการฮวาซอง (수원화성) ถือเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมทางทหารของราชวงศ์โชซอนที่มีโครงสร้างเต็มไปด้วยวิทยาศาสตร์และความเป็นจริง ป้อมปราการแห่งนี้ใช้เวลา 2 ปีในการสร้าง (1794 - 1796) ตามการออกแบบของสถาปนิกจองยาคยอง ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นผู้นำที่มีชื่อเสียงของขบวนการซิลฮัก
ป้อมปราการฮวาซองถูกสร้างขึ้นให้มีการป้องกันระดับสูงซึ่งประกอบไปด้วย ประตูหลักสี่ประตูที่ใช้เป็นประตูเข้าสู่เมือง, ปืนยิงธนู, ลูกกรงและช่องสำหรับการป้องกัน และกำแพงที่มีประตูลับมากมายสำหรับการโจมตี
ป้อมปราการฮวาซองใช้เวลา 700,000 ชั่วโมงในการสร้างและเสียค่าใช้จ่ายถึง 870,000 ของสกุลเงินในสมัยนั้น รวมถึงข้าว 1,500 กระสอบที่ต้องแจกจ่ายให้กับคนงานด้วย
6. พื้นที่ทางประวัติศาสตร์คยองจู 경주역사유적지구 (2000)
- ชื่อ: พื้นที่ทางประวัติศาสตร์คยองจู (경주역사유적지구)
- ที่อยู่: จังหวัดคยองจู ประเทศเกาหลีใต้
คยองจูเป็นเมืองหลวงโบราณของเกาหลีในสมัยราชวงศ์ชิลลา ประกอบไปด้วยโบราณวัตถุของวัด, ปราสาท, เจดีย์กลางแจ้ง, รูปปั้น และโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมอื่น ๆ ในสมัยซิลลามากมาย ถือเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยทีเดียว
และเนื่องจากเป็นมรดกโลก พื้นที่นี้จึงได้รับการอนุรักษ์อย่างเข้มงวดและไม่ได้รับอนุญาตให้มีการสร้างอาคารสูงโดยรอบเพื่อคงไว้ซึ่งทัศนียภาพที่สวยงาม
7. สุสานหินโบราณโคชัง ฮวาซุน และคังฮวา 고창.화순.강화 고인돌 유적 (2000)
- ชื่อ: สุสานหินโบราณโคชัง ฮวาซุน และคังฮวา (고창.화순.강화 고인돌 유적)
- ที่อยู่: 전라북도 고창군 (Gochang-gun, Jeollabuk-do), 전라남도 화순군 (Hwasun-gun, Jeollanam-do), และ 인천광역시 강화군 (Ganghwa-gun, Incheon)
กล่าวกันว่าเกาหลีมีสุสานหินโบราณมากกว่า 40% ในโลก และส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในโคชัง ฮวาซุน และคังฮวา (고창/화순/강화지석묘군) ค่ะ สุสานหินในเกาหลีสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสต์ศักราช ณ สถานที่ต่าง ๆ เช่น โคชัง และสิ้นสุดลงราวศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล
สุสานหินเป็นหนึ่งในสุสานยุคก่อนประวัติศาสตร์ ถือเป็นโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมการใช้หินขนาดใหญ่ของมนุษยชาติ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งล้ำค่าที่ช่วยในการเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตของบรรพบุรุษเกาหลียุคก่อนประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นประเพณี, งานศพ, ตลอดจนศิลปะและสถาปัตยกรรมโบราณต่าง ๆ
8. เกาะภูเขาไฟเชจูและอุโมงค์ลาวา 제주화산섬과 용암동굴 (2007)
ที่มา: worldheritage
- ชื่อ: เกาะภูเขาไฟเชจูและอุโมงค์ลาวา (제주화산섬과 용암동굴)
- ที่อยู่: เกาะเชจู
ภูเขาฮัลลาซานเป็นภูเขาไฟที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1950 เมตร และถือเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเกาหลี บนยอดเขามีทะเลสาบที่เกิดจากปากปล่องที่เรียกว่าแบงนกดัม (백록담) และมีแผ่นลาวากระจัดกระจายอยู่ที่เชิงเขาจำนวนมากด้วย
นอกจากนี้ภูเขาฮัลลาซานก็ยังเป็นขุมทรัพย์ทางนิเวศวิทยาอันล้ำค่าที่มีทั้งพืชและสัตว์นานาชนิด โดยสามารถแบ่งได้จากความสูงและสภาพอากาศ มีตั้งแต่สิ่งมีชีวิตในกึ่งเขตร้อนไปจนถึงเขตร้อนเลยทีเดียว
ที่มา: Jejunews
เมื่อประมาณ 100,000 ถึง 300,000 ปีก่อน ภูเขาไฟโกมันปะทุอย่างรุนแรง ก่อตัวเป็นถ้ำลาวาขนาดใหญ่และเล็กมากกว่า 20 แห่ง ทำให้เกิดถ้ำลาวาใต้ดินขึ้นมากมาย นอกจากนี้บริเวณนี้ก็ยังเป็นสถานที่เก็บหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของการก่อตัวของเปลือกโลกด้วย
9. สุสานหลวงราชวงศ์โชซอน 조선왕릉 (2009)
ที่มา: KBS news
สุสานหลวงราชวงศ์โชซอน (조선왕릉) ประกอบไปด้วยสุสานกว่า 40 แห่ง สร้างขึ้นระหว่างปี 1408 - 1966 เพื่อรำลึกถึงผู้ล่วงลับและแสดงความสง่างามของราชวงศ์ในสมัยโชซอน
สุสานหลวงสร้างขึ้นตามมาตรฐานขงจื๊อและฮวงจุ้ย ทั้งอยู่ด้านหลังภูเขาและมีแม่น้ำอยู่ด้านหน้า รวมถึงโดนแยกออกจากบริเวณโดยรอบด้วยภูเขา สุสานส่วนใหญ่ตั้งอยู่รอบ ๆ ป้อมปราการฮันยาง ซึ่งปัจจุบันเป็นเมืองหลวงของกรุงโซล เพื่อความสะดวกของกษัตริย์ในการเยี่ยมชมในระหว่างวันนั่นเอง
สุสานราชวงศ์โชซอนแต่ละแห่งจะมีพื้นที่ถวายสัตย์ปฏิญาณตนและพื้นที่สำหรับสักการะผู้ล่วงลับ ส่วนด้านหน้าหลุมฝังศพจะมีอนุสาวรีย์หินและรูปปั้นหินที่มีรูปร่างและขนาดต่างกันอยู่ด้วย
10. หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮาฮเวและยังดง 한국의 역사마을: 하회와 양동 (2010)
ที่มา: adinews
หมู่บ้านฮาฮเว (하회역사마을) ก่อตั้งขึ้นในสมัยโครยอตอนปลายโดยสามตระกูลใหญ่ ได้แก่ ตระกูลฮัน, ตระกูลอัน, และตระกูลรยู ในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 สถานที่แห่งนี้กลายเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของตระกูลรยู และในปัจจุบันก็มีกว่า 100 ครอบครัวที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้
หมู่บ้านยังดง (양동역사마을) ก่อตั้งขึ้นในสมัยโชซอนตอนต้น เนื่องจากการหมั้นหมายระหว่างครอบครัวอีและครอบครัวซอน ลูกเขยของตระกูลซอนจึงได้ก่อตั้งหมู่บ้านยังดงขึ้นมา
โดยหมู่บ้านในสมัยโชซอนที่มี "ภูเขาด้านหลัง แม่น้ำด้านหน้า" สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดขงจื๊อได้อย่างชัดเจน และหมู่บ้านยังดงก็มีฮวงจุ้ยตามภูมิประเทศของแม่น้ำและภูเขา บ้านของขุนนางจะตั้งอยู่ในที่สูง ตรงกันข้ามกับบ้านของคนทั่วไปที่ตั้งอยู่ในที่ต่ำ ซึ่งที่ตั้งและรูปแบบสถาปัตยกรรมของบ้านเรือนในหมู่บ้านก็สะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างทางสังคม, ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมการแบ่งชนชั้นในสมัยราชวงศ์โชซอนได้อย่างชัดเจน
11. ป้อมปราการนัมฮันซันซอง 남한산성 (2014)
- ชื่อ: ป้อมปราการนัมฮันซันซอง (남한산성)
- ที่มา: 경기도 광주시 (Gwangju-si, Gyeonggi-do)
ป้อมปราการนัมฮันซันซอง (남한산성) เป็นป้อมปราการที่ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 480 เมตร อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโซล โดยป้อมปราการจะมีลักษณะเป็นกำแพงชั้นในที่เตี้ยและบาง แต่กำแพงชั้นนอกจะสูงและหนา นอกจากประตูหลัก 4 ประตูทางตะวันออก, ตะวันตก, ใต้ และเหนือแล้ว ป้อมปราการก็ยังมีประตูลับอีก 16 ประตู ซึ่งเป็นที่สำหรับรับอาวุธและอาหาร รวมถึงกำลังเสริมด้วย
ในกรณีฉุกเฉิน ป้อมปราการนัมฮันซันซองก็ยังทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงชั่วคราวเพื่อให้ราชวงศ์และผู้บัญชาการทหารสามารถอพยพได้ทันเวลา
การก่อสร้างป้อมปราการนัมฮันซันซองบนภูเขาแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างมากของเทคโนโลยีด้านการทหารและการป้องกันประเทศของเกาหลีในสมัยโชซอน ไม่เพียงแต่มีคุณค่าด้านประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่สำหรับป้องกันบ้านเมืองที่สมบูรณ์แบบอีกด้วย
12. อุทยานประวัติศาสตร์แพ็กเจ 백제역사유적지구 (2015)
แพ็กเจเป็นหนึ่งในสามราชวงศ์ในประวัติศาสตร์เกาหลี และแหล่งมรดกโลกที่องค์การยูเนสโกรับรอง ได้แก่ โบราณสถาน 8 แห่งที่เรียกรวม ๆ ว่า อุทยานประวัติศาสตร์แพ็กเจ (백제역사유적지구) ได้แก่
- ป้อมปราการคงซานซอง และสุสานหลวงที่ซงซานรี ในคงจู
- อาคารพูโซซานซอง และป้อมปราการควานบุกรี
- วัดจองนิมซา
- สุสานหลวงที่นึงซานรีและกำแพงหินพูยอ
- ซากปรักหักพังของวังกุงรีและวัดมีรึกซาในอิกซัน
อนุสรณ์สถานที่ซับซ้อนเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรม, วัฒนธรรม, ศาสนา และสุนทรียศาสตร์ของราชวงศ์แพ็กเจโบราณได้อย่างชัดเจน
13. พุทธอารามบนภูเขาซันซา 산사, 한국의 산지 승원 (2018)
ที่มา: beopbo news
พุทธอารามบนภูเขาซันซา (산사, 한국의 산지 승원) ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 7 - 9 โดยวัดทั้งเจ็ดในอารามพุทธบนภูเขาซันซาถือเป็นตัวแทนของการพัฒนาทางประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนาในเกาหลี รวมถึงเป็นศูนย์กลางของความเชื่อและชุมชนของพระสงฆ์ด้วย
วัฒนธรรมชาวพุทธของเกาหลีได้รับการอนุรักษ์มาเป็นเวลากว่าพันปีที่วัดแห่งนี้ วัดทั้ง 7 ได้แก่ : ทงโดซา, บูซอกซา, บงจองซา, บ็อบจูซา, มาก็อกซา, ซอนนัมซา และแดฮึงซา
14. ซอวอน สถานศึกษาลัทธิขงจื๊อใหม่แห่งเกาหลี 한국의 서원 (2019)
สถานศึกษาโบราณเก้าแห่งที่ UNESCO รับรองให้เป็นมรดกโลก ได้แก่ โซซูซอวอน, นัมกเยซออวอน, อ็อกซันซอวอน, โดซันซอวอน, พีรัมซอวอน, โดดงซอวอน, บยองซันซอวอน, มูซองซอวอน และโดนัมซอวอน
ซอวอนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่สำหรับการศึกษาค้นคว้าลัทธิขงจื๊อยุคใหม่และบูชาวิชาชีพครู นอกจากนี้ก็ยังเป็นสถานที่ที่นักวิชาการขงจื๊อมาบรรยายและพูดคุยเกี่ยวกับลัทธิขงจื๊อยุคใหม่ด้วย มีทั้งการพูดคุยเกี่ยวกับกิจการท้องถิ่นทั้งเล็กและใหญ่ ตลอดจนถึงการสร้างและรักษาระเบียบทางสังคม เรียกได้ว่าเป็นทั้งโรงเรียนเอกชนและองค์กรปกครองตนเองในท้องที่เลยทีเดียว
เป็นยังไงกันบ้างคะกับมรดกโลก 14 แห่งของเกาหลีที่รับรองโดย UNESCO? มีแต่สถานที่สำคัญ ๆ ทางประวัติศาสตร์ทั้งนั้นเลยใช่มั้ยละคะ? นอกจากจะเป็นมรดกโลกแล้วก็ยังสวยงามและเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเก่าแก่อีกด้วย ถ้ามีโอกาสก็อย่าลืมแวะไปเยี่ยมชมกันนะคะ~
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี