สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#Feminism #สตรีนิยม
#เฟมินิสต์ #ผู้ชายเกาหลี
นักกีฬาโอลิมปิก 2020 อันซัน นักกีฬายิงธนูทีมชาติเกาหลีใต้เจ้าของเหรียญทอง 3 เหรียญกลับโดนกระแสโจมตีว่าเธอเป็น "เฟมินิสต์" เนื่องจากตัดผมสั้นถึงขั้นถูกเรียกร้องให้คืนเหรียญรางวัล โดยเฉพาะจากผู้ชายเกาหลีค่ะ
วันนี้เราจะมาดูกันว่าทำไมผู้ชายเกาหลีถึงอ่อนไหวกับกระแส "เฟมินิสต์ (Feminism)"?
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
ความไม่เท่าเทียมทางเพศในสังคมเกาหลี

ต้องยอมรับว่าตอนนี้เกาหลีใต้ถือเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ, เทคโนโลยีและวัฒนธรรมอีกหนึ่งประเทศ แต่สังคมเกาหลีกลับยังมีมุมมองที่ล้าหลังเรื่องความไม่เท่าเทียมทางเพศ โดยเฉพาะกับเพศหญิง และมีช่องว่างในเรื่องของค่าจ้างและเงินเดือนระหว่างเพศมากที่สุดในบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้ว ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับทางเพศในด้านการจ้างงานอีกด้วยค่ะ
จากการสำรวจของกระทรวงความเท่าเทียมทางเพศของเกาหลีในเดือนพฤษภาคม 2021 พบว่าจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น 2,246 แห่งในไตรมาสแรกมีเพียง 1,668 (5.2%) ที่มีกรรมการบริษัทค่ะ ซึ่งรวมจำนวนได้เพียง 32,005 คนเท่านั้น
รองรัฐมนตรีคิม คยองซอน กล่าวในการประชุมออนไลน์ว่าอัตราการจ้างงานผู้หญิงของเกาหลีอยู่ที่ 25.6% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศสมาชิก OECD อย่างมาก และเกาหลีใต้ยังได้รับการจัดอันดับโดยนักเศรษฐศาสตร์ว่สเป็นประเทศในกลุ่มประเทศองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ที่มีสภาพแวดล้อมการทำงานแย่ที่สุดสำหรับผู้หญิงค่ะ
"เฟมินิสต์" กลายเป็นเรื่องอ่อนไหวในเกาหลีตั้งแต่เมื่อไหร่?
เกาหลีเป็นประเทศที่ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากลัทธิขงจื๊อ ดังนั้นตั้งแต่สมัยโบราณ เด็กผู้ชายจึงได้รับค่านิยมและมีสถานะมากกว่าเด็กผู้หญิงค่ะ
จากพัฒนาการของโลกผู้หญิงเกาหลีค่อยๆ มีอิสระทางการเงินมากขึ้น และมีการรับรู้เกี่ยวกับคุณค่าในตนเอง รวมถึงสิทธิที่เท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิงก็เปลี่ยนไป ดังนั้นผู้หญิงเกาหลีจึงค่อยๆ ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อสตรีนิยมและความเท่าเทียมทางเพศค่ะ
การเรียกร้องเริ่มรุนแรงเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2016 เมื่อผู้หญิงอายุ 23 ปีถูกฆ่าโดยชายอายุ 34 ปีในห้องน้ำของโรงละครใกล้สถานีคังนัม ด้วยเหตุผลที่ไม่สมเหตุผลมากเพียงเพราะ "เขาเกลียดผู้หญิง" เหตุการณ์ดังกล่าวได้ผลักดันประเด็นความเกลียดชังทางเพศในเกาหลีให้ถึงจุดไคลแม็กซ์ และทำให้เกิดการโต้เถียงกันมากมายบนโลกโซเชียลค่ะ

กลุ่มสตรีนิยมที่ก่อตั้งองค์กรออนไลน์ชื่อ Megalian (메갈리아) เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2015 ก็ไม่พอใจกับคดีนี้ ตั้งแต่นั้นมาเว็บไซต์ Megalian จึงได้โพสต์ข้อมูลเชิงลบจำนวนมากเพื่อต่อสู้และสะท้อนถึงการประพฤติด้านลบของผู้ชาย ซึ่งผู้หญิงที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ จึงมีข้อความที่มุ่งร้ายผู้ชายจำนวนมาก
การแสดงความเห็นเกี่ยวกับสตรีนิยมเริ่มรุนแรงมากเกินไป ซึ่งบางอย่างก็เป็นความเท็จและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เว็บไซต์จึงได้ปิดตัวลงเมื่อปี 2016 เนื่องจากมีข้อความที่ไม่เหมาะสมมากเกินไป ก่อให้เกิดการกีดกันทางเพศอย่างรุนแรง

ต่อมาในปี 2019 ก็มีภาพยนตร์เรื่อง "Kim Ji Young 1982" ออกฉาย ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อดังในชื่อเดียวกันที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2016 นวนิยายเรื่องนี้เป็นนวนิยายที่สนับสนุนสตรีนิยมโดยได้เล่าถึงชีวิตที่ยากลำบากของผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องทิ้งอาชีพไปและเลี้ยงลูกและดูแลครอบครัวค่ะ
ภาพยนตร์เรื่องนี้กระตุ้นให้เกิดการโต้เถียงกันเกี่ยวกับสตรีนิยมและถูกผู้ชายเกาหลีกีดกันอย่างรุนแรง เพราะมันแสดงให้เห็นเพียงด้านเดียวมากเกินไปทำให้ผู้ชายเกาหลีทุกคนกลายเป็นส่วนเกิน แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นค่ะ
คนหนุ่มสาวในวัย 20 และ 30 ปี มีความเห็นว่าเป็นความจริงที่ผู้หญิงในวัย 40 และ 50 ปี ต้องเผชิญกับความไม่ยุติธรรมมากมายในสังคมเกาหลีแบบเก่า แต่ผู้หญิงในวัย 20 และ 30 ปีอย่างพวกเธอจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆในสังคมยุคใหม่ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะตำหนิผู้ชายเกาหลีทุกคนค่ะ

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมชายหนุ่มเกาหลีถึงเกลียดสตรีนิยมมากขึ้นและพวกเขารู้สึกว่าตัวเองกลายเป็น "เหยื่อสตรีนิยม" พวกเขายังตั้งกลุ่มต่อต้านสตรีนิยมและปกป้องสิทธิของผู้ชายอีกด้วยค่ะ
และตั้งแต่นั้นมาใครก็ตามที่พูดเกี่ยวกับการสนับสนุนสตรีนิยม ผู้ชายที่ต่อต้านบางส่วนก็จะออกมาโจมตีด้วยคำพูดที่ไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น คนดังเกาหลีผู้หญิงที่พูดสนับสนุนสตรีนิยม หรือแม้แต่อ่านหนังสือที่มีความเกี่ยวข้องเกี่ยวกับสตรีนิยม ซูจี, ไอรีน Red Velvet, ซอลฮยอน AOA พวกเธอก็เคยโดนสาปแช่งอย่างรุนแรงบนโซเชียลมีเดียค่ะ
ทำไมผู้ชายเกาหลีอ่อนไหวต่อกระแสเฟมินิสต์
1. ผู้ชายเกาหลีกังวลเกี่ยวกับการจ้างงานและคิดว่านโยบายของรัฐไม่เท่าเทียม

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อัตราการว่างงานของคนเกาหลีเพิ่มขึ้นจาก 6.9% เป็น 9.9% ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในการสมัครงาน ปัจจุบันการแข่งขันกับผู้หญิงก็รุนแรงขึ้น เนื่องจากโครงการของรัฐบาลในการนำผู้หญิงเข้าทำงาน ทำให้ผู้ชายในประเทศนี้ลุกขึ้นยืนประท้วงอย่างรุนแรงค่ะ
ในเดือนพฤศจิกายนปี 2017 กระทรวงความเท่าเทียมทางเพศของเกาหลีได้วางแผนระยะเวลา 5 ปีเพื่อสร้างโอกาสให้ผู้หญิงเกาหลีได้ทำงานในหน่วยงานของรัฐและเอกชน หน่วยงานยังสนับสนุนให้บริษัทขนาดใหญ่จ้างผู้หญิงมากขึ้นและเปลี่ยนวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นและให้ความสำคัญพนักงานชาย ทำให้ผู้ชายกังวลเกี่ยวกับข้อเสียเปรียบในการหางานค่ะ
เนื่องจากเฉพาะผู้ชายเกาหลียังต้องเกณฑ์ทหาร 2 ปี ดังนั้นในวัยเดียวกันและอาชีพเดียวกัน พวกเขาจะมีประสบการณ์ที่น้อยกว่าผู้หญิง ซึ่งพวกเขาคิดว่ามันไม่ยุติธรรมและนำไปสู่การแข่งขันที่ไม่เท่าเทียมกันค่ะ
2. ความรุนแรงของกระแสเฟมินิสต์ในเกาหลี

แม้ว่าการเคลื่อนไหวของสตรีนิยมนั้นจะถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในเกาหลีการเคลื่อนไหวนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
ประธานาธิบดีมุน แจอิน ให้คำมั่นว่าจะ "จะเป็นประธานาธิบดีสตรีนิยม" ก่อนที่เขาจะได้รับเลือกตั้งในปี 2017 ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีมุน แจอินมีนโยบายมากมายถูกสร้างงานเพื่อเพิ่มสวัสดิการให้กับพนักงานผู้หญิง โดยไม่ได้กล่าวถึงเพศชาย

ต้องขอบคุณการสนับสนุนจากรัฐบาลและคนดัง คดีล่วงละเมิดทางเพศหลายคดีตั้งแต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงไปจนถึงนักแสดง, ดาราในวงการบันเทิงและผู้ชายเกาหลีทั่วไปก็ถูกหยิบยกขึ้นมาให้เป็นประเด็นในสังคมค่ะ
ซึ่งในเกาหลี กลุ่มผู้หญิงก็ออกมาเคลื่อนไหวมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแส #Metoo ที่ออกมาเพื่อประณามการสอดแนมและการล่วงละเมิดทางเพศและ #EscapetheCorset การเคลื่อนไหวที่ต่อต้านมาตรฐานความงามของสตรีที่ถูกตั้งขึ้น
แต่การเคลื่อนไหวเหล่านี้ทำให้สังคมอยู่ในภาวะตึงเครียดสูง ผู้ชายเกาหลีโดยเฉพาะชายหนุ่มเริ่มระมัดระวังมากขึ้นและรักษาระยะห่างจากผู้หญิงในที่สาธารณะ จากการสำรวจของ Ipsos ในปีนี้ เกาหลีใต้จัดอยู่ในอันดับที่ 1 ใน 28 ประเทศที่มีระดับความขัดแย้งระหว่างเพศสูงค่ะ

นอกจากนั้นสถานการณ์ต่างๆ ยิ่งทวีคูณขึ้นเมื่อพรรคฝ่ายค้านอนุรักษ์นิยมใช้ประโยชน์จากความรู้สึกแตกแยกเพื่อรับการเรียกคะแนนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนมีนาคมปี 2022
ในเดือนมิถุนายนอี จุนซอก นักรณรงค์เรื่องสิทธิมนุษยชนซึ่งจุดชนวนให้เกิดการโจมตีร้านค้าในเครือ GS25 ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค People's Power เมื่อพิจารณาจากมุมมองที่ว่าชายหนุ่มกำลังตกเป็นเป้าหมายของ "การเลือกปฏิบัติแบบย้อนกลับ" เขาคาดว่าจะได้รับคะแนนเสียงและได้รับการสนับสนุนอย่างมากสำหรับผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพวกเขาค่ะ
อิทธิพลและกลยุทธ์การรณรงค์ของอี จุนซอกทำให้ผู้ชายกาหลีรู้สึกถูกใจมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะรู้สึกพวกเขาได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม สตรีนิยมไม่ใช่การต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมทางเพศอีกต่อไป แต่ประสบความสำเร็จในการ "เปลี่ยนแปลง" กลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับผู้หญิงที่จะโค่นล้มผู้ชายค่ะ
การปกครองแบบปิตาธิปไตยและการกีดกันทางเพศเป็นปัญหาของคนรุ่นก่อน แต่ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังทุกข์ทรมาน เป็นผลให้ความเกลียดชังของขบวนการสตรีนิยมเพิ่มขึ้น

นี่ก็คือกระแสเฟมินิสต์ที่เกิดขึ้นในเกาหลี และเหตุผลที่ผู้ชายเกาหลีอ่อนไหวกับเรื่องนี้ ใครที่มีความคิดเห็นอย่างไรสามารถคอมเมนต์บอกกันได้ค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี

