สิ่งที่ควรทราบเมื่อมาเกาหลีเป็นครั้งแรก
มาทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมของเกาหลีกันดีกว่า! สิ่งที่ควรทราบเมื่อมาเกาหลีเป็นครั้งแรก!
สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#รีวิวเกาหลี #เที่ยวเกาหลี
#วัฒนธรรมเกาหลี #เทรนด์เกาหลี
วันนี้เราจะมาพาทุกคนมาทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมของเกาหลีกันดีกว่าค่ะ! มาดูกันว่าสิ่งที่ควรทราบเมื่อมาเกาหลีเป็นครั้งแรกจะมีอะไรบ้างนะ? มาเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเกาหลีในร้านอาหาร, ขนส่งสาธารณะ, การช้อปปิ้ง, และความคิดเห็นของคนเกาหลีต่อชาวต่างชาติกัน!
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
วัฒนธรรมในร้านอาหารเกาหลี
1. วิธีการสั่งอาหารที่เกาหลี
เมื่อเดินทางไปเกาหลี หลาย ๆ คนก็อาจจะรู้สึกเครียดเมื่อต้องสั่งอาหารใช่มั้ยละคะ? เนื่องจากพูดภาษาเกาหลีไม่คล่องหรือไม่ก็อาจจะกังวลว่าจะไม่เข้าใจในสิ่งที่พนักงานพูด
ร้านอาหารส่วนใหญ่ในเกาหลีมักจะมีกระดิ่งเรียกทุกโต๊ะค่ะ เพียงแค่กดกระดิ่ง พนักงานก็จะมาที่โต๊ะเพื่อรับออเดอร์ สะดวกมาก ๆ เพราะไม่ต้องเรียกพนักงานเสียงดังจนเป็นจุดสนใจค่ะ
ในร้านหรูบางร้านอาจจะไม่มีกระดิ่งเรียกเพราะว่าอาจจะทำให้เกิดเสียงดังรบกวนบรรยากาศของร้านค่ะ อย่างไรก็ตาม เพียงแค่ยกมือขึ้นและสบตากับพนักงาน พวกเขาจะมาที่โต๊ะเพื่อรับออเดอร์ทันที
Dynamic Busan
ส่วนร้านอาหารเก่าแก่หรือร้านอาหารในตลาดที่ไม่มีกระดิ่งเรียกก็สามารถยกมือขึ้นแล้วเรียก "ซาจังนิม" ออกมาดัง ๆ จากนั้นพนักงานก็จะมาที่โต๊ะทันทีเลยล่ะค่ะ แนะนำว่าอย่าเรียก "อาจุมม่า" นะคะ
พนักงานที่ร้านอาหารเกาหลีจะช่างสังเกตมาก ๆ ดังนั้นแค่ต้องชี้ไปที่อาหารในเมนูและระบุปริมาณด้วยนิ้ว เพียงเท่านี้ก็สั่งอาหารเรียบร้อยค่ะ คนเกาหลีส่วนใหญ่จะสามารถใช้ภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานได้ หรือจะใช้แอป Google เพื่อแปลภาษาก็ได้นะคะ
2. ที่เก็บตะเกียบและช้อน
Kookmin Daily
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟแล้วแต่กลับไม่มีตะเกียบและช้อนบนโต๊ะ จะต้องทำยังไงดีนะ?
หากไม่มีตะเกียบหรือช้อนบนโต๊ะ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ลิ้นชักใต้โต๊ะค่ะ แต่ถ้าหาแล้วยังไงก็ไม่เจอ เราแนะนำให้ถามพนักงานหรือสังเกตจากคนรอบข้าดูนะคะ
3. มากินคนเดียวแต่ต้องสั่งสองที่ขึ้นไป
ที่เกาหลี ร้านอาหารประเภทปิ้งย่างหรือบูเดชิเก ส่วนใหญ่จะต้องสั่งอาหารสองที่ขึ้นไป แม้ว่าจะมาคนเดียวก็ตามค่ะ
4. การขอให้พนักงานปรุงอาหารให้
แน่นอนว่าถ้ามาเกาหลีเป็นครั้งแรก ก็อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับอาหารเกาหลีใช่มั้ยละคะ? ดังนั้นถ้าไม่รู้ว่าอาหารจานนี้ทานยังไง ก็สามารถถามพนักงานได้เลยค่ะ
เพียงแค่บอกกับพนักงานอย่างตรงไปตรงมาว่า "ฉันกินอาหารจานนี้ไม่เป็น (이 음식을 먹는 방법을 모른다)" จากนั้นพนักงานก็จะแนะนำวิธีทานอย่างเป็นกันเองค่ะ
5. ต้องให้ทิปหรือไม่?
หลาย ๆ คนน่าจะสงสัยใช่มั้ยละคะว่าเวลาไปร้านอาหารหรือใช้บริการต่าง ๆ ในสถานที่อย่างโรงแรม ต้องให้ทิปพนักงานหรือไม่?
บอกเลยว่าราคาที่เราเห็นจะรวมค่าบริการต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วค่ะ ดังนั้นแม้ว่าจะไม่ให้ทิป ก็ไม่ได้เสียมารยาทแต่อย่างใดค่ะ ส่วนในกรณีที่เราประทับใจบริการของพนักงานและต้องการให้ทิปจริง ๆ ก็สามารถทำได้ แต่ก็อาจจะทำให้คนเกาหลีประหลาดใจได้ค่ะ
วัฒนธรรมในร้านกาแฟของเกาหลี
1. ต้องสั่ง 1 เครื่องดื่มต่อ 1 คน
ร้านกาแฟส่วนใหญ่ในเกาหลีมีกฎ 1 คนต่อ 1 เครื่องดื่ม เพราะถือว่าราคาเครื่องดื่มรวมค่านั่งที่ร้านเรียบร้อยแล้วค่ะ
ดังนั้นเมื่อไปคาเฟ่ 2 คนแต่สั่งเครื่องดื่มแค่ 1 แก้ว เจ้าของร้านก็อาจจะเตือนให้สั่งเครื่องดื่มตามจำนวนคนที่มาค่ะ อย่างไรก็ตาม ถ้าซื้อกลับบ้านก็ไม่ควรใช้ที่นั่งในร้านนะคะ
2. ระยะเวลาการใช้งานร้านกาแฟ
ในเกาหลีมีร้านกาแฟหลาย ๆ ร้านที่มีการจำกัดเวลาในการใช้บริการค่ะ ยิ่งถ้าเป็นร้านกาแฟดังและคนเข้าคิวเยอะหรือมีพื้นที่ในร้านค่อนข้างน้อย ก็อาจจะมีการกำหนดเวลาเพิ่มเติมได้ค่ะ
โดยปกติเวลาจำกัดจะอยู่ที่ประมาณ 2 ถึง 3 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับการเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของร้านกาแฟ แต่ถ้าอยากอยู่ให้นานกว่านี้ ก็สามารถสั่งเครื่องดื่มเพิ่มได้ค่ะ
วัฒนธรรมการใช้ขนส่งสาธารณะในเกาหลี
1. ขนส่งสาธารณะที่ซับซ้อน
เมื่อมาที่เกาหลีเพื่อท่องเที่ยว ก็อาจจะพบว่าระบบขนส่งสาธารณะของที่นี่มีครบครันแต่ก็ซับซ้อนมาก ๆ เลยล่ะค่ะ ดังนั้นก็อาจจะทำให้สับสนได้ในตอนที่ต้องขึ้นรถไฟหรือรถบัส
แน่นอนว่าในกรณีนี้ ทุกคนก็สามารถใช้โทรศัพท์เพื่อค้นหาวิธีการเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย
ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับ Google map ใช่มั้ยละคะ? แต่คนเกาหลีส่วนใหญ่มักจะใช้ Naver Map หรือ Kakao Map ค่ะ เนื่องจากทั้ง 2 แอปจะบอกวิธีการเดินทางอย่างละเอียดและเลือกเส้นทางที่สะดวกที่สุด
Naver Map หรือ Kakao Map สามารถใช้ได้ทั้งภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน, และภาษาญี่ปุ่นค่ะ
2. ที่นั่งสำหรับผู้สูงอายุและสตรีมีครรภ์
Gyeongbuk Daily
หากเคยใช้รถบัสในเกาหลี ทุกคนก็น่าจะเคยเห็นที่นั่งที่เป็นสีชมพูและสีเหลืองใช่มั้ยละคะ?
ที่นั่งสีชมพูคือที่นั่งสำหรับสตรีมีครรภ์ ส่วนที่นั่งสีเหลืองคือที่นั่งสำหรับผู้สูงอายุค่ะ ในตอนที่ไม่มีผู้สูงอายุหรือสตรีมีครรภ์บนรถบัสก็สามารถนั่งได้นะคะ แต่เมื่อคนสูงอายุหรือสตรีมีครรภ์ขึ้นมาบนรถบัส ก็อย่าลืมลุกให้คนเหล่านั้นด้วย~
Insight
สำหรับรถไฟฟ้า ที่ปลายทั้งสองข้างของขบวนจะมีที่นั่งสำหรับผู้สูงอายุและสตรีมีครรภ์ค่ะ ซึ่งแตกต่างจากรถบัสตรงที่บนรถไฟใต้ดิน คนเกาหลีมักจะปล่อยให้ที่นั่งเหล่านี้ว่างแม้ว่าจะไม่มีผู้สูงอายุหรือสตรีมีครรภ์อยู่บนรถไฟก็ตามค่ะ
ดังนั้นเมื่อนั่งรถไฟ ไม่ว่าจะเมื่อยขาแค่ไหนก็ไม่ควรนั่งบนที่นั่งสำหรับผู้สูงอายุและสตรีมีครรภ์นะคะ
3. ต้องแตะบัตรตอนขึ้นหรือลงบัส?
สำหรับคนที่ใช้เงินสดในการขึ้นรถบัสก็ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจกับสิ่งนี้ แต่สำหรับผู้ที่ใช้บัตรโดยสาร เมื่อขึ้นและลงรถก็จะต้องแตะบัตรโดยสารด้วยค่ะ
เมื่อแตะบัตรในตอนที่ลงรถ เราก็จะได้รับส่วนลดหากมีการขึ้นรถบัสหรือรถไฟคันอื่น ๆ ภายใน 30 นาทีค่ะ และถ้าไม่แตะบัตร ก็อาจจะถูกเรียกเก็บเงินตามระยะทางไกลสุดได้
อย่างไรก็ตาม ทุกคนไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกหากลงจากรถแล้วลืมแตะบัตรนะคะ ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมที่จะต้องจ่ายในกรณีนี้คือสูงสุดประมาณ 700 วอนเท่านั้นค่ะ
4. การกินอาหารขณะใช้บริการขนส่งสาธารณะ
คนขับอาจจะปฏิเสธไม่ให้เราขึ้นรถได้ ถ้าเรานำอาหารที่ห่ออย่างไม่เหมาะสมหรือมีกลิ่นแรงขึ้นมาด้วยค่ะ
ทุกคนสามารถนำอาหารที่มีฝาปิดแน่นหรืออาหารห่อมาอย่างดี เช่น พิซซ่าขึ้นไปบนรถบัสได้ แต่อาหารอย่างต็อกบกกีที่ใส่ในถ้วยไร้ฝาปิดหรือเครื่องดื่มจากร้านกาแฟที่ไม่ได้ปิดไว้ดี ๆ ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นรถบัสค่ะ
นอกจากนี้ก็ห้ามทานอาหารในรถนะคะ คนขับอาจจะขอให้เราลงจากรถได้ค่ะ
5. หากลืมของไว้บนรถสาธารณะ?
หากลืมของไว้บนรถสาธารณะก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพียงแค่จำเลขรถบัสหรือป้ายทะเบียนของรถแท็กซี่ และนำไปแจ้งที่ศูนย์ช่วยเหลือที่ใกล้ที่สุดหรือสถานีตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือก็เรียบร้อยค่ะ
หากทำของหายบนรถไฟใต้ดิน ก็ให้จำสายรถไฟเอาไว้ เช่น ตู้ 1-4, 7-3 จากนั้นก็ไปขอความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือในสถานีได้เลยค่ะ
6. การเรียกแท็กซี่
Kakao taxi
หากต้องการนั่งแท็กซี่แต่ไม่เจอแท็กซี่แถว ๆ นั้นเลยต้องทำยังไงดีนะ?
ง่าย ๆ เพียงแค่ไปยืนรอแถวป้านรถบัส หรือไม่ก็ใช้แอปเรียกแท็กซี่ เช่น Kakao Taxi ก็สะดวกมาก ๆ เลยล่ะค่ะ โดย Kakao Taxi จะมีให้บริการในภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น นอกจากนี้ก็ยังเป็นแอปเรียกแท็กซี่ที่เร็วที่สุดในเกาหลีด้วยนะคะ
ห้องน้ำสาธารณะในเกาหลี
1. ห้องน้ำสาธารณะในสถานีรถไฟ
Re Daily
ในเกาหลี การหาห้องน้ำสาธารณะบนท้องถนนอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่ในสถานีรถไฟใต้ดินจะมีห้องน้ำเสมอค่ะ เพียงแค่เปิดแอปพลิเคชั่นแผนที่และค้นหาสถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุดก็เรียบร้อย
แต่ก็มีบางกรณีที่ห้องน้ำอยู่ด้านในสถานี ทำให้ต้องแตะบัตรเข้าไปข้างในค่ะ
Al times
นอกจากนี้ทุกคนก็สามารถไปร้านกาแฟหรือร้านสะดวกซื้อได้นะคะ เพียงแค่ซื้อของที่ราคาไม่แพงมากแล้วขอเข้าห้องน้ำก็เรียบร้อยค่ะ
2. วิธีเข้าห้องน้ำขณะใช้รถสาธารณะ
หากทุกคนกำลังเดินทางโดยรถประจำทางหรือรถไฟใต้ดิน ก็สามารถลงที่ป้ายถัดไปและมองหาห้องน้ำสาธารณะหรือร้านค้าในบริเวณใกล้เคียงได้เลยค่ะ ส่วนในกรณีเดินทางด้วย KTX ก็สามารถไปใช้ห้องน้ำที่ปลายขบวนได้ค่ะ
Seoul in my hand
แต่ในกรณีที่เราใช้รถบัสด่วนระหว่างเมือง ก็สามารถบอกคนขับได้เลยนะคะ! คนขับจะหยุดรถในปั้มหรือจุดพักรถที่ใกล้ที่สุดในทันทีค่ะ
วัฒนธรรมการช้อปปิ้งที่เกาหลี
1. ลองเสื้อผ้าก่อนซื้อได้หรือไม่?
Madamade
แต่ละร้านมีกฎแตกต่างกันไปค่ะ ร้านเสื้อผ้าในสถานีรถไฟใต้ดินหรือร้านขนาดเล็กมักจะไม่มีพื้นที่สำหรับการลองเสื้อผ้า แต่ร้านใหญ่ ๆ หรือร้านในห้างมักจะมีห้องให้ลองค่ะ
ในตอนที่ลองเสื้อก็สามารถขอ "Face Cover" เพิ่มเติมได้นะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องสำอางติดเสื้อผ้าในร้านนั่นเอง
2. ของแถมเยอะกว่าของที่ซื้อ
ร้านเครื่องสำอางส่วนใหญ่ในเกาหลีจะให้ผลิตภัณฑ์ทดลองเมื่อทุกคนซื้อเครื่องสำอางค่ะ ไม่ว่าจะซื้อมากน้อยแค่ไหนก็จะได้รับของแถมอย่างแน่นอน
คนเกาหลีมักจะนำผลิตภัณฑ์ทดลองที่มีขนาดเล็กไปใช้ในตอนที่เดินทางไปเที่ยว อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะไม่มีเวลาหมดอายุบอก ดังนั้นก็ควรรีบใช้ให้เร็วที่สุดนะคะ
3. มีวิธีรับส่วนลดขณะช้อปปิ้งหรือไม่?
มีแหล่งช้อปปิ้งมากมายในเกาหลี ดังนั้นหากทุกคนรู้วิธีรับส่วนลดก็จะช่วยประหยัดไปได้เยอะเลยล่ะค่ะ! อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ใช้ได้กับร้านค้าในตลาดเท่านั้นนะคะ ไม่สามารถใช้กับห้างหรือร้านค้าปลอดภาษีได้ค่ะ
ก่อนอื่นต้องซื้อของ "จำนวนมาก" และควรถามเจ้าของร้านว่าถ้าซื้อเยอะจะได้ส่วนลดเท่าไหร่ แต่ก็อาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีนักหากไม่ต้องการซื้อของเยอะ ๆ ค่ะ
วิธีที่สองก็คือการจ่ายด้วยเงินสด เมื่อชำระเป็นเงินสดเจ้าของร้านก็จะไม่ต้องเสียภาษีแยกต่างหาก ดังนั้นก็มักจะได้รับส่วนลดประมาณ 10% ด้วยค่ะ~
ความคิดของคนเกาหลีต่อคนต่างชาติ
1. ถ้าไม่รู้ภาษาเกาหลีแม้แต่คำเดียวควรทำอย่างไร?
หากเดินทางไปเที่ยวเกาหลี ยังไงก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการพบปะกับคนเกาหลีได้อย่างแน่นอนค่ะ อย่างไรก็ตาม มีคนเกาหลีมากมายที่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ทุกคนก็สามารถใช้ภาษาอังกฤษแบบง่าย ๆ หรือใช้แอปพลิเคชันแปลภาษาเพื่อสื่อสารได้นะคะ
คนเกาหลีอาจจะแปลกใจเมื่อมีคนต่างชาติมาคุยด้วย แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แน่นอนค่ะ
2. คนเกาหลีคิดยังไงกับชาวต่างชาติ?
ในอดีต คนเกาหลีมักจะไม่เปิดรับชาวต่างชาติเท่าไหร่นัก แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ พวกเขากำลังพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดโดยการขจัดอคติต่อชาวต่างชาติทิ้งไปค่ะ
ครอบครัวที่มีหลากหลายเชื้อชาติก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน และโรงเรียนก็เริ่มสอนเกี่ยวกับวัฒนธรรมของต่างประเทศด้วยค่ะ ยังมีอีกหลายคนที่เข้าใจเพราะเคยไปต่างประเทศหรือเคยทำงานที่ต่างประเทศมาก่อน
อันที่จริงดูเหมือนว่าคนเกาหลีก็เริ่มปฏิบัติต่อชาวต่างชาติแบบเป็นกันเองมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะคะ แน่นอนว่าคนเกาหลีเองก็อยากจะช่วยเหลือชาวต่างชาติเช่นกันค่ะ!
วัฒนธรรมอื่น ๆ ในการใช้ชีวิตที่เกาหลี
1. การดื่มแอลกอฮอล์ของคนเกาหลี
ทุกคนน่าจะเคยเห็นนักศึกษามหาวิทยาลัยหรือพนักงานออฟฟิศที่นั่งดื่มเหล้ากันเป็นกลุ่มใหญ่ใช่มั้ยละคะ? แล้วคนที่ไม่ดื่มเหล้าล่ะจะทำยังไงดีนะ?
ปกติแล้วถ้าคนเกาหลีไม่ดื่มเหล้าแต่ต้องไปนั่งดื่มกับกลุ่มเพื่อน พวกเขาก็จะหลีกเลี่ยงโดยการดื่มเพียงครึ่งแก้วหรือไม่ก็เติมน้ำเปล่าลงในแก้วแทนค่ะ
แน่นอนว่าวิธีที่ดีที่สุดก็คือการบอกอย่างชัดเจนว่าเราไม่สามารถดื่มเหล้าได้ เมื่อเทียบกับการดื่มมาก ๆ แล้วทำผิดพลาด ก็คงจะดีกว่าถ้าเราบอกออกไปตรง ๆ ใช่มั้ยละคะ?
2. ทิ้งขยะอย่างไรให้ถูกวิธี?
ทุกคนสามารถทิ้งขยะลงในถังขยะที่โรงแรมได้ง่าย ๆ แต่ว่าถ้าเกิดต้องการทิ้งขยะข้างนอกล่ะ? ควรทิ้งที่ไหนและอย่างไรดีนะ?
เราแนะนำให้เก็บขยะเอาไว้ในกระเป๋าจนกว่าจะถึงป้ายรถบัสหรือสถานีรถไฟใต้ดินนะคะ หรือไม่ก็ร้านอาหารหรือร้านกาแฟค่ะ จากนั้นก็สามารถนำไปทิ้งในถังขยะของสถานที่นั้น ๆ ได้เลย
แบะถ้าสามารถแยกขยะได้อย่างถูกต้องก็จะเยี่ยมไปเลยค่ะ! หากทิ้งขยะขนาดเล็ก เช่น หมากฝรั่งหรือก้นบุหรี่ในที่สาธารณะโดยพลการ ก็อาจถูกปรับไม่เกิน 100,000 วอนได้นะคะ ดังนั้นก็อย่าลืมระมัดระวังให้ดี~
3. เกาหลีปลอดภัยจริงหรือ?
เกาหลีใต้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกค่ะ ไม่ว่าจะวางสิ่งของไว้ที่ไหนก็ไม่มีทางหายเด็ดขาด
เนื่องจากมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในทุก ๆ ที่ และกล้องในรถก็สามารถใช้เป็นหลักฐานได้ทุกเมื่อ รวมถึงมีระบบรักษาความปลอดภัยมากมาย เช่น สถานีตำรวจ ดังนั้นทุกคนก็สามารถขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลาเลยล่ะค่ะ
หมายเลขโทรศัพท์ของตำรวจคือ 112 และศูนย์ป้องกันอัคคีภัย 119 ดังนั้นในกรณีฉุกเฉินก็สามารถโทรไปเบอร์ไหนก็ได้ หรือจะไปที่สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดเพื่อขอความช่วยเหลือก็ได้เช่นกัน
เนื่องจากมีการบันทึกการโทรไว้ ทุกคนก็สามารถพูดภาษาอังกฤษได้นะคะ และหากได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากตำรวจก็สามารถขอความช่วยเหลือจากทนายความหรือสถานทูตเพื่อแก้ไขปัญหาได้ในภายหลังค่ะ
Wikipedia
กลางคืนที่เกาหลีถือว่าค่อนข้างยาวเพราะหลาย ๆ คนก็มักจะออกมาใช้ชีวิตกันจนดึกดื่น ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าแม้จะกลับดึกแต่ไหนก็จะมีรถบัสอยู่เสมอค่ะ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับตอนกลางวัน ยังไงตอนกลางคืนยังอันตรายกว่าอยู่ดีใช่มั้ยละคะ? ดังนั้นหากกลับบ้านดึก ๆ ก็อาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ ยังไงการระวังตัวไว้ก่อนก็ดีกว่าค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับสิ่งที่ควรทราบเมื่อมาเกาหลีเป็นครั้งแรก? มีทั้งวัฒนธรรมและเรื่องราวมากมายที่ไม่เคยรู้มาก่อนใช่มั้ยละคะ? หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเที่ยวเกาหลีได้สนุกมากขึ้นนะคะ~
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand