เจาะลึกของแม่สามีและแม่ยายเกาหลี

สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน

#แม่สามีเกาหลี #วัฒนธรรมเกาหลี #ซีรีส์

#ซีรีส์เกาหลี #ครอบครัวเกาหลี

ในตอนนี้ ซีรีส์และภาพยนต์เกาหลีดังกระหึ่มไปทั่วโลกเลยล่ะค่ะ ว่าแต่ มีใครสังเกตกันบ้างมั้ยคะว่า ในแต่ละเรื่องจะต้องมีประเด็นหรือปัญหาทางสังคมเสมอ? หนึ่งในนั้นก็คือ ปัญหาการไม่ลงรอยกันของลูกสะใภ้กับแม่สามีนั่นเองค่ะ!

ทุกครั้งที่เห็นฉากที่แม่สามีพูดถากถางลูกสะใภ้ก็รู้สึกเหมือนมีเครื่องหมายเตือนให้สาว ๆ เกาหลีว่า อย่าแต่งงานนะ เดี๋ยวจะเจอแบบนี้~

แล้วจริง ๆ ความสัมพันธ์ของแม่สามีกับลูกสะใภ้เกาหลีแย่เหมือนในซีรีส์มั้ยนะ? เดี๋ยววันนี้เราจะมาอธิบายถึงชีวิตและปัญหาของแม่สามีเกาหลีให้ฟังกันค่ะ~~

※ ปัญหาแม่สามีที่เราจะพูดถึงในวันนี้ไม่ได้เหมารวมถึงทุกครอบครัวนะคะ

🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube

✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand

🎈ช้อปปิ้ง｜สั่งซื้อสินค้าเกาหลี

ปัญหาแม่สามีเกาหลี: ชีวิตและปัญหาของแม่สามีเกาหลี

ที่มา@ SBS ฉากในเรื่อง

ในเกาหลีมีประโยคว่า..."시월드에 오신 것을 환영합니다/Welcome to Shi World /ยินดีต้อนรับสู่โลกชี"

ซึ่งคำว่า โลกชี(ชีเวิร์ลด์) เป็นคำพูดในเรื่อง My Husband Got a Familily ค่ะ

คำว่า "시월드" มาจากการผสมของคำว่า 시 + 월드

ซึ่งแปลว่า ความทุกข์ทรมาณทั้งกายและใจหลังชีวิตแต่งงานค่ะ ซึ่งในเกาหลี แปลได้อีกอย่างว่า ชีวิตที่น่าเวทนา

จริง ๆ ไม่ได้มีปัญหาแค่แม่สามีนะคะ ยังมีญาติคนอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ลุง ป้า น้า อา...

ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถทำให้ชีวิตของสะใภ้ทุกข์ระทมได้ทั้งนั้น

บางคนในเกาหลีถึงกับบอกว่า ถ้ามีคำว่า 시 ในชีวิตก็ถือเป็นเรื่องไม่ดีทั้งนั้นแหละ

จริง ๆ แล้วที่น่าหนักใจกว่าแม่สามีก็คือพวกป้า ๆ นี่แหละค่ะ มีสำนวนในเกาหลีบอกว่า "ป้าที่บอกว่า หยุดเถอะ นั้นน่ารำคาญกว่าแม่สามีที่ทุบตีเสียอีก"

ซึ่งแปลว่า ถ้าเทียบกับแม่สามีที่เอาแต่ด่าทอแล้ว พวกป้า ๆ ที่ทำตัวใจดี แต่แอบไปว่าร้ายเราลับหลังนั้นแย่ยิ่งกว่าอีก อ่านแล้วรู้สึกได้เลยว่า พวกป้า ๆ นี่ร้ายกับสะใภ้ยิ่งกว่าแม่สามีซะอีกนะคะ

ที่มา@ https://m.blog.daum.net/topreacher/181?categoryId=14

นอกจากนี้ ยังมีสำนวนเกาหลีบอกอีกว่า

"โง่ 3 ปี หูหนวก 3 ปี ตาบอด 3 ปี"

หมายถึงว่า ถึงแม้แม่สามีหรือคนอื่น ๆ ในบ้านจะกระทบกระเทียบหรือร้ายใส่แค่ไหน ให้ทำเหมือนไม่เห็นราวกับคนตาบอดเข้าไว้

แม้ว่าแม่สามีจะด่าว่าแค่ไหน ให้ทำเหมือนไม่ได้ยินราวกับคนหูหนวกเข้าไว้

แม้ว่าแม่สามีหรือป้าจะร้ายใส่แค่ไหน ให้ทำเป็นไม่รู้ราวกับคนโง่เข้าไว้

หลังจากนั้นอีก 3 ปี จะเข้าใจและเห็นใจแม่สามีมากขึ้นเอง(จริงรึเปล่าไม่แน่ใจ )

ปัญหาของแม่สามี

ที่มา@ https://www.elle.co.kr/article/view.asp?MenuCode=en010402&intSno=9781

หนึ่งในสาเหตุหลักที่คนเกาหลีหย่าร้างกันมาจากปัญหาเรื่อง แม่สามีค่ะ จริง ๆ แล้วการทะเลาะกันกับแม่สามีมีมากกว่าที่ทะเลาะกับสามีซะอีก เพราะการคบกันในเกาหลีไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน แต่หมายถึงทั้งครอบครัวเลย

เอาล่ะค่ะ เดี๋ยวจะยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงให้ฟัง!

1) แม่สามีด่าว่าลูกสะใภ้ว่าทำไมไม่เตรียมอาหารเช้า

ตอนที่แม่สามีถามว่า "ทานข้าวเช้าแล้วหรือยัง? วันนี้ทำอะไรกิน?" ไม่ได้แปลว่าอยากจะรู้จริง ๆ ว่า ทานข้าวเช้าหรือยัง

แต่กำลังจะด่าว่า ทำไมไม่ช่วยสามีทำกับข้าว เพราะถ้าลูกสะใภ้เองก็ทำงานเหมือนกัน คนที่จะต้องเตรียมอาหารเช้าก็จะเป็นแม่สามีนั่นแหละค่ะ

จริง ๆ เรื่องอาหารเช้านี่เป็นปัญหาหลัก ๆ ที่แม่สามีกับลูกสะใภ้ทะเลาะกันเลยทีเดียว!

2) แม่สามีบางคนไม่ชอบใจที่เห็นลูกสะใภ้รายได้เยอะกว่าสามี

มีแม่สามีบางคนพูดกับสะใภ้ที่ได้เงินเยอะกว่าลูกชายตัวเองว่า "ยังไงในอนาคตก็ต้องลาออกอยู่แล้วนี่ จะเสียเวลางานบ้านไปทำไมอีก เร็ว! รีบไปลาออกซะสิ!"

"ได้เงินเยอะกว่า ไม่ได้จะหมายความว่าดีกว่าลูกฉันซะหน่อย แค่มีเงิน ไม่ได้หมายความว่าจะมีศักดิ์ศรีเยอะกว่าสามีนะ!"

วิธีเดียวที่จะทำให้คำพูดแดกดันเหล่านี้หายไปคือ การย้ายไปตำแหน่งงานที่เงินเดือนน้อยกว่า หรือไม่ก็ลาออกค่ะ

แต่ถึงลาออกจริง ๆ ขึ้นมา แม่สามีก็จะเหน็บแนมด่าว่าลูกสะใภ้อีกว่า ไม่ช่วยกันหาเงินและใช้แต่เงินของสามี จะเอาใจยังไงเนี่ย

3) ถ้าในบางครั้ง ลูกสะใภ้ไม่เข้าใจอะไร แม่สามีก็จะพูดประมาณว่า "แค่นี้ก็ไม่รู้หรอ?"

แต่ถ้าเกิดรู้มากอีก แม่สามีก็จะไม่พอใจและหาว่าลูกสะใภ้ "สู่รู้" "กล้ามาสอนฉันเรอะ"

ที่มา@ MBC

4) แม้ว่าลูกสะใภ้จะทุ่มเททำงานบ้าน หาเงินและให้เวลาพร้อมความจริงใจทั้งหมด แต่แม่สามีก็ยังไม่พอใจอยู่ดี

ตัวอย่างเช่น ลูกสะใภ้อยากเอาใจด้วยการพาแม่สามีไปร้านอาหารหรู ๆ บางทีลูกสะใภ้ก็จะโดนด่าต่อหน้าว่า "หาอะไรทานง่าย ๆ ไม่เป็นรึไง อยากทานนอกบ้านมากนักเหรอ"

หรือไม่อย่างนั้น ถ้าลูกสะใภ้ซื้อของขวัญมาให้ก็จะโดนด่าว่า "ครอบครัวเงินเหลือมากนักหรือไง" หรือไม่ก็ "ลูกชายฉันไม่ได้ทำงานหนักมาให้เธอเอาเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแบบนี้นะ"

5) ถ้าลูกสะใภ้มีลูกช้าหรือยังไม่มีลูก แม่สามีจะโกรธมาก ๆ และสั่งให้รีบ ๆ มีลูก

บางทีเห็นได้ชัดเลยว่า สาเหตุมาจากสามี แต่สะใภ้ก็ยังโดนตำหนิอยู่ดี

6) ช่วงเวลาที่แม่สามีทะเลาะกับลูกสะใภ้มากที่สุดคือ ช่วงชูซอก ซอลลัลและเทศกาลต่าง ๆ ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะต้องไปช่วยงานบ้านที่บ้านของฝ่ายชาย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและพยายาม ผู้หญิงจะต้องเตรียมอาหารให้ค่ะ

สิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปเลยก็คือ แม่สามีกับสะใภ้ทำงานงก ๆ ในครัว ในขณะที่ผู้ชายคนอื่น ๆ นั่งชิลล์ เล่นสนุกสนาน

แม่สามีบางคนไม่ชอบให้ลูกชายตัวเองเข้าครัว เวลาที่ลูกจะช่วยล้างจาน แม่สามีก็จะบอกว่า "ถ้าลูกทำ แม่ทำดีกว่า เพราะลูกทำได้ไม่ดีเท่า" และแน่นอนว่า ลูกสะใภ้ต้องเป็นคนทำ เพราะแม่สามีอายุมากกว่าจะไม่มาล้างจาน

ถ้าความสัมพันธ์ของแม่สามีกับภรรยาเริ่มตึงเครียด มีหลายคนขอหย่ากับสามีเพราะทนเรื่องนี้ไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ

จากสถิติการหย่าร้าง ช่วงวันหยุดเทศกาลจะมีการหย่าร้างเพิ่มขึ้นจากปกติ 2 เท่าเลยทีเดียว!

วัฒนธรรมและปัญหาของแม่สามี : สาเหตุที่แม่สามีกลายมาเป็นปัญหา

สาเหตุที่แม่สามีเกาหลีทำตัวมีปัญหานั้นกล่าวได้ว่า อาจมาจากตอนที่แม่สามีเองยังเป็นสะใภ้และมีปัญหาแบบเดียวกันค่ะ

เดี๋ยวจะอธิบายด้วยการใช้ตัวอย่างเป็นบริษัทให้ฟังนะคะ...

สมมุติว่าแม่สามีเป็นประธานบริษัท ลูกสะใภ้เป็นพนักงาน เปรียบได้เหมือนกับบริษัทในเกาหลีที่บอสมีอำนาจสั่ง ในขณะที่ลูกน้องได้แต่ก้มหน้ารับฟัง

เลยกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่แม่สามีจะทำอะไรก็ได้ ในขณะที่ลูกสะใภ้ได้แต่ฟังและทำตาม

ถึงแม้ว่าแม่สามารถจะพูดแปลก ๆ สั่งให้ทำในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องหรือพูดจาแย่ ๆ ใส่ สะใภ้ก็ไม่มีสิทธิเถียง เพราะตำแหน่งเป็นแค่ลูกสะใภ้ค่ะ

ในเกาหลี การเถียงหรือต่อว่าผู้อาวุโสถือเป็นเรื่องที่ผิดมาก ๆ

แม่สามีที่เคยโดนกระทำแบบนี้มาก่อน เลยคิดว่า เอาล่ะ ลูกสะใภ้ก็ต้องโดนบ้าง เลยถ่ายทอดพฤติกรรมและความเชื่อนี้มาเรื่อย ๆ ค่ะ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กระแสเฟมินิสต์ในเกาหลีเริ่มได้รับการพูดถึงอย่างหนาหู

ถ้าคำสั่งของแม่สามีดูไม่สมเหตุสมผลหรือพูดจาไม่ดีใส่ ลูกสะใภ้มีสิทธิที่จะปฏิเสธ

นอกจากนี้ ยังเป็นเพราะค่านิยมในสมัยก่อนนั้นต่างจากตอนนี้แล้ว ทำให้ปัญหาแม่สามีเริ่มเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงและแก้ไขได้มากขึ้น

ที่มา@ https://haek6415.blog.me/220548334665

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาแม่สามีก็คือ ค่านิยมที่ว่า ผู้หญิงต้องนอบน้อมและเคารพผู้ชาย แม่สามีคิดว่า อุตส่าห์เลี้ยงดูลูกชายจนโตมาขนาดนี้ ดันถูกลูกสะใภ้ฉกไปซะอย่างนั้น

ในสังคมปิตาธิปไตยที่สถานะของผู้หญิงดูต่ำต้อยเหลือเกิน ลูกชายคือสิ่งที่ช่วยชูสถานะของแม่สามีให้ได้รับการยอมรับในสังคมได้(เศร้าจัง) ย่าของ บก. เคยกล่าวเอาไว้ว่า "เพราะฉันคลอดลูกชายออกมาได้สองคน ฉันถึงได้มีหน้ามีตาในสังคมได้"

เนื่องจากประเทศเกาหลีเป็นประเทศที่ได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิขงจื้อทำให้ลูกชายกลายเป็นจุดสนใจที่จะช่วยยกสถานะทางสังคมได้ ดังนั้น ลูกสะใภ้จึงถูกตั้งความหวังให้มีลูกชายมากกว่าลูกสาว

ที่มา@ 中央日報

จนกระทั่งถึงตอนนี้ ลูกสะใภ้บางคนที่มีแต่ลูกสาวยังโดนบ่นไม่เว้นแต่ละวัน แค่เพราะว่ามีลูกสาวอย่างเดียว แม่สามีเลยไม่พอใจและเอาแต่ด่าทอ

ส่วนลูกสะใภ้คนอื่นที่มีลูกชายนั้น แม่สามีอุ้มชูดูแลดีมาก ช่วยค่าใช้จ่ายภายในบ้าน แถมยังบอกอีกว่า ทำงานหนักมากเลย ทำดีแล้วอีกด้วย

ถึงแม้ว่าเรื่องพวกนี้เรื่องจะจางหายไปจากสังคมเกาหลีบ้างแล้ว แต่แม่สามีที่ยังหัวโบราณยังยึดถือว่า ต้องมีลูกชายเท่านั้นถึงจะเชิดหน้าชูตาได้

ทำให้ไม่อยากปล่อยลูกชายไปให้กับลูกสะใภ้ นอกจากนี้ยังกังวลอีกว่า ลูกสะใภ้จะเจ้ากี้เจ้าการและทำร้ายลูกชายตัวเองอีกด้วย

ปัญหาแม่สามีเกาหลี: ปัญหาที่เริ่มคลี่คลายลง

ที่มา@ https://warzek.tistory.com/65

อย่างที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า สถานการณ์เรื่องปัญหาของแม่สามีเริ่มคลี่คลายลงบ้างแล้ว

เนื่องจากผู้หญิงเกาหลีเริ่มรู้จักสิทธิของตัวเอง พวกเธอจึงไม่ยอมรับการเลือกปฏิบัติและจะไม่ทนกับความอยุติธรรมแบบนี้

สังคมปิตาธิปไตยที่ลูกสะใภ้ต้องยอมอยู่ฝ่ายเดียวได้เปลี่ยนไปแล้ว

ในตอนนี้ ไม่มีลูกสะใภ้คนไหนยอมรับ "หน้าที่ของสะใภ้" ที่ถูกกดจากสังคมชายเป็นใหญ่อีกต่อไป

ดังนั้น ในปัจจุบัน แม่สามีเริ่มเกรงใจลูกสะใภ้มากขึ้นแล้วเพราะกลัวจะเป็นการสั่งให้ทำงานหรืออะไรแย่ ๆ เนื่องจากอาจจะกลายเป็นแม่สามีที่แย่ได้

นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับสภาพจิตใจของแม่สามีที่โดนหาว่าเป้นคนไม่ดีแล้ว ยอมเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกนิดดีกว่า

ที่มา@ https://lovewar.tistory.com/230

นอกจากนี้ ปัญหาแม่สามีและลูกสะใภ้ถือเป็นปัญหากวนใจของสามีแบบสุด ๆ อีกด้วย

จริง ๆ แล้ว ถ้าสามีเข้ามาช่วยเหลือเป็นตัวกลางในปัญหานี้ ความบาดหมางระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้ก็สามารถคลี่คลายได้ค่ะ

ดังนั้น สามีส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดเพื่อทำให้บรรยากาศดีขึ้น

จากการเป็นกลาง สามีจึงสามารถบอกแม่สามีได้ว่า อย่าพูดแบบนี้กับภรรยาผมเลย หรือบอกภรรยาว่า ไม่ต้องทำตามที่แม่สามีบอกก็ได้

ถึงแม้ว่าแม่สามีจะสั่งให้ทำอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลหรือพูดจาแย่ ๆ ใส่ลูกสะใภ้ แต่จริง ๆ แล้ว สามีเองก็ไม่กล้าที่จะพูดว่า "แม่ครับ ผมว่ามันเยอะไปนะครับ"

ในทางตรงกันข้าม ถ้าสามีบอกกับภรรยาว่า "ทนเอาหน่อยนะ เดี๋ยวก็ดีเอง" จะยิ่งทำให้สถานะการแย่ลงและเส้นความอดทนของภรรยาขาดผึงเอาง่าย ๆ ในภายหลัง

แต่ในปัจจุบัน สามีเริ่มเป็นผู้นำครอบครัวและเป็นคนตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ภายในบ้านเองแล้ว ทำให้สามารถเข้าแทรกแซงหรือห้ามปรามแม่ของตัวเองที่กำลังข่มเหงภรรยาอยู่ได้มากขึ้นค่ะ

ที่มา@ https://info.pipa.co.kr/mmmmm/32899

นอกจากภรรยาจะทุกข์ทนจากการแม่สามีแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ สามีเองก็พบกับปัญหาหนักใจอย่าง "แม่ยาย - ลูกเขย" เช่นกันค่ะ

ปัญหาของ "แม่ยาย - ลูกเขย" เกิดขึ้นจากการที่แม่ยายติดต่อกับลูกเขยบ่อยจัด

เนื่องจากความเป็นห่วงของแม่ ๆ ว่าลูกสาวตัวเองจะใช้ชีวิตยังไง แม่ยายเลยถามซอกแซกเอาจากลูกเขยและเข้ามาแทรกแซงซะเลย

มีประโยคหนึ่งพูดถึง "แขกหนึ่งร้อยปี" หมายถึงลูกเขยที่ถูกมองเป็นแขกตลอดกาล เลยไม่ควรถามอะไรมากมายค่ะ

ดังนั้น "ปัญหาหนักอกของลูกเขย" จึงเป็นปัญหาที่แอบฮานิด ๆ เกิดขึ้นจากกระแสเฟมินิสต์นั่นเอง

ที่มา@ https://prunsoop.tistory.com/236

เราคิดว่า..ปัญหาของแม่สามีมักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงในช่วงอายุ 20 - 30 ปี หลังจากนี้ ปัญหาน่าจะหมดไปค่ะ เพราะช่วงนี้ยังเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยอยู่ ถึงแม้ว่าตอนนี้อาจจะยังทุกข์ทนกับปัญหาแม่สามีอยู่ แต่คนในยุคถัดจากนี้ จะหมดปัญหาไปแน่นอน

ในบล็อกนี้ เราก็ได้พูดถึงปัญหาของแม่สามีกับลูกสะใภ้ไปแล้วนะคะ ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน ปัญหานี้จะยังคงมีอยู่ แต่ถือว่าดีกว่าเมื่อก่อนมาก และเป็นไปได้ว่าจะหายไปในอนาคต! ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ดีสุด ๆ เลยค่ะ ^^

เราเชื่อว่า ถ้าสามีเฝ้าดูและคอยปกป้องภรรยาล่ะก็ ปัญหาจะคลี่คลายได้แน่นอน เพราะลูกสะใภ้เองก็เป็นลูกสาวสุดที่รักของครอบครัวตัวเองเหมือนกันค่ะ~~

🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube

✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand

🎈ช้อปปิ้ง｜สั่งซื้อสินค้าเกาหลี