5 อย่างที่ควรรู้เกี่ยวกับ ประธานาธิบดียุนซอกยอล
ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ ยุนซอกยอล และ 5 อย่างที่ควรรู้
cr. The Korea Herald
สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#ข่าวเกาหลี #ประธานาธิบดี #ประธานาธิบดีเกาหลี
#ประธานาธิบดีคนที่20 #ยุนซอกยอล
ยุนซอกยอล หรือประธานาธิบดีคนล่าสุดของเกาหลีนั้นมีลักษณะที่แตกต่างออกไปบางอย่างที่ทำให้เป็นผู้นำที่โดดเด่นในหลาย ๆ ด้านค่ะ และนี่คือ 5 อย่างเกี่ยวกับผู้นำคนใหม่ของประเทศเกาหลีจะมีอะไรบ้าง มาดูกันได้เลยค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
5 อย่างที่ควรรู้เกี่ยวกับ ยุนซอกยอล
cr. The Korea Herald
ยุนซุกยอลได้รับการสาบานตนอย่างเป็นทางการในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 20 ของเกาหลีใต้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (10) โดยเริ่มต้นการดำรงตำแหน่ง 5 ปีด้วยพิธีเปิดเวลา 11.00 น. ที่สมัชชาสหภาพในเมืองหลวงของประเทศ โซล โดย 5 อย่างเกี่ยวกับ ประธานาธิบดีใหม่คนนี้ที่ทำให้เขาเป็นที่ถูกจับตรามแง และให้ความสนใจอย่างมาหมาย
1) เป็นประธานาธิบดีคนแรกนับตั้งแต่ยุค 50s ที่ทำงานนอกชองวาแด หรือ บลูเฮ้าส์
การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของยุนซอกยอลในครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดในเกาหลีใต้ ซึ่งก็คือการเปลี่ยนสำนักงานหรือสถานที่ทำงานในขณะดำรงตำแหน่ง โดยจะเปลี่ยนมาเริ่มทำงานที่อาคารสำนักงานใหญ่ของกระทรวงกลาโหมเก่าในยงซานกู ซึ่งเขาเลือกเป็นสำนักงานประธานาธิบดีแห่งใหม่ ทำให้เป็นการสิ้นสุดสถานะมากกว่า 70 ปีของชองวาแดในฐานะสำนักงานและที่อยู่อาศัยของประธานาธิบดี
ครั้งเดียวที่ชองวาแดไม่ได้ใช้เป็นที่พักและสำนักงานของประธานาธิบดีเกาหลีใต้คือในช่วงสงครามเกาหลี 1950-1953 เมื่อรัฐบาลของประธานาธิบดีไซงแมนรี ถูกทหารเกาหลีเหนือขับไล่ออกจากกรุงโซล และถูกบังคังให้ตั้งสำนักงานในเมืองหลวงชั่วคราวในปูซานแทน
ได้ในช่วงเริ่มต้นการดำรงตำแหน่งของยุนซอกยอลนั้น เขาจะเดินทางจากบ้านส่วนตัวของเขาในภาคใต้ของกรุงโซลไปยังสำนักงานใหม่ทุกเช้า ในขณะที่ที่พักในฐานะประธานาธิบดีใหม่ของเขา ซึ่งก็คือที่ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ในระหว่างการปรับปรุงใหม่
cr. The Korea Herald
2) อัยการคนแรกที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ส่วนใหญ่นั้นมักจะมีอาชีพนักบัญญัติกฎหมาย นายพลทหารและทนายความ แต่เขาเป็นอดีตอัยการรัฐคนแรกที่กลายเป็นผู้นำของประเทศ
หลังจากผ่านการสอบกฎหมายแห่งชาติในปี 1991 เขาเริ่มอาชีพอัยการในเมื่อแทกู ในปี 1994 เป็นเวลา 27 ปี เมื่อเขาออกจากองค์กรในเดือนมีนาคม 2021 เขาก็ทำงานในฐานะอัยการทั่วไป และเข้าร่วมการเมืองไม่นานหลังจากนั้น
อีกทั้งยังเป็นชาวเกาหลีใต้คนแรกนับตั้งแต่ค.ศ. 1980 ที่ทำงานเพีนงหนึ่งอาชีพก่อนที่จะเป็นประธานาธิบดี
cr. 뉴시스
3) สัตว์เลี้ยงจำนวนมาก แต่ไม่มีลูก
เขามีสุนัข 4 ตัวและแมว 3 ตัว เรียกได้ว่าเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงมากกว่าคนในตระกูลคนอื่น ๆ ของเขาด้วย
ไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาคนรักสัตว์ในหมู่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในอดีต มุนแจอินมักนำสุนัข 2 ตัวและแมวมายังชองวาแดเมื่อเขาเริ่มดำรงตำแหน่ง ในความเป็นจริงแล้ว มีการโต้เถียงกันเล็กน้อยเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเกี่ยวกับสุนัข 2 ตัว พันธุ์พุงซานที่ผู้นำเกาหลีเหนือคิมจองอึนมอบให้ โดยทางเทคนิคแล้ว อะไรก็ตามที่ประธานาธิบดีได้รับขณะดำรงตำแหน่ง ภายในทันที่หรือสิ้นวาระแล้วจะกลายเป็นของรัฐ แต่ยุนซอกยอลแนะนำให้มูนแจอินสามารถรับเลี้ยงสุนัขไว้หลังเกษียณอายุได้
แต่สิ่งที่โดดเดี่ยวเกี่ยวกับยุนซอกยอลคือเขาเป็นคนกลุ่มน้อยของกลุ่มประธานาธิบดีที่ไม่มีลูก ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ไม่มีลูกเพียงคนเดียวคือปาร์ค กึนเฮ ซึ่งยังเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวและเป็นคนเดียวที่ยังไม่ได้แต่งงานในหมู่ผู้นำของประเทศ
cr. SNU & Visit Seoul
4) คนแรกที่จบการศึกษาจากคณะกฎหมายที่ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล (SNU) และเกิดในกรุงโซล
ในขณะที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เขาเป็นเพียงบัณฑิต SNU คนที่สองที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้นำของประเทศ คิมยองแซมผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านปรัชญาจาก SNU ซึ่งถือว่าเป็นคนแรก ทำให้ยุนเป็นคนแรกที่เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีของคณะกฎหมายชื่อดังของ SNU
ยุนเป็นผู้นำเกาหลีใต้เพียงคนเดียวที่เกิดในเมืองหลวงของประเทศโซล จนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังเกิดในปี 1960 ทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่เกิดหลังสงครามเกาหลี
cr. CBS노컷뉴스
5) ได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่ แต่ห่างกับที่ 2 น้อยที่สุด
การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ 20 เป็นเพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ที่ผู้ชนะมีคะแนนห่างต่ำกว่า 1% ซึ่งก็คือ 0.73% เท่ากับต่างเพียง 247,077 เสียง มากกว่า ลีแจมยอง ผู้ลงเข้าแข่งขันการเลือกตั้งประธานาธิบดีเช่นกัน
เนื่องจากผู้สมัครทั้งสองได้รับคะแนนเสียง 95.5% ของคะแนนเสียงทั้งหมด ขณะที่เขาชนะด้วยคะแนนห่างที่น้อยที่สุด แต่เขาได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดจากผู้สมัครประธานาธิบดีคนใด ๆ ในประวัติศาสตร์ โดยได้รับถึง 16,394,815 เสียง
ทั้งคู่นั้นได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น ถึงแม้ ลีแจมยองจะแพ้ แต่ก็ได้รับคะแนนเสียงมากกว่าผู้ชนะการเลือกตั้งที่อยู่อาศัยก่อนหน้านี้เช่นเดียวกัน
ที่มา : CBS노컷뉴스, The Korea Herald, CBS노컷뉴스, 뉴시스
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand