สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#วัฒนธรรมเกาหลี #คนเกาหลี
#ความเชื่อคนเกาหลี
แม้ว่าประเทศเกาหลีจะเจริญก้าวหน้าในทุกๆด้านแล้ว แต่คนเกาหลีก็ยังคงมีความเชื่อที่มีมาตั้งแต่โบราณและยังถือเป็นธรรมเนียมมาจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ วันนี้เรามาดูกันว่าคนเกาหลีมีความเชื่ออะไรบ้าง และบางความเชื่ออาจทำให้หลายคนคิดว่างมงายก็เป็นได้ค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
ความเชื่องมงายของคนเกาหลี
cr. 아시아경제
เชื่อหรือไม่? ว่าคนรุ่นใหม่ของเกาหลียังมีความเชื่ออยู่ โดยเฉพาะความเชื่อเรื่องความรัก เพราะถ้าดูจากผลสำรวจของคนเกาหลีอายุประมาณ 20~30 ปีทั้งชายและหญิงปรากฎว่า 7 ใน 10 (69.3%) บอกว่า "พวกเขายังคงมีความเชื่อในชีวิตประจำวัน"ค่ะ
โดยแบ่งตามเพศพบว่า 3 ความเชื่อที่ผู้ชายเกาหลีเชื่อมากที่สุดคือ "ถ้าให้รองเท้าเป็นของขวัญ จะทำให้เลิกกัน" (36.6%), คู่รักที่เข้ากันตามราศี (18.8%), ความเชื่อเรื่องกรุ๊ปเลือด (13.8%) และ 3 อันดับความเชื่อที่ผู้หญิงเกาหลีเชื่อมากที่สุดคือ คู่รักที่เข้ากันตามราศี (30.2%), ความเชื่อเรื่องกรุ๊ปเลือด (19%) และภายใน 6 เดือนหลังจากได้รับช่อดอกไม้งานแต่ง ถ้ายังไม่ได้แต่งงานจะต้องอยู่คนเดียวนาน 3 ปี (14.3%) ค่ะ
นอกจากนี้แล้วคนเกาหลียังมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องอะไรอีกบ้างนะ?
ถ้าจับผีเสื้อแล้วมาขยี้ตา จะตาบอด
ช่วงฤดูร้อนที่เกาหลีจะมีพวกแมลงและผีเสื้อเยอะมากๆ และเด็กๆเกาหลีก็มีกิจกรรมการจับผีเสื้อ แต่มักจะถูกผู้ใหญ่เตือนว่า "ถ้าจับผีเสื้อแล้วอย่าเอามือไปจับตา เพราะจะทำให้ตาบอด" ค่ะ ความจริงเรื่องนี้อาจไม่ใช่ความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์แต่เป็นวิทยาศาสตร์ค่ะ
เพราะตามหลักแล้วผีเสื้อส่วนใหญ่จะมีละอองอยู่ที่ตัวและปีก ซึ่งเอามือไปจับผีเสื้อก็อาจมีละอองติดที่มือ และถ้าเอามือไปจับตาก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ แต่ถ้าบอกแค่ว่าจะทำให้เกิดอาการแพ้ เด็กๆอาจจะไม่ระวัง คนเกาหลีตั้งแต่โบราณก็เลยใช้เป็นการขู่ว่า "จะทำให้ตาบอด" แทนค่ะ
ถ้ากระโดดข้ามเด็ก แล้วเด็กจะไม่สูง
คนเกาหลีเชื่อว่าถ้ากระโดดข้ามเด็กทารกจะทำให้เด็กคนนั้นโตมาแล้วไม่สูง ซึ่งความเชื่อนี้น่าจะถูกสร้างมาเพื่อไม่ให้เด็กทารกได้รับอันตราย เพราะการกระโดดหรือข้ามเด็กทารกที่นอนอยู่อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ค่ะ นอกจากนั้นคนเกาหลียังเชื่อว่าห้ามวัดขนาดตัวของเด็กทารกที่นอนอยู่ด้วยค่ะ
เพราะคนเกาหลีเชื่อว่าการวัดขนาดเด็กเหมือนกับการวัดขนาดศพเพื่อหาโลงที่เหมาะสม ซึ่งเป็นลางไม่ดีค่ะ และมีความเชื่อว่าไม่ควรพูดว่า "เด็กหนักจังเลย" ตอนที่อุ้มเด็กที่กำลังหลับอยู่ นั้นเพราะว่าสมัยก่อนเด็กทารกมักจะเสียชีวิตก่อนอายุครบ 100 วันและเด็กที่เสียชีวิตแล้วร่างกายจะหนักขึ้น ซึ่งการบอกว่าเด็กหนักถือเป็นลางไม่ดีค่ะ
ห้ามกินแอปเปิ้ลตอนกลางคืน
เชื่อว่าแอปเปิ้ลคือผลไม้สำหรับคนที่อยากควบคุมน้ำหนัก แต่ที่เกาหลีเชื่อว่าถ้ากินแอปเปิ้ลตอนกลางคืนจะทำให้วางยา!!! อาจเป็นเพราะว่าการกินอาหารตอนกลางคืน โดยเฉพาะก่อนนอนอาจทำให้ร่างกายผลิตน้ำย่อยและอาจทำให้เกิดอาหารกรดไหลย้อนที่ทำให้แสบร้อนทรวงอกและอาจปวดท้อง เหมือนกับโดนยาพิษค่ะ
แต่ในความจริงแอปเปิ้ลกลับมีกรดจากธรรมชาติที่ช่วยลดอาการกรดไหลย้อนได้เป็นอย่างดี และช่วยลดอาการแสบร้อนทรวงอกได้ด้วย ดังนั้นใครที่อยากหาอะไรกินตอนดึกๆก็สามารถเลือกทานแอปเปิ้ลได้เลยค่ะ
ถ้าสั่นขาจะทำให้โชคดีหายไป
cr. MBC
สำหรับคนเกาหลีเชื่อกันว่า "ถ้าสั่นขาจะทำให้โชคดีลอยหนีไป" แต่ความเชื่อนี้น่าจะมาจากการสั่นขาเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำต่อหน้าคนอื่นเพราะอาจดูไม่สุภาพและเสียบุคลิกภาพได้ค่ะ แต่ก็มีอีกเรื่องเล่าหนึ่งที่บอกว่า กาลครั้งหนึ่งสมัยโชซอนมีชายชื่อว่า "คิม บงนัก" (김봉낙)
วันหนึ่งคิม บงนักได้นั่งสั่นขาทำให้แม่ของเขารำคาญจนตะโกนว่า "다리 떨지마 봉낙아!! " อ่านว่า ทารี ตอลจีมา บงนาคา ซึ่งออกเสียงคล้ายกับคำว่า "บก นากา" (복 나가) ซึ่งแปลว่า "โชคดี ลอยหนีไป" จนเป็นที่มาของความเชื่อว่าอย่าสั่นขาค่ะ
ถ้าอีการ้อง แสดงว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
สำหรับคนเกาหลีอีกา ถือเป็นสัตว์ที่แสดงถึงความโชคร้าย เพราะว่าเชื่อว่าอีกาคือทูตสื่อสารระหว่างโลกแห่งความตายและโลกมนุษย์ ดังนั้นเมื่ออีกาส่งเสียงร้องทำให้คนเกาหลีเชื่อว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความตายนั้นเองค่ะ
อาจเพราะอีกามีสีดำสนิททำให้ถูกมองว่าเป็นสัตว์แห่งความโชคร้าย ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยค่ะ.......
ถ้านับภาพสะท้อนในกระจกครบ 12 ภาพก็จะตาย
ลิฟต์ส่วนใหญ่มักจะติดกระจกทั้ง 4 ด้านทำให้เห็นภาพสะท้อนแบบ 360 องศาและมีภาพหลายด้านมากๆ ทำให้ผู้หญิงหลายคนชอบส่องกระจกในลิฟต์เพื่อสำรวจความเรียบร้อยค่ะ แต่ที่เกาหลีมีความเชื่อกึ่งๆเรื่องเล่าว่า "ถ้านับภาพสะท้อนในกระจกได้ 12 ภาพ ก็จะตาย"
ภาพสะท้อนที่ 12 ถึงแม้จะหน้าตาเหมือนเราแต่จริงๆแล้วนั้นคือ วิญญาณ!!! หรือไม่ภาพสะท้อนที่ 12 ก็อาจจะเป็นภาพคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเราค่ะ!! ครั้งต่อไปถ้าเข้าห้องหรือลิฟต์ที่มีภาพสะท้อนทุกคนยังกล้ามองอยู่หรือเปล่า.........
นี่ก็คือความเชื่อของคนเกาหลีที่บางอย่างก็สามารถอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ได้ และบางอย่างก็ถือเป็นความเชื่อแนวเกินจริง ทุกคนคิดว่าความเชื่อไหนที่คล้ายกับความของคนไทยบ้างคะ?
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand