สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#วัฒนธรรมเกาหลี #นิสัยคนเกาหลี
#ชีวิตในเกาหลี
ไม่ว่าใครก็ไม่ชอบรอและอยากได้ทุกอย่างด้วยความรวดเร็วมากที่สุด แต่เคยรู้สึกไหมว่า "คนเกาหลี" ส่วนใหญ่เป็นคนใจร้อน ชอบทำอะไรเร็วๆไปทั้งหมด เรามาหาคำตอบกันว่าคนเกาหลีใจร้อนจริงหรือเปล่า? และอะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนเกาหลีกลายเป็นคนใจร้อน?
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง｜สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
คนเกาหลีใจร้อนจริงหรือไม่?
สิ่งเล็กๆที่พิสูจน์ว่าคนเกาหลีเป็นคนใจร้อน
1. กินคัพรามยอน
คัพรามยอน ถือเป็นของว่างและอาหารที่ง่าย อร่อยและสะดวกสำหรับคนเกาหลีมากที่สุด โดยปกติการกินคัพรามยอนจะต้องใส่น้ำร้อนแล้วรอ 3 นาที แต่มีคนเกาหลีหลายคนที่มักจะเปิดดูว่าเส้นรามยอนสุกหรือยัง ทั้งๆที่ยังไม่ครบ 3 นาทีค่ะ
และแน่นอนว่าส่วนใหญ่ที่เปิดดูก็จะเห็นว่าเส้นยังไม่สุกและสุดท้ายก็ต้องรอจนครบตามเวลา นอกจากนั้นบางคนก็ใจร้อนโดยการเอาเข้าไมโควเวฟ จนร้านสะดวกซื้อแทบทุกร้านต้องติดป้ายห้ามเอาคัพรามยอนใส่ไมโครเวฟค่ะ
2. หยิบกาแฟก่อนเวลา
หนึ่งในพฤติกรรมของคนเกาหลีที่ชาวต่างชาติไม่เข้าใจ คือการเอามือไปรอหยิบแก้วกาแฟก่อนเวลาค่ะ โดยปกติที่เกาหลีจะมีตู้สำหรับกดกาแฟซึ่งไม่ว่าจะทำยังไงเวลาในการทำกาแฟของตู้ก็เท่าเดิมประมาณ 20 วินาทีตามโปรแกรมค่ะ
แต่คนเกาหลีรู้สึกถ้าเอามือไปรอหยิบแก้วก่อนเวลา จะทำให้ได้กินกาแฟเร็วขึ้น (เร็วกว่ารอให้กาแฟทำเสร็จแล้วค่อยหยิบ) ซึ่งโดยทั่วไปคนเกาหลีจะเริ่มเอามือไปรองตั้งแต่ตอนที่มีไฟกระพริบว่ากาแฟกำลังจะเสร็จ ถือเป็นพฤติกรรมที่แสดงถึงความใจร้อนที่ชัดเจนมากๆค่ะ
3. พลิกหมูซ้ำไปซ้ำมา
ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าการย่างหมูหรือหมูสามชั้น ต้องใข้เวลาซักพักถึงจะสุกพร้อมกิน แต่ถึงจะรู้แล้วแต่คนเกาหลีหลายคนก็เลือกที่จะพลิกหมูบนเตาซ้ำไปซ้ำมาแบบนั้น ซึ่งในความจริงยิ่งพลิกยิ่งสุกช้าและทำให้รสชาติของเนื้อหมูเสียด้วยค่ะ
บางคนก็ใจร้อนอยากรีบกินทั้งๆที่เนื้อยังไม่สุก จนสุดท้ายของคายออกมาอยู่ดีค่ะ
4. อินเตอร์เน็ต
ว่ากันว่าถ้าคนเกาหลีเปิดหน้าต่างเว็บไซต์ หากภายใน 3 วินาทียังไม่มีอะไรแสดงขึ้นมา คนเกาหลีส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะปิดหน้าต่างแล้วเปิดใหม่อีกครั้ง นอกจากนั้นการไม่สามารถเชื่อมต่อ wifi ได้ในทันทีคนเกาหลีก็จะทำการเปิดปิดคอมพิวเตอร์, มือถือ หรือ Router Wi-fi ใหม่ทันทีค่ะ
5. กดปุ่มปิดประตูลิฟต์ซ้ำๆ
เมื่อคนเกาหลีขึ้นลิฟต์ถ้าหากไม่มีคนเดินตามคนเกาหลีส่วนใหญ่จะกดปุ่มปิดประตูเป็นอัตโนมัติเลยค่ะ และเวลาที่คนเกาหลีขึ้นลิฟต์แล้วคนข้างหน้าไม่กดปุ่มปิดลิฟต์ ถือเป็นเรื่องที่ทำให้คนเกาหลีหัวร้อนได้ง่ายมากๆ ทั้งๆที่ลิฟต์บางตัวก็มีเวลาปิดประตูอัตโนมัติอยู่แล้วและไม่ว่าจะกดซ้ำๆยังไงก็ไม่ได้ช่วยอะไร....
โดยเฉพาะตามสถานีรถไฟใต้ดินที่มีฟั่งชันก์สำหรับคนพิการประตูจะปิดค่อยข้างช้า ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วก็มีคนเกาหลีที่ใจร้อนกดปุ่มปิดซ้ำๆค่ะ
6. เซ็นต์ชื่อบัตรเครดิต
บัตรเครดิตถือเป็นของส่วนตัวและต้องระวังอย่างมาก และคนเกาหลีส่วนใหญ่ก็นิยมใช้บัตรเครดิตแม้แต่ตามร้านเล็กๆทั่วไปค่ะ ซึ่งการจ่ายด้วยบัตรแต่ล่ะครั้งจำเป็นต้องเซ็นต์ชื่อทุกครั้ง แต่!!!! เพราะความใจร้อนและความเร่งรีบของคนเกาหลีก็มักจะให้เจ้าของร้านเป็นคนเซ็นต์ให้ค่ะ
การเซ็นต์ชื่อจ่ายบัตรเครดิตแทน แทบจะกลายเป็นวัฒนธรรมที่เกาหลี โดยเฉพาะตามร้านเล็กๆที่เจ้าของร้านจะเซ็นต์ให้ลูกค้าแบบอัตโนมัติเพื่อความรวดเร็วค่ะ
7. 빨리 빨리(ปัลรี่ ปัลรี่)
นอกจากคำว่า 안녕하세요 (อันยองฮาเซโย) ที่แปลว่า "สวัสดี" ภาษาเกาหลีที่แม้แต่คนต่างชาติที่ไม่เคยเรียนภาษาเกาหลีมาก่อนต้องรู้ก็คือคำว่า "빨리 빨리" (ปัลรี่ ปัลรี่) แปลว่า "เร็วๆ" ค่ะ นั้นก็เพราะคำนี้ถือเป็นหนึ่งในคำที่คนเกาหลีพูดบ่อยมากที่สุด เพราะว่าในชีวิตประจำวันของคนเกาหลีชอบความรวดเร็วค่ะ
ซึ่งนี่ก็แสดงถึงความใจร้อนของคนเกาหลีที่เร่งรีบในการใช้ชีวิตค่ะ
ทำไมคนเกาหลีถึงกลายเป็นคนใจร้อน
คนเกาหลีมีอุปนิสัยใจร้อนมาตั้งแต่แรกหรือเปล่า?
เมื่อดูจากลักษณะวิถีชีวิตของคนเกาหลีสมัยก่อน ก็สามารถอุปมาได้ว่าคนเกาหลีไม่ได้มีนิสัยใจร้อนและใช้ชีวิตอย่างรีบเร่งมาตั้งแต่แรกค่ะ จุดสังเกตอยู่ที่ชุดประจำชาติฮันบกของเกาหลีที่ถือเป็นชุดที่คนเกาหลีสมัยก่อนใส่ในชีวิตประจำวันจริงๆ ไม่ได้เอื้ออำนวยให้คนใส่ขยับร่างกายได้คล่องแคล่วรวดเร็วเลยค่ะ
นอกจากนั้นชุดฮันบกของผู้ชาย แม้จะเป็นกางเกงแต่ก็ไม่ได้ถูกออกแบบให้เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว และจากซีรีส์หรือภาพยนตร์ย้อนยุคของเกาหลี ก็จะเห็นได้ว่าตัวละครส่วนใหญ่โดยเฉพาะเหล่าคนชั้นสูงจะเคลื่อนไหวกันแบบช้าๆซึ่งต่างกับคนปัจจุบันค่ะ
จุดที่ทำให้คนเกาหลีมีนิสัยใจร้อนคาดว่าหนึ่งในสาเหตุมีจุดเริ่มต้นหลังจากเสร็จสิ้นสงคราม 6.25 (6.25 전쟁)
สงครามคาบสมุทรเกาหลีที่เกิดขึ้นได้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนเกาหลี หนึ่งในนั้นคือ "วิถีชีวิตแบบเร่งรีบ" ค่ะ หนึ่งในหลักฐานที่แสดงให้เห็นชัดเจนมากที่สุดคือ "ฮาโกบัง" (하꼬방) คือที่พักของคนเกาหลีที่สร้างจากลังกระดาษและไม้ง่ายๆค่ะ (ที่มา : 아시아씨이뉴스)
เพราะหลังจากที่สงครามเกาหลีจบลง ประเทศเกาหลีใต้ได้รับความเสียหายอย่างหนักรวมถึงที่พักของประชาชนก็ถูกทำลายจนผู้คนไม่มีที่อยู่ คนในสมัยนั้นจึงสร้างฮาโกบังเพื่อเป็นที่พัก ซึ่งสามารถสร้างเสร็จได้ภายใน 2-3 วันเท่านั้น ขนาดโอ เซฮุน นายกเทศมนตรีของกรุงโซลก็เคยอาศัยในฮาโกบังมาก่อนค่ะ
เมื่อเสร็จสิ้นสงครามเกาหลีใต้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุด ทำให้คนเกาหลีจำเป็นต้องใช้ชีวิตรีบเร่งเพราะต้องทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อไล่ตามประเทศที่พัฒนาแล้วและเพื่อสร้างผลผลิตให้ออกมาอย่างรวดเร็วค่ะ
ดังนั้นคนเกาหลีหลังยุดสงครามเกาหลีจึงกลายเป็นคนที่ดำเนินชีวิตด้วยความรีบเร่ง เพื่อต้องการให้ทุกอย่างออกมาเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสะพาน, อาคารต่างๆ ซึ่งเพราะต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับการทำงานอย่างหนัก ทำให้มีเวลาในการใช้ชีวิตน้อยลง ดังนั้นทุกกิจกรรมเช่น การเดิน, การกินข้าว จึงต้องทำอย่างเร็วที่สุดค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารที่ทำอาหารเร็วก็จะมีลูกค้าเยอะกว่าร้านที่ทำช้าเพราะคนอยากรีบกินให้เสร็จ และวิถีชีวิตแบบนี้ก็ถูกส่งต่อรุ่นต่อรุ่น ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่คนเกาหลีในปัจจุบันจะให้ค่ากับการใช้ชีวิตแบบรีบเร่ง เพราะทุกระบบในเกาหลีได้พัฒนาเพื่อให้ทุกอย่างเร็วมากขึ้น ทำให้คนเกาหลี (ส่วนใหญ่) กลายเป็นคนใจร้อนค่ะ
ผลดีจากความใจร้อน
ระบบอินเตอร์เน็ตเร็ว
cr. IT Koreaittimes
ต้องขอขอบคุณความใจร้อนของคนเกาหลี ทำให้ระบบต่างๆในประเทศเกาหลีใต้มีการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนเกาหลีมากขึ้น โดยเฉพาะสปีคของอินเตอร์เน็ตเกาหลีที่ติดอันดับต้นๆความเร็วที่เร็วมากที่สุดในโลกค่ะ
ระบบบริการ
ไม่ว่าจะเป็นบริการขนส่ง, เดลิเวอรี่, ไปรษณีย์ ทุกอย่างในเกาหลีสามารถตอบสนองความใจร้อนของคนเกาหลีได้ตลอดเวลา เช่น ที่เกาหลีสามารถรับไปรษณีย์ได้ภายใน 1 วัน หรือแม้แต่การสั่งอาหารที่การันตีว่าส่งถึงบ้านได้ภายใน 10-20 นาทีค่ะ
บริการสั่งอาหารเดลิเวอรี่กับ Creatrip!
เศรษฐกิจพัฒนาอย่างรวดเร็ว
หนึ่งในข้อดีที่เห็นได้เด่นชัดที่สุดของความใจร้อนที่อยากให้ทุกอย่างออกมาเร็วที่สุดคือเศรษฐกิจของเกาหลีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับช่วงปี 1980 กับปัจจุบันซึ่งเป็นเวลาแค่ประมาณ 40 ปีเศรษฐกิจของเกาหลีพัฒนาอย่างก้าวกระโดด จากประเทศที่ยากจนเพราะภาวะสงคราม กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกค่ะ
หลังจากที่อ่านแล้วก็คงตอบคำถามที่ว่า "คนเกาหลีใจร้อนจริงหรือเปล่า?" ได้แล้วใช่มั้ยคะ? ถึงแม้คำว่า "ใจร้อน" บางครั้งอาจถูกใช้ในแง่ลบ แต่สำหรับที่เกาหลีความใจร้อนก็ทำให้เกิดข้อดีขึ้นหลายอย่างว่าไหมคะ?
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand