สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#ข่าวเกาหลี #คดีฆาตกรรม
#กำไลอิเล็กทรอนิกส์
ผู้ต้องหาคดีความรุนแรงทางเพศที่ถูกปล่อยตัวและต้องสวมกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ตัดกำไลข้อเท้าทิ้งและก่อเหตุฆาตกรรมซ้ำ หลังจากนั้นก็เข้ามอบตัวในเวลาต่อมาโดยเขาได้กล่าวว่า "เสียดายที่ไม่ได้ฆ่ามากกว่านี้" ทำให้เกิดคำถามว่าการควบคุมพฤติกรรมผู้เคยกระทำความผิดด้วยกำไลอิเล็กทรอนิกส์มีประสิทธิภาพหรือไม่?
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
ผู้ต้องหาตัดกำไลข้อเท้าและก่อเหตุฆาตกรรมซ้ำ
cr. Yonhap News
สถานีตำรวจซองพา ได้จับกุมชายอายุ 56 ปีนามสกุลคัง ในข้อหาทำลายกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์และฆาตกรรมเหยื่อ 2 ราย โดยเหยื่อรายแรกถูกฆาตกรรมก่อนที่เขาจะหลบหนีและรายที่ 2 เกิดขึ้นระหว่างที่เขาหลบหนีการจับกุม
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกไล่ล่าผู้ต้องหาตั้งแต่วันศุกร์ (27) แต่เวลาประมาณ 8 :00 น.ของวันอาทิตย์ (29) ที่ผ่านมาผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวด้วยตัวเองโดยให้เหตุผลว่าเขากลัวที่จะถูกจับในไม่ช้า จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบร่างเหยื่อในบ้านและรถของผู้ต้องหา ซึ่งเหยื่อเป็นหญิงวัย 40 และ 50 ปีตามลำดับ
ผู้ต้องหารายนี้ถูกปล่อยตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาและต้องสวมกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากที่เขารับโทษจำคุกเป็นเวลา 15 ปีตั้งแต่ปี 2005 ในข้อหาโจรกรรมและความรุนแรงทางเพศ ซึ่งหลังจากการปล่อยตัวเพียง 5 เดือนก็ก่อเหตุซ้ำในคดีลักษณะใกล้เคียงกัน โดยก่อนหน้านี้เขามีความผิดทางอาญา14 คดีซึ่งรวมถึงอาชญากรรมทางเพศ
cr. The Korea Herald
เมื่อวันจันทร์ ตำรวจได้ยื่นขอหมายจับและอัยการยื่นฟ้องต่อศาลทันทีและเมื่อเช้าวันอังคาร (31) หลังจากการพิจารณาคดีสิ้นสุดลงประมาณหนึ่งชั่วโมง นักข่าวได้ถามเกี่ยวกับแรงจูงใจในการก่ออาชญากรรมซึ่งเขาตอบว่า “น่าเสียดายที่ไม่ได้ฆ่ามากกว่านี้”
การกระทำของเขาทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตามอาชญากรทางเพศที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางเพศ กำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ได้เริ่มใช้ในปี 2008 เพื่อระบุตำแหน่งของอดีตนักโทษผ่านข้อมูลที่ส่งโดยสถานี อุปกรณ์ช่วยติดตามตำแหน่งของผู้สวมใส่ แต่ยังมีข้อสงสัยว่าอุปกรณ์นี้สามารถป้องกันการทำผิดซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่?
cr. The Korea Herald
ตามกฎหมายเมื่อผู้สวมใส่ทำอุปกรณ์เสียหายจะถูกจำคุกสูงสุด 7 ปีหรือปรับ 20 ล้านวอนแต่การลงโทษที่รุนแรงเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริง โดยโทษเฉลี่ยจนถึงตอนนี้คือจำคุก 9 เดือนและปรับ 4.5 ล้านวอน ศาสตราจารย์ด้านการบริหารตำรวจ Dongguk University กล่าวว่า “กำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นวิธีที่คาดหวังให้อาชญากรที่มีแนวโน้มว่าจะเลิกก่ออาชญากรรมทางจิตใจ แต่ไม่สามารถหยุดคนที่เต็มใจก่ออาชญากรรมได้”
นอกจากนั้นควรให้อำนาจและกำลังคนแก่ตำรวจมากขึ้น เพื่อป้องกันผู้กระทำความผิดทางเพศจากการก่ออาชญากรรมอีกครั้ง เพราะหลังจากที่เขาทำให้กำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์เสียหาย ตำรวจก็ไปเยี่ยมบ้านของเขาถึง 5 ครั้ง แต่ไม่สามารถเข้าไปในบ้านได้เนื่องจากไม่มีหมายค้น
ตำรวจที่ถูกส่งไปนั้นไม่รู้ว่าเขาเป็นอาชญากร เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนของอาชญากรมีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงเท่านั้นที่สามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของอดีตนักโทษได้ หากตำรวจรู้ว่าเขาเป็นผู้ร้ายที่มีความผิดทางอาญา 14 คดี พวกเขาอาจใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นและอาจพบศพคนแรกในบ้านของเขาตั้งแต่แรก
ที่มา The Korea Herald (1) , (2)
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand