สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#ไอดอลเกาหลี #KPOP
#BI #ยางฮยอนซอก
คดีของ BI อดีตหัวหน้าวง iKON และอดีตประธานค่าย YG Entertainment ยางฮยอนซอกยังไม่สิ้นสุด ตามไปอัพเดทและดูบทสรุปของคดีที่กำลังดำเนินอยู่ ตั้งแต่ข้อกล่าวหาแรกจนถึงข่าวล่าสุดกันค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
อัพเดทคดีของ BI และยางฮยอนซอก
B.I. อดีตหัวหน้าวง iKON ศิลปินในสังกัดของ YG Entertainment หรือคิมฮันบิน ได้ปล่อยอัลบั้มแรก WATERFALL ออกมาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน โดยเพลงของเขาก็ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมเหมือนดั่งเคย แต่เนติเซ่นเกาหลีบางกลุ่มกลับไม่พอใจ เนื่องจากคดีของเขายังไม่สิ้นสุดลงและกลับมาเป็นประเด็นที่พูดถึงอย่างมากอีกครั้ง
โดยในปี 2019 B.I. ได้ตัดสินใจลาออกจากวง iKON เนื่องจากข่าวการซื้อและใช้สารเสพติดในปี 2016 โดยยางฮยอนซอก ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของ YG Entertainment ก็ถูกตั้งข้อหาพยายามปกปิดคดี ทำให้ทั้งบีไอและยางฮยอนซอกถูกตั้งข้อหาและอยู่ระหว่างรอการพิจารณาคดีซึ่งยังไม่สิ้นสุดลงในปัจจุบัน เราจึงจะรวบรวมบทสรุปล่าสุดของคดีซึ่งเริ่มขึ้นในปี 2016 ให้กับทุกคนได้ทำความเข้าใจและอัพเดทข้อมูลไปพร้อมๆกันค่ะ
cr: dispatch
ข่าวนี้เริ่มต้นขึ้นเนื่องจากวันที่ 22 สิงหาคม 2016 "ฮันซอฮี" อดีตเด็กฝึกในสังกัด YG Entertainment ถูกจับกุมเนื่องจากฝ่าฝืน พ.ร.บ. ควบคุมยาเสพติด และถูกตำรวจยึดโทรษัพท์มือถือจากบ้านของเธอที่เต็มไปด้วยบทสนทนาต่างๆ รวมถึงการพูดคุยระหว่างเธอกับบีไอเกี่ยวกับสารเสพติดในช่วงเดือนเมษายน 2016
โดยในแชท B.I. ได้ถามฮันซอฮีเกี่ยวกับการซื้อ LSD หรือ lysergic acid diethylamide ซึ่งเป็นยาเสพติดที่มีฤทธิ์หลอนประสาทอย่างรุนแรงจำนวน 10 โดส ไม่เพียงเท่านั้นยังสอบถามเกี่ยวกับการใช้ LSD และกัญชาร่วมกันอีกด้วย
cr: dispatch
ในขณะที่ถูกจับกุมตัว ฮันซอฮีได้กล่าวอ้างอิงถึงการซื้อยาเสพติดของบีไอ เธอบอกกับตำรวจว่าเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2016 เธอได้ส่ง LSD 10 โดสไปยังสถานที่ใกล้กับที่พักของบีไอตามคำขอของเขา หลังจากเหตุการณ์เหล่านี้ ผู้ค้ายาที่รู้จักกันในชื่อ ”A” ก็ถูกจับกุม โดยหลังจากที่ A ถูกจับตำรวจก็ตรวจพบชื่อของบีไอในหมู่ผู้ที่ซื้อยาจากเขา
แต่ในวันที่ 30 สิงหาคม 2016 ฮันซอฮีได้กลับให้การของเธอเกี่ยวกับการซื้อยาเสพติดของบีไอ โดยเธอกล่าวว่าบีไอได้ขอให้เธอซื้อ LSD ให้ แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่ได้ตัดสินใจซื้อมัน และเมื่อถูกถามว่าบีไอได้และใช้กัญชามาเมื่อไรและที่ไหน ฮันฮอซีกลับกล่าวว่าเธอไม่รู้ ด้วยเหตุนี้ กรมตำรวจยงอินจึงตัดสินว่าหลักฐานที่พวกเขาได้รับมานั้นไม่เพียงพอที่จะเรียกบีไอเข้ามาเพื่อทำการสอบสวน
หลังจากนั้นเกือบ 3 ปี ในวันที่ 10 มิถุนายน 2019 YG Entertainment ค่ายต้นสังกัดของ B.I ในตอนนั้นก็ได้รับการติดต่อเพื่อสอบถามเกี่ยวกับคดีนี้อีกครั้ง โดยค่ายได้ทำการปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการใช้สารเสพติดของบีไออย่างหนักแน่น พร้อมกล่าวว่า YG Entertainment มีการตรวจสอบและจัดการเกี่ยวกับการใช้สารเสพติดทุกประเภทอย่างเคร่งครัดกับศิลปินทุกคน ซึ่งบีไอไม่เกี่ยวคดียาเสพติดปี 2016
ซึ่งทาง YG มีการซื้อชุดทดสอบสารเสพติดอย่างง่ายทุกๆ 2 เดือนจากสหรัฐอเมริกาและทำการทดสอบศิลปินในสังกัด ซึ่งสมาชิก iKON ทุกคนรวมถึงบีไอก็ได้รับการตรวจสอบเพื่อหาสารเสพติดก่อนการโปรโมตแต่ไม่มีสมาชิกคนพบสารเสพติดในร่างกาย
cr: instagram @shxxbi131
ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2019 บีไอได้ทำการยอมรับว่าเขาเคยมีความคิดที่จะใช้สารเสพติด และตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นสมาชิกวง iKON โดยเขาได้โพสต์ข้อความดังกล่าวลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวของเขา พร้อมกล่าวขอโทษสำหรับ “พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม” ของเขา รวมถึงอธิบายถึงสาเหตุที่เขาเคยตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องในปี 2016
โดยเนื้อความในจดหมายเขียนว่า
"ผม คิมฮันบิน
ก่อนอื่นต้องขอโทษที่ทำให้เกิดความวุ่นวายจากการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งของตัวเอง
เป็นเรื่องจริงที่ผมได้สนใจสิ่งที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยวเพราะผมอยากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากและเจ็บปวด อย่างไรก็ตามผมก็กลัวที่จะลองมัน
ผมรู้สึกละอายและรู้สึกผิดต่อแฟนคลับ รวมถึงเมมเบอร์ที่ต้องมาผิดหวังและเจ็บปวดเพราะคำพูดและการกระทำของผม
ผมจะขอสำนึกผิดในการกระทำของตัวเอง และขอถอนตัวจากวง
ผมอยากขอโทษอีกครั้งด้วยความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ต่อแฟนคลับและสมาชิกในวง ขอโทษครับ"
วันถัดมา 12 มิถุนายน 2019 KBS ได้เปิดเผยรายงานพิเศษที่มีรายละเอียดว่ายางฮยอนซอกผู้ก่อตั้ง YG Entertainment ถูกกล่าวหาว่าบังคับให้ฮันซอฮีกลับคำให้การองเธอเกี่ยวกับการซื้อยาของบีไอ
โดยวันที่ 23 สิงหาคม 2016 1 วันหลังจากฮันโซฮีถูกจับ เธอได้รับโทรศัพท์จาก YG Entertainment และได้เดินทางไปพบกับยางฮยอนซอกที่ออฟฟิศของเขา ซึ่งมีรายงานว่าเขาเรียกร้องให้ฮันซอฮีเปลี่ยนคำพูดของเธอเกี่ยวกับบีไอ รวมทั้งจ้างที่ปรึกษาทางกฎหมายให้กับเธอ
cr: owhyes
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2016 ฮันซอฮีไปเดินทางไปยังสถานีตำรวจพร้อมกับทนายความคนใหม่ของเธอและได้กลับคำให้การของเธอ โดยระบุว่าบีไอไม่ได้ตัดสินใจซื้อยาเสพติดดังกล่าว ด้านเจ้าหน้าที่ “ชเว” ผู้ที่ทำการสืบสวนคดีนี้กล่าวว่าเขารู้สึกว่าทั้งทนายและฮันซอฮีทำตัวแปลกๆระหว่างการสอบสวน พร้อมกล่าวเสริมว่าทนายความ “ดูปกป้องฮันบินเกินไป” และฮันซอฮีดูเหมือนกำลัง “ถูกข่มขู่” อยู่
ตามรายงานของ KBS YG Entertainment กล่าวว่าพวกเขาได้พบกับฮันซอฮีจริงเพื่อตรวจสอบความถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องราวของคดียาเสพติดของ B.I แต่พวกเขาไม่เคยบังคับให้เธอเปลี่ยนคำให้การ และก็ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายกับเธอด้วยเช่นกัน
cr: MBC News
Newsdesk ของ MBC ได้มีการออกรายงานเกี่ยวกับคำให้การที่เปลี่ยนไปของฮันซอฮีเช่นกัน โดยในระหว่างการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ MBC ฮันซอฮีอ้างว่าเธอจะ “มีปัญหากับยางฮยอนซอก” หากยังคงพูดถึง B.I.
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2019 รายงานของ MBN News ได้ตั้งสงสัยว่าสำนักงานอัยการแห่งชาติอาจช่วย YG Entertainment ในการปกปิดคดียาเสพติดของบีไ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ามีการกำจัดหลักฐานและไฟล์ของตำรวจที่เกี่ยวข้องกับบีไอ พวกเขาระบุว่าสำนักงานอัยการได้เรียกร้องให้หยุดการสอบสวนและตรวจหา รวมถึงส่งมอบไฟล์ทั้งหมด
MBN News รายงานว่าสำนักงานอัยการร้องขอไฟล์ทั้งหมดสำหรับคดีของบีไอ หลังจากส่งคดีถึงอัยการแล้ว ตำรวจยังคงสอบสวนบีไออย่างอิสระเป็นเวลา 6 เดือน จนถึงเดือนมีนาคม 2560 และการสอบสวนสิ้นสุดลงโดยไม่มีผล
ซึ่ง MBN News ได้มีการรายงานเพิ่มเติมว่าสำนักงานอัยการได้ร้องขอไฟล์ทั้งหมดของคดีที่เกี่ยวข้องกับบีไอ ซึ่งหลังจากส่งข้อมูลไปยังอัยการแล้ว ตำรวจยังคงสอบสวนบีไอต่ออีกเป็นเวลากว่า 6 เดือน จนถึงเดือนมีนาคม 2017 ซึ่งการสอบสวนสิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อสรุป
cr: 경인종합일보
แม้ว่าสถานีตำรวจยงอินดงบูจะระบุว่าไฟล์ดังกล่าวถูกส่งไปแล้ว แต่ก็ไม่มีรายการใดๆว่าสำนักงานอัยการเขตซูวอนได้เริ่มต้นทำการสอบสวนเกี่ยวกับคดีของ B.I หรือฮันโซฮี และเมื่อสำนักงานอัยการถูกถามว่าทำไมถึงไม่มีอะไรทำเกี่ยวกับบีไอและฮันซอฮี พวกเขากลับอ้างว่าไม่เคยได้ขออกสารจากตำรวจ
โดยสำนักอัยการได้กล่าวเสริมว่าไม่เป็นความจริงที่เราขอให้ตำรวจส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีเกี่ยวยาเสพติดของบีไอหรือฮันซอฮีมาให้ แต่เป็นความจริงที่ว่าเรากำลังสอบสวน YG Entertainment ซึ่งไม่สามารถยืนยันหรือแจ้งได้ว่าเรากำลังสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องอะไร
cr: KBS 9’O Clock News
ในช่วงเวลาเดียวกัน ในการให้สัมภาษณ์กับ KBS 9’O Clock News ของฮันซอฮีระบุว่ายางฮยอนซอกอาจมีความสัมพันธ์กับตำรวจ เธอกล่าวว่า 'เขาบอกว่าแม้ว่าเธอจะอยู่ในวงการบันเทิงต่อแต่มันง่ายมากที่เขาจะทำลายเธอ' และ 'เขาก็สามารถตรวจสอบได้ว่าเธอเปลี่ยนคำพูดในการสอบสวนหรือไม่ เพราะเขาสามารถดูคำสอบปากคำของเธอได้' ทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องและสามารถแทรกแทรงตำรวจหรือการดำเนินคดีได้
มีการเปิดเผยว่าก่อนการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ฮันซอฮีได้นำข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการสมรู้ร่วมคิดของ YG Entertainment กับตำรวจไปยังคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตและสิทธิพลเมือง (ACRC) โดยวันที่ 4 มิถุนายน 2019 ฮันซอฮีได้ยื่นคำร้องต่อสาธารณะแบบไม่เปิดเผยตัวตนกับ ACRC ผ่านทนายความบังจองฮยอนซึ่งเป็นที่รู้จักเนื่องจากได้ทำรายงานเกี่ยวกับความน่าสงสัยของคดี Burning Sun
cr: dispatch
ซึ่งไม่นานหลังจากที่ฮันซอฮียื่นคำร้องต่อสาธารณะกับ ACRC สำนักงานตำรวจจังหวัดคยองกี นัมบูได้จัดตั้งทีมเพื่อสอบสวนคดีนี้อีกครั้ง หลังจากหารือกันภายในแล้ว พวกเขาตกลงที่จะเปิดการสอบสวนอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2019 สำนักงานตำรวจจังหวัดคยองกี นัมบูได้ให้ข้อมูลอัปเดตโดยระบุว่าเป็นไปได้สูงที่จะทำการสอบสวนคดีของบีไออีกครั้งและการสอบสวนจะถูกจัดขึ้นที่สำนักงานนัมบู แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะมีการสอบสวน
โดยหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ตำรวจประกาศว่าบีไอจะถูกเรียกตัวไปซักถามและสอบปากคำหลังจากวันหยุดเทศกาลชูซอก ซึ่งยางฮยอนซอกก็จะถูกสอบสวนด้วยเช่นกันเกี่ยวกับการแทรกแทรงคดี ว่าเขาได้ทำการบังคับให้ฮันซอฮีเปลี่ยนคำให้การของเธอเพื่อเปลี่ยนแปลงผลสรุปของคดีหรือไม่
ในระหว่างการสอบสวน ตำรวจได้สอบถามบีไอว่าเขาเคยขอให้ฮันซอฮีจัดหากัญชาให้หรือไม่ รวมถึงเคยใช้กัญชาหรือไม่ โดยหลังจากการสอบสวนนานกว่า 14 ชั่วโมง ในวันที่ 18 กันยายน 2019 บีไอก็ยอมรับข้อกล่าวหาบางประการ โดยมีรายงานว่าหนึ่งในข้อหาเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการใช้กัญชา ทำให้ตำรวจรายงานว่าบีไอตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการใช้สารเสพติด
cr: nme
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2019 ยางฮยอนซอกถูกเรียกตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจเกี่ยวกับการข่มขู่ให้ฮันซอฮีกลับคำให้การเกี่ยวกับการใช้สารเสพติดของบีไอ โดยในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2020 3 เดือนหลังจากการสอบสวน ตำรวจได้แถลงการณ์ว่า พวกเขาพบหลักฐาน “ยืนยัน” ว่ายางฮยอนซอกติดสินบนและข่มขู่ฮันซอฮีให้นิ่งเงียบเกี่ยวกับคดีของบีไอจริง
ด้านยางฮยอนซอกก็ให้การปฏิเสธอย่างต่อเนื่องว่าเขาไม่ได้มีการเรียกให้ฮันซอฮีให้เข้าไปพบที่ออฟฟิศ โดยมีจุดประสงค์เพื่อโน้มน้าวให้เธอเปลี่ยนคำให้การ แต่ทางตำรวจกลับกล่าวว่าการปฏิเสธของเขา “ขาดความน่าเชื่อถือ” โดยพบว่ามีบุคคลที่สามชื่อ “นาย. Kim” อยู่ในห้องระหว่างการประชุมของยางฮยอนซอกและฮันซอฮีอีกด้วย ซึ่งคิมมีความเกี่ยวข้องกับ YG Entertainment ไม่เพียงเท่านั้นยังได้รับรายงานว่าเป็นเขาผู้จัดหาทนายความคนแรกให้กับฮันซอฮีอีกด้วย
โดยตำรวจพบว่าคำให้การของนายคิมไม่ตรงกันกับยางฮยอนซอก ทำให้คำกล่าวของยางถูกลดความน่าเชื่อถือลง ไม่เพียงเท่านั้นยังพบหลักฐานใหม่ที่สามารถยืนยันได้ว่ายางฮยอนซอกข่มขู่ฮันซอฮีจริง
cr: koreaherald
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2020 Sports World รายงานว่าบีไอได้รับการทดสอบยาเสพติดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนของสำนักงานตำรวจจังหวัดคยองกี นัมบู โดยตำรวจได้เก็บตัวอย่างผมของบีไอและส่งไปยังสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติเพื่อตรวจแต่ไม่พบร่องรอยของการใช้ยาเสพติด
แต่แม้ผลจะออกมาเป็นลบ การสอบสวนเกี่ยวกับการใช้ยาของบีไอยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากในระหว่างการสอบสวนของเขาในเดือนกันยายน 2019 มีรายงานว่าบีไอยอมรับว่าเคยใช้กัญชา ทำให้ตำรวจจำเป็นต้องส่งต่อคดีนี้ไปยังอัยการ ที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาในการซื้อและใช้ยาเสพติดของบีไอ
สี่เดือนหลังจากการทดสอบยาของบีไอ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2020 อัยการเรียกฮันซอฮีไปที่สำนักงานอัยการเขตกลางกรุงโซลเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของยางฮยอนซอกในคดียาเสพติดนี้ หลังจากที่เธอมาถึง ทนายความของฮันซอฮีได้ย้ำว่ายางฮยอนซอกข่มขู่ลูกความของเขา
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2021 Yonhap News รายงานว่าอัยการได้ตั้งข้อหายางฮยอนซอก เนื่องจากพยายามปกปิดคดีการใช้สารเสพติดของศิลปินด้วยการติดสินบน โดยสำนักงานอัยการเขตกลางกรุงโซลประกาศว่ายางฮยอนซอกละเมิดกฎหมายการลงโทษเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาชญากรรมเฉพาะ โดยการข่มขู่เพื่อปกปิดความผิดเบื้องต้น
ซึ่งการสืบสวนพบว่ายางฮยอนซอกพยายามที่จะเปลี่ยนคำแถลงของฮันซอฮีต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและสิทธิพลเมือง ทำให้เขาจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาลในไม่ช้านี้
และในวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2564 บีไอได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการผ่านทางบริษัท IOK Company เกี่ยวกับคำฟ้องในข้อหาละเมิดกฎหมายยาเสพติด ตามคำแถลง บีไอกำลังเผชิญกับข้อหายาเสพติดทั้งหมด 9 ข้อและขณะนี้กำลังรอผลคำตัดสินขั้นสุดท้าย ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 9 กรกฎาคม 2021
โดยแถลงการณ์ของบริษัท IOK กล่าวว่า
cr: hype
สวัสดี นี่คือ IOK Company
ทางเราจะทำการชี้แจงเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของ B.I. ศิลปินในสังกัด
ข้อกล่าวหาของศิลปินในสังกัดของเราที่ข้องกับการซื้อสารเสพติด ซึ่งคดีดังกล่าวดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งทาง B.I. ได้เข้าร่วมการสอบสวนและกระบวนการทางกฎหมาย รวมทั้งเข้ารับการทดสอบเพื่อหาสารเสพติดในร่างกายรวมทั้งหมด 9 ครั้ง และกำลังอยู่ในระหว่างรอการตัดสินคดีความครั้งสุดท้ายของเขา
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว บีไอและบริษัทได้มีการพิจารณาหารือเพื่อกำหนดทิศทางในอนาคตของเขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางบริษัทและตัวศิลปินได้ตระหนักถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีต แม้เพวกเราจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตได้ แต่ทางเราก็ได้ตริตรองถึงวิธีและการใช้ชีวิตที่เหลือของเขาในฐานะพลเมืองที่ดีของสังคมและผู้ที่มีประโยชน์ต่อโลกมากยิ่งขึ้น
แทนที่จะเป็นเพียงการกลับมาหรือทำการสำนึกผิดอย่างต่อเนื่อง พวกเราหวังว่าศิลปินของเราจะสามารถเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันและผู้มีอิทธิพลในการคลื่อนไหวทางด้านการช่วยเหลือสังคมไม่มากก็น้อย ด้วยความตั้งใจนี้ ทางเราจึงได้ออกอัลบั้มการกุศล "Midnight Blue" ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว พวกเรารู้สึกว่าดนตรีมีอิทธิพลและสามารถช่วยเหลือสังคมได้มากกว่าที่คิด ด้วยความตั้งใจที่จะถ่ายทอดผลงานที่ B.I. ได้เตรียมไว้ เราจึงตัดสินใจปล่อยอัลบั้มล่าสุดออกมา ซึ่งทางเราต้องขอโทษสำหรับการปล่อยอัลบั้มใหม่ออกมาในช่วงที่ยังมีประเด็นที่น่ากังวลเกี่ยวกับศิลปินของเราอยู่
พวกเขาขอโทษอีกครั้งอย่างจริงใจเกี่ยวกับการกระทำที่เร่งรีบ ที่ทำให้แฟนคลับผู้ที่คอยสนับสนุนและให้กำลังใจ B.I. อยู่เสมอรู้สึกกังวล
ในตอนนี้ ศิลปินของเรากำลังอยู่ในช่วงการรอคอยการสิ้นสุดคดีของเขา ในส่วนของบริษัทก็ขอกล่าวคำขอโทษอีกครั้งอย่างจริงใจและจะพยายามทบทวนเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นอีก เราจะอยู่เคียงข้างศิลปินเพื่อช่วยเขามีชีวิตที่เป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้นและเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม
ขอบคุณ IOK Company
ที่มา: yonhap news, daum, chosun, sport world, dispatch 1, dispatch 2, dispatch 3, donga, startoday, hype, mne
ตอนนี้คดีของ B.I. ยังไม่สิ้นสุดลง โดยจะมีการตัดสินครั้งสุดท้ายในวันที่ 9 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งทางเราจะมาอัพเดทให้อีกครั้งหลังจากคดีความสิ้นสุดลง
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand