สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#การเซ็นเซอร์ #รายการทีวี
#วัฒนธรรม #เกาหลี
วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกการเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ของรายการวาไรตี้เกาหลีกันค่ะ! มาดูกันดีกว่าว่าที่เกาหลีเนี่ยจะต้องตัดหรือเซ็นเซอร์อะไรออกบ้าง แล้วจะทำให้หมดความสนุกหรือทำให้ความหมายเปลี่ยนไปขนาดไหนกันนะ? ไปดูกันเลยค่ะ!
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง｜สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
การเซ็นเซอร์ของเกาหลี
ทุกคนเคยรู้สึกอึดอัดกับการเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ในรายการวาไรตี้ของเกาหลีมั้ยคะ? ในประเทศเกาหลีใต้นั้นมีการเซ็นเซอร์มากมายในการออกอากาศของรายการทีวีเพื่อปกป้องเยาวชนค่ะ และบางครั้งก็มีการใช้ภาพโมเสคหรือการตัดเสียงทิ้งเพื่อป้องกันความสุ่มเสี่ยงของคำหยาบหรือสิ่งผิดกฎหมายสำหรับเด็ก ๆ ด้วย กล่าวกันว่ากฎหมายเกาหลีกำหนดให้ "มีการกำหนดข้อจำกัดด้านอายุสำหรับเนื้อหาที่จะส่งผลเสียต่อเยาวชน" ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเซ็นเซอร์สิ่งต่าง ๆ ออกไปนั่นเองค่ะ
1. รอยสัก
รอยสักถือเป็นสิ่งแรก ๆ ที่จะต้องทำการเซ็นเซอร์ในปีเทศเกาหลีใต้เลยละค่ะ ถ้าใครที่เป็นแฟนเพลงแนวฮิปฮอปและชอบดูรายการ Show Me The Money แล้วล่ะก็ น่าจะได้เห็นการเซ็นเซอร์รอยสักได้บ่อย ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะมาใส่ภาพโมเสคเพื่อเบลอรอยสักทีหลังหรือให้ศิลปินใช้เทปกาวปกปิดก็เห็นได้ในทุกรายการทีวีของเกาหลีเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามไม่มีข้อบังคับหรือกฎหมายใด ๆ เกี่ยวกับการเซ็นเซอร์รอยสักค่ะ และว่ากันว่าการเซ็นเซอร์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับรอยสักจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทีมผู้ผลิตเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ต้องคำนึงถึงรอยสักก็เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อเยาวชนได้นั่นเองค่ะ เด็ก ๆ ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอาจจะถูกหล่อหลอมให้เห็นการมีรอยสักเป็นเรื่องปกติไปได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็มีการเรียกร้องให้เคารพเสรีภาพในการแสดงความเป็นปัจเจกบุคคลเช่นกันค่ะ
2. บุหรี่
บุหรี่ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่มักจะมีการเซ็นเซอร์ค่ะ ไม่ว่าจะในรายการทีวีหรือในซีรีส์เกาหลีก็ตาม กล่าวกันว่าหากยังไม่ได้จุดบุหรี่เพื่อสูบก็ยังไม่จำเป็นต้องเซ็นเซอร์ค่ะ ถ้าแค่ถือบุหรี่ไว้ในมือหรือคาบไว้ในปากแต่ยังไม่ได้สูบก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าจุดสูบเมื่อไหร่ก็จะต้องโดนเซ็นเซอร์ทันทีค่ะ! แปลกสุด ๆ!
ถ้าแค่คาบไว้ในปากก็ยังไม่โดนเซ็นเซอร์ใด ๆ
แต่พอจุดไฟเพื่อสูบปุ๊บก็โดนเซ็นเซอร์ปั๊บ!
ไม่เพียงแต่ซีรีส์และภาพยนตร์ในประเทศเท่านั้น แต่ยังมีเซ็นเซอร์สิ่งที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนในรายการต่าง ๆ ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแอนิเมชั่นหรือคอนเทนต์อะไรก็ตามค่ะ อย่างในภาพด้านบนก็มีการเพิ่มอมยิ้มเข้าไปแทนบุหรี่ของซันจิเฉยเลยค่ะ
3. เลือด
ปัจจุบัน Netflix ในเกาหลีใต้มีปัญหาในการนำการประมวลผลภาพโมเสคไปใช้กับแอนิเมชั่นสำหรับผู้ใหญ่และทำให้ผู้ชมรู้สึกรำคาญมาก ๆ เลยละค่ะ เพราะว่าบางฉากที่กำลังจริงจังหรือกำลังซึ้ง ๆ พอโดยเซ็นเซอร์ก็ไม่เหลืออรรถรสใด ๆ แล้วค่ะ! โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแอนิเมชั่นของญี่ปุ่นนั้นมักจะมีฉากต่อสู้ที่ต้องมีเลือดอยู่หลายครั้ง แต่ในเกาหลีนั้นฉากทั้งหมดจะถูกเซ็นเซอร์จนไม่สามารถมองเห็นเลือดได้แม้แต่หยดเดียวเลยละค่ะ เรียกได้ว่าหมดอารมณ์จะดูไปในทันทีเลยทีเดียว! 
มาตรการและการเซ็นเซอร์ดังกล่าวแทบจะไม่มีให้เห็นเมื่อรับชมแอนิเมชั่นเรื่องเดียวกันในประเทศอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เกาหลีใต้ค่ะ นี่ก็แสดงให้เห็นได้เลยว่ากฎระเบียบในการเซ็นเซอร์เพื่อปกป้องเยาวชนของเกาหลีนั้นเข้มงวดเพียงใดค่ะ
4. ฉากทางเพศที่ไม่เหมาะสม
กฎระเบียบเกี่ยวกับฉากทางเพศยังค่อนข้างเข้มงวดมาก ๆ ในเกาหลีใต้ค่ะ โดยเฉพาะการ์ตูนของเด็ก ๆ ก็จะยิ่งเข้มงวดจนบางทีเซ็นเซอร์ออกมาแล้วดูอนาจารกว่าเดิมอีกค่ะ
แต่เจตนาทั้งหมดก็เพื่อปกป้องเยาวชนและเด็ก ๆ ที่ยังไม่มีวิจารณญาณนั่นเองค่ะ กองเซ็นเซอร์จะปฏิบัติตามการกำหนดข้อจำกัดด้านอายุสำหรับเนื้อหาที่จะส่งผลเสียต่อเยาวชนอย่างแข็งขัน จนบางครั้งก็ออกจะมากเกินไปค่ะ
5. คำหยาบ
ในเกาหลีใต้จะมีการใช้คำหยาบคายมาก ๆ ที่เรียกว่า "욕설" ค่ะ และปัญหาสังคมในเกาหลีใต้ตอนนี้ก็คือ "การใช้ภาษาของเยาวชน" นั่นเองค่ะ เนื่องจากตอนนี้สื่อต่าง ๆ นั้นเข้าถึงได้ง่ายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูทีวีหรือในอินเตอร์เน็ต ดังนั้นจึงต้องมีการเซ็นเซอร์คำหยาบออกไปเพื่อช่วยกันปกป้องเยาวชนไม่ให้เลียนแบบนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรังแกกันด้วยคำพูดของเด็ก ๆ ที่อาจจะยังไม่รู้ความหมายของคำหยาบดังกล่าวดีนักด้วยค่ะ
ทางอุตสาหกรรมโทรทัศน์ของเกาหลีก็จะพยายามเซ็นเซอร์คำหยาบเหล่านั้นออกเพื่อบรรเทาปัญหาแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตามค่ะ โดยจะมีการตัดเสียงตอนที่พูดคำหยาบออก หรือไม่ก็เซ็นเซอร์เสียงโดยอาจจะใช้เป็นซาวด์เอฟเฟกต์ตลก ๆ แทนค่ะ แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังสามารถเข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูดได้อยู่ดีแม้ว่าจะโดนเซ็นเซอร์ก็ตามค่ะ
6. โลโก้ที่ไม่ใช่สปอนเซอร์
ในการออกอากาศของรายการวาไรตี้ต่าง ๆ ในเกาหลีใต้นั้น โลโก้ทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นสปอนเซอร์ เช่น เสื้อผ้า, รถยนต์ จะถูกปิดทับด้วยเทปกาวหรือโดนเบลอออกค่ะ นี่ก็ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สนับสนุนรายการนั้น ๆ เนื่องจากหากไม่เซ็นเซอร์ก็อาจจะเป็นการส่งเสริมการขายสำหรับบริษัทอื่นที่ไม่ใช่ผู้สนับสนุนได้นั่นเองค่ะ เนื่องจากสปอนเซอร์เป็นผู้ที่จ่ายเงินสำหรับการผลิตรายการ หากโลโก้ของบริษัทคู่แข่งปรากฏขึ้นในรายการก็มีความเป็นไปได้สูงที่สัญญาของรายการกับสปอนเซอร์จะถูกยกเลิกค่ะ
โบนัส：ฉาก "จู่ ๆ ก็โฆษณา" ในซีรีส์เกาหลี
หากดูซีรีส์เกาหลีบ่อย ๆ ก็จะต้องเห็นฉากโฆษณาที่โจ่งแจ้งในซีรีส์อย่างแน่นอนค่ะ ในเกาหลีโฆษณาทางอ้อมนี้เหล่านี้จะถูกเรียกว่า "PPL" ค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบรนด์ที่เป็นผู้สนับสนุนของซีรีส์เรื่องนั้น ๆ นั่นเอง บางครั้งพอเห็นพระเอกนางเอกในซีรีส์ใช้เราก็อยากจะพุ่งออกไปซื้อมาใช้ตามซะเดี๋ยวนั้นเลยละค่ะ!
แต่ในบางฉากหรือในซีรีส์บางเรื่อง โฆษณาแบบ "PPL" นี้ก็มักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ชมว่าเป็นการโฆษณาสินค้าโดยไม่คำนึงถึงเรื่องราวหรือบรรยากาศของซีรีส์ค่ะ หรือบางครั้งก็ทำเอาฉากนั้น ๆ ออกมาแปลกประหลาดหรือโจ่งแจ้งจนเกินไปเช่นกันค่ะ
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าซีรีส์เกาหลีจะไม่สามารถถ่ายทำโดยไม่มีสปอนเซอร์ได้ค่ะ เหตุผลก็เพราะมีต้นทุนในการผลิตค่อนข้างสูงนั่นเอง และนั่นก็เป็นเหตุให้บางครั้งก็จำเป็นต้องใส่โฆษณาทางอ้อมต่าง ๆ ลงไปด้วยค่ะ นอกจากนี้ซีรีส์เกาหลียังเป็นที่นิยมในต่างประเทศมากมาย ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการโฆษณาก็มักจะได้รับความนิยมเช่นกันค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับการเจาะลึกการเซ็นเซอร์ที่มักจะเห็นบ่อย ๆ ในรายการวาไรตี้ของเกาหลีในครั้งนี้? แม้ในบางครั้งการเซ็นเซอร์อาจจะออกมาดูมากเกินไปหรือทำให้เสียบรรยากาศในการรับชมไปบ้าง แต่เพื่อการป้องกันผลเสียต่าง ๆ ที่จะส่งผลต่อเยาวชนแล้วนั้น ก็ถือเป็นเจตนาที่ดีนะคะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
