สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#วัฒนธรรมเกาหลี #คนเกาหลี
#อาหารเกาหลี #เดลิเวอรี่
แบดัล (배달) แปลว่า "การส่งอาหาร" เป็นหนึ่งในบริการที่มีพัฒนามากที่สุดในเกาหลี ทั้งสะดวกสบายและรวดเร็ว วันนี้เราจะมาแนะนำข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับวัฒนธรรมการส่งอาหารในเกาหลี การพัฒนา และเหตุผลที่บริการนี้ได้รับความนิยมรวมถึงแรงกดดันมหาศาลบนไหล่ของพนักงานส่งอาหารค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
ระบบส่งอาหารเดลิเวอรี่ของเกาหลี
1. พัฒนาการของระบบส่งอาหารเดลิเวอรี่
บริการส่งอาหารกลายเป็นบริการที่มีคนใช้มากที่สุดในเกาหลี ถือเป็นตลาดส่งอาหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกโดยมีมูลค่ารวมสูงถึง 20 ล้านล้านวอนค่ะ

การส่งอาหารครั้งแรกในเกาหลีถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์คือ "แฮจังกุก" (해장국) หรือซุปกระดูกซึ่งเป็นซุปที่มีต้นกำเนิดในกวางจู (해동죽지) มีบันทึกเมื่อปี 1925 โดย ชเว ยอง (최영) ว่า “ผู้คนในปราสาทกวางจูทำอาหารได้ดีมาก พวกเขาต้มซุปกับกะหล่ำปลี, ถั่วงอก, เห็ด, เห็ดชิตาเกะ, ซี่โครงเนื้อ, ปลิงทะเล, หอยเป๋าฮื้อ... เป็นเวลา 1 วัน จากนั้นจึงบรรจุซุปในขวดห่อด้วยผ้าฝ้ายและส่งไปยังเมืองหลวง เมื่อเสียงกริ่งดังขึ้นก็ถึงเวลาที่ซุปไปถึงหน้าบ้านขุนนางโดยที่ซุปยังอุ่นและดื่มได้ดี” ซึ่งถือว่าเป็นประวัติการจัดส่งของเกาหลีได้ปรากฏในประวัติศาสตร์ค่ะ

ตอนนี้ทุกคนในเกาหลีสามารถใช้บริการเดลิเวอรี่ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้จำเป็นต้องโทรหาร้านอาหารเพื่อสั่ง แต่ตอนนี้สามารถสั่งผ่านแอปพลิเคชั่นได้เพียงไม่กี่ขั้นตอนค่ะ โดยมีแอปสั่งอาหาร 2 แอปพลิเคชั่นที่ใหญ่ที่สุดคือ Baemin และ Yogiyo
แต่เมื่อเร็วๆนี้ Coupang ก็เปิดตัวแอปพลิเคชั่น Coupang eats ที่สามารถสั่งได้ทุกอย่างตั้งแต่ข้าว ซุป แฮมเบอร์เกอร์… แม้แต่ไอศกรีม บิงซู แทนที่จะต้องทำอาหารหรือออกไปกินข้าว คนเกาหลีจึงนิยมสั่งอาหารเดลิเวอรี่โดยเฉพาะในช่วงที่การระบาดของโควิดค่ะ
2. ทำไมการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ถึงเป็นที่นิยมในเกาหลี?
วัฒนธรรมการใช้ชีวิตกลางคืนของคนเกาหลี
คนเกาหลีมักมีนิสัยชอบกินตอนกลางคืนหลังจากทำงานเสร็จหรือตอนดูหนังหรือแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนๆที่บ้าน โดยมักจะสั่งไก่ทอด, พิซซ่า, จกบัล และของทอดมากิน เพื่อรองรับความต้องการนี้จึงมีร้านค้ามากมายเปิดในเวลากลางคืน นำไปสู่การพัฒนาบริการส่งอาหารค่ะ
ความสะดวกของบริการส่งอาหาร

ด้วยการพัฒนาของสมาร์ทโฟน แอปพลิเคชั่นส่งอาหารก็ถือกำเนิดขึ้นและได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนเกาหลี เพราะไม่จำเป็นต้องทำอาหารเอง, ไม่ต้องออกไปข้างนอก, ไม่ต้องโทรหาร้านอาหารเพื่อสั่งอาหาร เพียงแค่กดสั่งผ่านโทรศัพท์ค่ะ
แอปสั่งอาหารที่ใช้มากที่สุดในเกาหลี 2 แอปคือ Baemin และ Yogiyo แอปพลิเคชั่นนี้มีฟังก์ชั่นการค้นหาและแสดงร้านอาหารที่อยู่ใกล้ที่พักมากที่สุด ในแอปนี้มีเมนู ราคา และรีวิวร้านอาหารทั้งหมด สามารถเลือกดูได้ก่อนตัดสินใจสั่งค่ะ และการชำระเงินผ่านแอปเหล่านี้ทำได้ง่ายมากเช่น ชำระด้วยบัตร, Kakaopay หรือชำระเงินปลายทางค่ะ
เพราะคนเกาหลีชอบอยู่คนเดียว

จำนวนคนที่อยู่คนดียวในเกาหลีตั้งแต่ปี 1995 ถึง 2018 (ล้านครัวเรือน) cr. statista
ตอนนี้เทรนด์การอยู่คนเดียวในเกาหลีกำลังเพิ่มขึ้น เมื่อปี 1995 มีจำนวนคนที่อยู่คนเดียวในเกาหลีมีเพียง 1.64 ล้านครัวเรือนแต่ในปี 2018 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 3.5 เท่าเป็น 5.85 ล้านครัวเรือน หลายคนที่อยู่คนเดียวรู้สึกกลัวการทำอาหารจึงมักจะสั่งอาหารเดลิเวอรี่ค่ะ
3. ความกดดันของพนักงานส่งอาหาร
ผู้ส่งอาหารส่วนใหญ่ในเกาหลีใช้มอเตอร์ไซค์เพราะประหยัด เข้าได้ทุกซอกทุกมุมและหาที่จอดรถได้ไม่ยาก แต่หลายครั้งที่พวกเขามักจะขับรถแบบอันตราย เพราะขับเร็วเกินไปและฝ่าไฟแดง มีผู้ส่งอาหารจำนวนมากที่เป็นวัยรุ่นและขับรถจึงค่อนข้างประมาทค่ะ

cr. hankyung.com
มีอุบัติเหตุจราจรมากมายที่เกี่ยวข้องกับผู้ส่งอาหาร โดยตามสถิติในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2020 เกาหลีมีอุบัติเหตุจราจร 5,000 ครั้ง จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากมอเตอร์ไซค์เพิ่มขึ้นมากกว่า 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่กล่าวว่าจำนวนอุบัติเหตุและการเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นเนื่องจากคำสั่งซื้อจัดส่งอาหารที่เพิ่มขึ้นเมื่อมีการแพร่ระบาดของโควิด (ที่มา : imbc)
แล้วทำไมคนส่งของเหล่านี้ต้องขับรถโดยประมาทเลินเล่อ? เพราะพนักงานส่งอาหารในเกาหลีกลัวการส่งอาหารล่าช้า
เกาหลีมีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรม "ปัลรี่ ปัลรี่" ทุกอย่างต้องรวดเร็วการจัดส่งก็เช่นกัน อย่างแรกคือ หากส่งอาหารช้าอาหารจะไม่อร่อยอีกต่อไป ลูกค้าจะรีวิวไม่ดีเกี่ยวกับร้าน อย่างที่ 2 คือเนื่องจากวัฒนธรรมเกาหลีที่ทำทุกอย่างอย่างรวดเร็ว พวกเขายังต้องการให้ส่งอาหารอย่างรวดเร็วทำให้ผู้ส่งต้องขับรถค่อนข้าง "เสี่ยง" เพื่อส่งอาหารด้วยวิธีที่เร็วที่สุดค่ะ
นอกจากนี้คนขับรถจะได้รับเงินประมาณ 3,500 วอนสำหรับการจัดส่งแต่ละครั้ง ยิ่งส่งเร็ว ยิ่งได้เงินมาก หลายคนจึงขับรถประมาทเพื่อหารายได้เสริมให้ตัวเอง แม้ในวันที่อากาศร้อนหรือฝนตกหนักเมื่อลูกค้าโทรมาก็ต้องไปส่งค่ะ

cr: hankookilbo.com
ด้วยแรงกดดันเหล่านี้ทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตราย แม้กระทั่งเสียชีวิต ชิน ซองซับคนงานก่อสร้างอายุ 27 ปีในกรุงโซลกล่าวว่า "ฉันเริ่มต้นทำงานด้วยการโกหกเจ้านายว่าฉันมีใบขับขี่รถจักรยานยนต์เมื่ออายุ 17 ปี"
โดยเขาทำงานในร้านอาหารท้องถิ่นหลายแห่งกับเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายในเขตชานเมืองกูริและได้รับเงินประมาณ 250,000 วอน (ประมาณ 7,000 บาท) ต่อสัปดาห์ ถ้าเขาทำงานทุกวันหลังเลิกเรียน เขาจำได้ว่าเคยประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนประมาณ 2-3 ครั้งแต่โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส “มีหลายครั้งที่มีคำสั่งซื้อมากกว่า 10 รายการรอการจัดส่ง ดังนั้นผมจะพยายามส่ง 3-4 รายการในคราวเดียว”
เขาบอกว่าเขาขับรถฝ่าไฟแดง ขับระหว่างรถ และขับเร็วเกินไป โดยถ้าหากมอเตอร์ไซค์ที่เขาใช้นั้นเก่าและพังก็จะมีมอเตอร์ไซค์ใหม่และต้องตรวจร่างกายเป็นประจำ (ที่มา: scmp)

cr: 딜리버리히어로코리아
เนื่องจากอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์เพิ่มสูงขึ้น แอปพลิเคชั่นสั่งอาหารจึงเริ่มเสนอโปรแกรมการศึกษาความปลอดภัยทางถนนสำหรับผู้ส่ง ด้วยความพยายามเหล่านี้หวังว่าอุบัติเหตุจราจรที่เกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์จะลดลงค่ะ
นี่ก็คือเรื่องราวของการส่งอาหารเดลิเวอรี่ของเกาหลีค่ะ ตอนนี้ที่ไทยของเราก็น่าจะนิยมการสั่งอาหารเดลิเวอรี่เหมือนกันถ้าส่งช้านิดช้าหน่อยก็เห็นใจคนส่งด้วยนะคะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี

