สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#โทนเนอร์ #เครื่องสำอาง
#โทนเนอร์เกาหลี #สกินแคร์
วันนี้เราจะมาพาทุกคนไปทำความรู้จักกับโทนเนอร์ 5 อันดับแรกที่คนเกาหลีแนะนำกันค่ะ ไปดูกันดีกว่าว่าคนเกาหลีที่ขึ้นชื่อว่าผิวดีสุด ๆ เนี่ยเค้าใช้โทนเนอร์ตัวไหนกันนะ? เนื่องจากโทนเนอร์เป็นสิ่งจำเป็นในการดูแลผิวของสาว ๆ ทุกคน ทั้งยังช่วยในการขจัดสิ่งสกปรกหรือน้ำมันส่วนเกินที่เหลืออยู่บนใบหน้าด้วยนะคะ ดังนั้นการเลือกใช้โทนเนอร์ดี ๆ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
โทนเนอร์ 5 อันดับแรกที่คนเกาหลีแนะนำ
1. Round Lab 1025 Dokdo Toner

- ราคา: 45,000 วอน
- ปริมาณ: 500 ml
Round Lab 1025 Dokdo Toner คือโทนเนอร์ที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่งที่ร้าน Olive Young เลยทีเดียวค่ะ! นอกจากนี้ Round Lab ยังเป็นบริษัทเครื่องสำอางของเกาหลีที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลักด้วยนะคะ เหมาะในการฟื้นฟูสภาพผิวสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งและแพ้ง่าย รวมถึงผู้ที่ต้องการความชุ่มชื้นอย่างมากค่ะ
โทนเนอร์มาในรูปแบบของเหลวซึ่งซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างง่ายดายและอ่อนโยน นอกจากนี้ยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่หลงเหลือจากการล้างหน้าอีกด้วยนะคะ! และโทนเนอร์ยังบรรจุอยู่ในขวดขนาดใหญ่ถึง 500 มิลลิลิตร ดังนั้นจึงสามารถใช้ได้เป็นเวลานานค่ะ
นอกจากนี้ยังมี 97% ของผู้ใช้ 1025 Dokdo Toner ที่มีความประสงค์จะใช้ผลิตภัณฑ์ต่อไปโดยไม่เปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นค่ะ ผลิตภัณฑ์นี้ยังได้รับรางวัล Hwahae Beauty Award ถึง 2 ปีซ้อนด้วยนะคะ
2. Anua Heartleaf 77% Soothing Toner

- ราคา: 45,000 วอน
- ปริมาณ: 500 ml
โทนเนอร์จากแบรนด์ Anua หรือที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันในนาม "โทนเนอร์พี่จุน" กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในเกาหลีเมื่อเร็ว ๆ นี้ค่ะ เนื่องจาก Anua Heartleaf 77% Soothing Toner มีสารสกัด Houttunynica cordata มากถึง 77% นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิวที่ถูกทำลายและลดการอักเสบด้วยค่ะ
โทนเนอร์จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางและเป็นสิวง่าย และยังมีส่วนผสมของ B5 ที่จะช่วยในการฟื้นฟูผิว รวมถึงช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและป้องกันไม่ให้ผิวแห้งหรือเป็นสะเก็ดด้วยเช่นกันค่ะ
โทนเนอร์แบรนด์นี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยสำหรับผิวบอบบาง ดังนั้นสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางก็สามารถใช้ได้อย่างสบายใจเลยนะคะ! ปริมาณของโทนเนอร์ก็ยังรับประกันได้ว่าจะอยู่ได้นาน และราคาก็อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทั้งความจุและประสิทธิภาพที่ดีก็รับรองว่าจะต้องคุ้มค่ากับราคาอย่างแน่นอนค่ะ
3. The Lab Oligo Hyaluronic Acid 5000 
- ราคา: 34,000 วอน
- ปริมาณ: 500 ml
โทนเนอร์ที่เราจะแนะนำต่อไปก็คือ The Lab Oligo Hyaluronic Acid 5000 นั่นเองค่ะ ผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนประกอบสำคัญ ๆ เช่น Witch Hazel และ Allantoin เพื่อช่วยในการกระชับรูขุมขน และยังช่วยให้ผิวเรียบเนียนอีกด้วยนะคะ
นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้น รวมถึงยังช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึกและได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางค่ะ แถมยังมีวิตามิน E และ B5 ที่ช่วยเร่งให้ผิวเกิดใหม่อีกด้วยนะคะ!

The Lab Oligo Hyaluronic Acid 5000 ได้รับรางวัลจาก Hwahae ในปี 2019 และ 2020 ด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล Glowpick Awards ในปี 2020 และมีรีวิวจากผู้ใช้มากกว่า 30,000 รายการใน Naver (อัปเดตเมื่อมีนาคม 2020) เลยทีเดียว!
4. Ma:nyo Bifida Biome Ampoule Toner

- ราคา: 25,000 วอน
- ปริมาณ: 400 ml
Ma:nyo Bifida Biome Ampoule Toner จากแบรนด์ Ma:nyo ได้รับการยกย่องจากชาวเกาหลีจำนวนมากเลยล่ะค่ะ นอกจากใช้เป็นโทนเนอร์แล้วยังสามารถใช้เป็นมาส์กได้ด้วยนะคะ เพื่อให้ได้ผลเต็มที่ในการดูแลผิวนั่นเองค่ะ

ด้วยเทคโนโลยีการให้ความชุ่มชื้น 5 ชั้นของโทนเนอร์ Hyaluronic Acid จะช่วยป้องกันการขาดน้ำ เป็นหนึ่งในตัวช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีและเปล่งประกายเป็นเวลานานค่ะ นอกจากนี้ตัวโทนเนอร์ยังมีระดับ pH อยู่ที่ 5.5 ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางเช่นกันค่ะ และยังมี BHA จากนมธรรมชาติที่ช่วยขจัดซีบัมและสิ่งสกปรก รวมถึงลดการอุดตันของรูขุมขนด้วยนะคะ
ส่วนผสมที่โดดเด่นของ Ma:nyo Bifida Biome Ampoule Toner ได้แก่ Bifidobacteria, Lactobaciilli, Adenoisine, Galactomyces, Niacinamide ส่วนผสมทั้งหมดจะช่วยในการกระตุ้นเซลล์ผิวและเสริมสร้างชั้นป้องกัน รวมถึงปรับปรุงผิวโดยรวมให้ดีขึ้นด้วยค่ะ
5. Bring Green Tea Tree Cica Soothing Toner

- ราคา: 19,000 วอน
- ปริมาณ: 510 ml
โทนเนอร์ตัวต่อไปที่อยากแนะนำก็คือ Bring Green Tea Tree Cica Soothing Toner นั่นเองค่ะ เรียกได้ว่าอาจจะเป็นโทนเนอร์ที่ถูกที่สุดในบรรดาโทนเนอร์เลยก็ว่าได้ค่ะ และจากชื่อ "Tea Tree (ต้นชา)" ก็เป็นที่รู้กันว่าจะต้องเหมาะสำหรับคนเป็นสิวและผิวมันอย่างแน่นอนค่ะ!

ด้วยส่วนผสมของใบชาจากเกาะเชจู บวกด้วย CICA โทนเนอร์จากแบรนด์นี้จึงช่วยแก้ปัญหาสิวได้มากมายเลยล่ะค่ะ จากการวิจัยพบว่าหลังจากใช้ไปได้ 4 สัปดาห์ โทนเนอร์จะช่วยลดสิวหัวขาว 39%, ลดสิวหัวดำ 38%, ลดความมัน 27%, และลดการหลั่งน้ำมันจากรูขุมขนได้ถึง 30% เลยทีเดียวค่ะ! แถมค่า pH ของโทนเนอร์ยังอยู่ระหว่าง 5.5 - 6.0 และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางค่ะ
โทนเนอร์แนะนำอื่น ๆ
Instree Hyaluronic Acid Toner

นอกจากโทนเนอร์ 5 ยี่ห้อด้านบนแล้ว เรายังพบโทนเนอร์ที่น่าสนใจอีก 2 ตัวด้วยนะคะ! ตัวแรกคือ Instree Hyaluronic Acid Toner ราคา 29,000 วอน สำหรับขวดขนาด 400 ml ค่ะ โทนเนอร์ปราศจากน้ำหอมจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไวต่อกลิ่น และยังมีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามด้วยนะคะ แม้เนื้อโทนเนอร์จะหนาไปหน่อย แต่ก็สามารถซึมเข้าผิวได้เร็วและไม่เหนียวเหนอะหนะค่ะ แถมยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายอีกด้วยนะคะ!
SHINGMULNARA Peppermint Refresh Toner

โทนเนอร์ตัวต่อไปที่ดึงดูดสายตาสุด ๆ เลยก็คือ SHINGMULNARA Peppermint Refresh Toner นั่นเองค่ะ เป็นเพราะโทนเนอร์บรรจุมาในขวดขนาดยักษ์และราคาไม่แพงมาก ขวดขนาด 500 ml มีราคาเพียง 15,800 วอนเท่านั้นเองค่ะ! โทนเนอร์ทำจากส่วนผสมธรรมชาติ เช่น Calendula chamomile, ลาเวนเดอร์, และใบสะระแหน่ จึงมีกลิ่นที่หอมมาก ๆ เลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ก็ยังช่วยบรรเทาการเกิดสิวด้วยนะคะ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับโทนเนอร์ 5 อันดับแรกที่คนเกาหลีแนะนำ มียี่ห้อไหนที่ทุกคนใช้อยู่บ้างมั้ยคะ? และแน่นอนว่าใครที่ต้องการสั่งซื้อโทนเนอร์ก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อได้ที่เว็บไซต์ของ Creatrip ได้เลยนะคะ รับรองว่าราคาน่ารักอย่างแน่นอนค่ะ!
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี

