Cr. The world
สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#ข่าวเกาหลี #เกาหลีใต้
#เกาหลีเหนือ #สมุดปกขาว
#ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
กระทรวงกลาโหมภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีมุน แจอินได้ประกาศลงในสมุดปกขาวประจำปีให้เกาหลีเหนืออยู่นอกเหนือสถานะ "ศัตรู" อีกครั้งหลังจากที่เคยมีการประกาศครั้งแรกเมื่อปี 2019 ท่ามการความพยายามในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้

Cr. APNews
เป็นอีกครั้งที่รัฐบาลเกาหลีใต้ภายใต้การปฏิบัติงานของประธานาธิบดีมุน แจอินถูกมองว่าเป็นรัฐบาลที่มีความพยายามในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ จากความขัดแย้งเรื่องระเบิดนิวเคลียร์และการผ่อนปรนมาตรการการคว่ำบาตร
สำหรับสมุดปกขาวคือเอกสารระบุว่า "ศัตรู" คืออะไรก็ตามที่คุกคามอธิปไตย, ดินแดน, พลเมืองและทรัพย์สินของเกาหลีใต้ นอกจากนั้นอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงของเกาหลีเหนือยังเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีอีกด้วย
มีรายงานระบุว่าเกาหลีเหนือมีกองทัพขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของเกาหลีใต้ และมีการลงทุนในการสร้างอาวุธที่ไม่ธรรมดาเช่น ขีปนาวุธและเรือดำน้ำเพื่อตอบโต้กองกำลังรวมกันของเกาหลีใต้และสหรัฐ

ทางด้านเกาหลีเหนือได้มีการกล่าวถึงขีปนาวุธรุ่นล่าสุดในการประชุมพรรคเดือนมกราคมกล่าวว่า ตอนนี้มีความพยายามที่จะพัฒนาขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงและอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี ทางด้านผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ความสามารถของเกาหลีเหนือว่ามีทรัพยากรที่จะพัฒนาอาวุธจริงหรือไม่
ข้อมูลเอกสารเน้นย้ำว่าเกาหลีใต้มีมาตรการดำเนินการป้องกันขีปนาวุธที่แข็งแกร่ง โดยมีเครือข่ายป้องกันขีปนาวุธ, สกัดกั้นขีปนาวุธที่บินในระดับความสูงต่ำและระบบ THAAD จะหยุดยั้งภัยคุกคามในระดับสูงซึ่ง THAAD มีเรดาร์ระยะไกลกว่าดังนั้นจึงสามารถสแกนจุดที่สงสัยว่าเป็นภัยคุกคามที่ปรากฏบนท้องฟ้าและยับยั้งได้
ระบบป้องกันพื้นที่สูง THAAD หรือ Terminal High Altitude เป็นระบบต่อต้านขีปนาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐฯซึ่งเกาหลีใต้นำไปใช้ตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2017

Cr. NBCNews
นอกจากนั้นเอกสารยังระบุว่าเกาหลีใต้กำลัง "เร่งผลักดัน" เพื่อเข้ารับคำสั่งปฏิบัติการในช่วงสงครามจากสหรัฐซึ่งมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มสงครามเกาหลีปี 1950-1953 และสิ้นสุดลงโดยไม่มีสนธิสัญญาสันติภาพ ทำให้เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ยังคงอยู่ในสถานะการทำสงครามในทางเทคนิค
รัฐบาลของประธานธิบดีมุน แจอินวางแผนที่จะดำเนินการโอนเอกสารให้เสร็จสิ้นภายในเดือนพฤษภาคมปีหน้าก่อนที่จะออกจากตำแหน่ง แต่ระยะเวลาดังกล่าวถือว่าเป็นไปไม่ได้เนื่องจากทั้งสองประเทศพลาดโอกาสในการดำเนินการเมื่อปีที่แล้วเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด
นอกจากนี้เมื่อวันอังคาร พล.อ. วอน อินชุล ประธานเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้และพล. อ.มาร์ค มิลลีย์จากสหรัฐฯได้หารือผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เพื่อหา "ความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม" ในการถ่ายโอนบทบาทในช่วงสงคราม'

Cr.koreatimes
สมุดปกขาวระบุถึงญี่ปุ่นและจีนด้วย โดยเรียกญี่ปุ่นว่า "เพื่อนบ้าน" แทนที่จะเป็น "พันธมิตร" ตามที่มีการอ้างถึงในปี 2019 ซึ่งแสดงให้เห็นความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างทั้ง 2 ประเทศเกี่ยวกับความบาดหมางในการบังคับใช้แรงงาน
โดยในปี 2019 เกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้แลกเปลี่ยนการตอบโต้ทางการทูตระหว่าง หลังจากที่ศาลฎีกาของเกาหลีใต้ตัดสินให้เหยื่อของการบังคับใช้แรงงานที่ทำงานในญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีสิทธิ์ขอค่าชดเชยจากบริษัทญี่ปุ่น
ทางด้านเกาหลีใต้และจีนมีการดำเนินการเพื่อปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติหลังจากการประชุมสุดยอดผู้นำทั้งสองประเทศเมื่อปี 2017
ที่มา The Korea Herald
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
โพสต์ที่น่าสนใจ |

รัฐบาลท้องถิ่นในเกาหลีทยอยแจกเงินช่วยเหลือ
เกาหลีใต้ขยายระยะเคอร์ฟิว
เกาหลีใต้ปรับโครงสร้างกฎหมายครอบครัว