เอกลักษณ์ของโรงเรียนมัธยมเกาหลี
พบกับเอกลักษณ์และวัฒนธรมมพิเศษของโรงเรียนมัธยมเกาหลีที่น่าสนใจ
조선일보
สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#โรงเรียนเกาหลี #เรียนต่อเกาหลี
#วัฒนธรรมเกาหลี #คนเกาหลี
ทุกคนเคยดูซีรีส์เกี่ยวกับชีวิตในโรงเรียนของเด็กเกาหลีมั้ยคะ? ครั้งนี้เราได้รวบรวมวัฒนธรรมทั้งที่อยู่ในซีรีส์และไม่มีออกอากาศในซีรีส์แต่เป็นเรื่องจริงๆของชีวิตเด็กมัธยมที่เกาหลีมาฝากกันค่ะ
เรามาดูกันดีกว่าว่าวัฒนธรรมในโรงเรียนของเด็กมัยธยมต้นของเกาหลีเหมือนหรือแตกต่างกับของไทยยังไง? สำหรับที่อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมของโรงเรียนเกาหลี (คลิก) ก็สามารถเข้าไปดูตามลิงค์ที่เราแนบไว้ได้เลยค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
เอกลักษณ์ของโรงเรียนมัธยมเกาหลี
1. ผ่านมา 11 ปีแต่ทริปเที่ยวของโรงเรียนก็ยังเหมือนเดิม?
ตามธรㅑมเนียมของโรงเรียนที่เกาหลีเด็กๆจะมีทริปเที่ยวอย่างน้อย 1 ครั้งตั้งแต่ชั้นประถม, ม. ต้นและม. ปลาย (โดยทั่วไปจะเป็นช่วงป.6, ม.2 และม. 5 ) ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่ค่ะ
โดยนักเรียนในโซลหรือจังหวัดคยองกีส่วนใหญ่มักจะมีทรอปไปเที่ยวเกาะเชจู, กวังจู ตรงกันข้ามกับนักเรียนที่ไม่ได้อยู่ในเขตโซลหรือคยองกีโด ก็จะมีทริปมาเที่ยวโซลค่ะ
สำหรับนักเรียนที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศอย่างในเขตคยองซังโด (รวมถึงปูซาน, อุลซัน) ทริปเที่ยวทั้ง 3 ครั้งก็ต้องมาเที่ยวโซลและก็ต้องปิดท้ายด้วยการเที่ยวสวนสนุก Everland ตลอดทั้ง 3 ครั้งค่ะ
ถึงแม้จะไม่มีกฎตายตัวเรื่องทริปการไปเที่ยวของโรงเรียนแต่ละพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่เด็กโซลจะไปเที่ยวต่างจังหวัด และเด็กต่างหวัดก็จะอยากมาเที่ยวโซลค่ะ แต่ตอนนี้โรงเรียนเอกชนเริ่มมีเยอะมากขึ้น ดังนั้นทริปการไปเที่ยวของบางโรงเรียนก็ไปเที่ยวต่างประเทศเลยก็มีค่ะ
2. ต้องมีเซอร์ไพรส์ในวันครู !
ทุกวันที่ 15 เดือนพฤษภาคมถือเป็นวันครูของเกาหลี สำหรับนักเรียนตั้งแต่ชั้น ม.ต้น ม. ปลายรวมไปถึงระดับมหาวิทยาลัยต่างให้ความสำคัญกับวันครูมากๆค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่แต่ละโรงเรียนจะมีกิจกรรมพิเศษ แต่ไม่ใช่โรงเรียนที่จัดแต่เป็นพวกเด็กๆที่จะจัดกิจกรรมเพื่อเซอร์ไพรส์คุณคุณค่ะ
โดยปกติเด็กระดับมัธยมต้น-ปลายจะมีการจัดปาร์ตี้เซอร์ไพรส์คุณครูในห้องเรียน โดยเด็กๆจะรวบรวมเงินคนละประมาณ 5,000 วอน (ประมาณ 150 บาท) เพื่อซื้อของขวัญให้กับคุณครู แต่หลังจากปี 2015 มีกฎระเบียบออกมาว่าของขวัญจะมอบให้ครูต้องราคาไม่เกิน 30,000 วอน (ประมาณ 900 บาท)
ดังนั้นปัจจุบันของขวัญวันครูจะกลายเป็น จดหมาย, ดอกคาเนชั่น, ขนมเล็กๆน้อยๆหรือคุกกี้ทำเองมอบให้แทนค่ะ
3. การสร้างนักเรียนใหม่ (ปลอม)
ในแต่ละเทอมเด็กๆมักจะเล่นมุกกับคุณครูโดยการแก้ลงบอกว่า ""ครูค่ะ มีนักเรียนใหม่ย้ายมาค่ะ" ซึ่งการเล่นแบบนี้เราเชื่อว่าที่ไทยไม่มีแน่นอน แต่ที่เกาหลีเด็กๆชอบแกล้งครูด้วยวิธีการนี้มากค่ะ
วิธีการแกล้งก็คือสร้างลักษณะคนที่นอนอยู่บนโต๊ะ ซึ่งความจริงแล้วเป็นเสื้อผ้า กางเกงของนักเรียนทุกคนในห้องที่เอามารวมๆันค่ะ
ขั้นตอนที่แนบเนียนที่สุดคือการสร้างคนที่นอนบนเก้าอี้ และแกล้งไปเรียกครูโดยบอกว่า "ครูค่ะ ห้องเรียนเรามีนักเรียนใหม่มาด้วยนะ" ครูที่เห็นแบบนั้นแน่นอนว่าก็ต้องเข้าไปปลุกนักเรียนใหม่อยู่แล้ว และความสนุกก็คือตอนที่ครูปลุกแล้วเจอว่านักเรียนใหม่ทั้งหมดคือตุ๊กตา หรือเสื้อผ้าค่ะ
4. กิจกรรมหลังจากการสอบซูนึงเสร็จสิ้น?
โดยปกติการสอบซูนึง (การสอบเข้ามหาวิทยาลัยเกาหลี) จะจัดขึ้นทุกเดือนพฤศจิกายน แต่ตามกำหนดแล้วเด็กๆจะเรียนจบเทอมการศึกษาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ของปีถัดไป ดังนั้นหลังจากสอบเสร้จแล้วก็ยังต้องมาโรงเรียนต่ออีกค่ะ
แล้วเด็กๆมีกิจกรรมอะไรหลังจากสอบซูนึงนะ?
แน่นอนว่าหลังจากสอบแล้วเด็กๆก็ไม่ค่อยมีสมาธิในการเรียนเท่าไหร่ เพราะหลายคนก็ยังกังวลกับผลสอบอยู่ค่ะ เด็กๆส่วนใหญ่จะไปโรงเรียนแบบไม่มีกระเป๋าและไม่พกหนักสือไปโรงเรียน พอมาถึงโรงเรียนก็เอาแต่ใช้โทรศัพท์หรือไม่ก็หลับทั้งวันค่ะ
ซึ่งคุณครูก็เข้าใจนักเรียนดี ดังนั้นคุณครูจึงอนุญาตให้เด็กๆสามารถดูหนังหรือสิ่งที่ต้องการผ่านมอนิเตอร์ของโรงเรียนได้เลยค่ะ
Cr. Hakyo.com
สำหรับประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนเองก็เหมือนกัน ตอนที่สอบซูนึงเสร็จแล้วคุณครูก็เอาโน๊ตบุคมาให้แล้วอนุญาตให้ดูอะไรก็ได้ตามที่ชอบ และเพื่อนๆกว่าครึ่งห้องก็เล่นกันแบบสนุกสนานเลยค่ะ
ถือเป็นช่วงเวลาเดียวที่นักเรียนชั้น ม.6 ที่เกาหลีจะได้ผ่อนคลายก่อนที่จะเริ่มเรียนมหาวิทยาลัยรวมไปถึงการหางานในอนาคตด้วยค่ะ
5. นาฬิกาตารางอาหารกลางวัน
แต่ละเดือนเมนูอาหารกลางวันจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอด นักเรียนหายคนก็ไม่ได้สนใจมากเท่าไหร่ แต่ก็มีนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่ให้ความสนใจอย่างมากจนเอามาแปะไว้ที่โต๊ะ หรือเอามาทำเป็นนาฬิกาเมนูอาหารกลางวันค่ะ
ภาพจาก INSTAGRAM ของนาฬิกาเมนูอาหารกลางวัน
อย่างที่เห็นในภาพ เด็กๆจะเอามาทำเป็นรูปแบบของนาฬิกาข้อมือ เห็นหรือเปล่าว่าเด็กเกาหลีให้ความสำคัญกับเรื่องกินมากแค่ไหนคะ?
6. แอบลดขนาดชุดนักเรียน/ชุดนักเรียนแต่ละพื้นที่จะต่างกัน
การออกทริปเที่ยวของโรงเรียนจะทำให้เห็นความแตกต่างของชุดนักเรียนในแต่ล่ะพื้นที่อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเด็กม.ปลายที่จะให้ความสำคัญกับขนาดและไซส์ของชุดเป็นพิเศษค่ะ
ดังนั้นเด็กๆหลายคนจึงเลือกที่จะปรับแต่งชุดนักเรียนของตัวเองให้เป็นแบบที่ชอบ ซึ่งวิธีการทำก็จะแตกต่างกันไปแต่ละพื้นที่ค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น กระโปรงของนักเรียนของเด็กในอินชอนจะรอยพับหรือกลีบกระโปรง แต่นักเรียนก็อยากจะใส่แบบที่มีกลีบกระโปรงสวยๆก็เลยแอบบไปทำมา และรูดซิบเก็บเอาไว้เพื่อไม่ให้ครูจับได้ค่ะ แต่ตรงข้ามกับเด็กที่อุลซาน ที่กระโปรงมีรอยพับ แต่เด็กๆก็ไม่ชอบและมักจะไปแอบตัดออกค่ะ
นอกจากนั้นเด็กผู้ชายก็นิยมแอบตัดความยาวของขากางเกงนักเรียนให้สั้นเต่อด้วยค่ะ โดยเฉพาะในตอนนี้รูปแบบของกางเกงนักเรียนที่เป็นทรงขาตรงและขาสั้นขึ้นมาหน่อยกำลังได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักเรียนชายค่ะ
แถมยังมีทรงแบบสกินนี่ด้วยนะคะ
เป็นยังไงบ้างกับเอกลักษณ์ของโรงเรียนที่เกาหลี เหมือนหรือแตกต่างกับของไทยตรงไหนบ้างคะ? ใครที่ชอบหรือไม่ชอบข้อไหนสามารถคอมเมนต์บอกกันได้นะคะ หรือใครที่ตอนเรียนเคยทำตามข้อไหนก็คอมเมนต์แชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand