ปัญหาการติดโทรศัพท์ของเด็กเกาหลี
เด็กเกาหลีกว่า 17% มีการใช้โทรศัพท์มากจนเกินไป จนก่อให้เกิดปัญหาด้านร่างกาย และมีเด็กจำนวนมากที่ต้องเข้ารับการบำบัดการติดมือถือ!
สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#เด็กเกาหลี #ปัญหาติดมือถือ
#รับการบำบัด #ปัญหาสุขภาพ
เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ตเร็วที่สุดในโลก แต่การเชื่อมต่อในระดับนั้นถือเป็นดาบสองคมในสังคม ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าผู้คนจำนวนมากติดอินเทอร์เน็ตและปัญหานี้ส่งผลอย่างมากต่อความสามารถในการเข้าสังคม ผู้ปกครองหลายคนกลุ่มใจกับปัญหาลูกติดมือถือ จนต้องส่งตัวไปรับการบำบัดที่ค่ายฟื้นฟูที่รัฐบาลจัดขึ้น
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
ปัญหาเด็กติดโทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ตในเกาหลี
กระทรวงความเท่าเทียมทางเพศและครอบครัวเกาหลีใต้เปิดเผยผลการสำรวจการใช้อินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนในกลุ่มวัยรุ่นซึ่งจัดทำจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียนจำนวน 1,331,441 คน ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม
ในจำนวนนี้มีนักเรียน 228,120 คนหรือ 17.1% พบว่าใช้อินเทอร์เน็ตหรือสมาร์ทโฟนมากเกินไปหรือทั้งสองอย่างเพิ่มขึ้น 1.1% จากปีที่แล้ว ชิม มินชุล เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกล่าวว่า "เนื่องจากการใช้สื่อของเยาวชนเพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด -19 เราจึงขอให้ผู้ปกครองให้ความสนใจบุตรเป็นพิเศษเพื่อป้องกันผลกระทบทางลบเช่น การใช้อินเทอร์เน็ตมากเกินไป" นอกจากนั้นกระทรวงกล่าวว่ามีแผนที่จะเสนอบริการการให้คำปรึกษาสำหรับนักเรียนที่ติดอินเทอร์เน็ตหรือโทรศัพท์อย่างหนัก
จากการสำรวจพบว่ามีนักเรียน 175,496 คนติดอินเทอร์เน็ตและมีนักเรียน 136,538 คนทีติดการใช้สมาร์ทโฟนและมีผู้ที่ติดการใช้งานทั้งสองอย่างจำนวน 83,914 คน หากแบ่งตามอายุพบว่านักเรียน 84,462 คน (37%) เป็นนักเรียนชั้นมัธยมตอนต้น ซึ่งเป็นนักเรียนมัธยมปีที่ 1 จำนวน 77,884 คน ( 34.1%) และประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 65,774 คน (28.8%)
ทำไมวัยรุ่นเกาหลีถึงติดการใช้สมาร์ทโฟน
เกาหลีใต้ไม่ใช่ประเทศเดียวที่เจอปัญหาวัยรุ่นหมกมุ่นกับการใช้โทรศัพท์ ความกังวลเกี่ยวกับการใช้สมาร์ทโฟนมากเกินไปกำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลกในปี 2015 พบว่า 16% ของเด็กอายุ 15 ปีในประเทศ OECD ใช้เวลาสำหรับการออนไลน์มากกว่า 6 ชั่วโมงทุกวันนอกเหนื่อเวลาจากโรงเรียน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสัปดาห์เพิ่มขึ้นเป็น 26%
ปัญหาความกดดันในสังคมเกาหลีทำให้ปัญหานี้รุนแรงขึ้น เด็ก ๆ ต้องเผชิญกับภาระการเรียนอย่างหนักและพักผ่อนน้อย หลายคนต้องเรียนเพิ่มเติมหลังจากหมดคลาสเรียนปกติเพื่อเตรียมสอบโดยมีเวลาน้อยสำหรับการทำกิจกรรมอื่น ๆ ในปี 2015 พบว่ามีนักเรียนเกาหลีใต้เพียง 46.3% (อายุ 15 ปี) ที่ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาก่อนหรือหลังเลิกเรียนซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดใน 36 ประเทศ OECD
อีอูรินนักเรียนอายุ 16 ปีกล่าวว่าเธอใช้โทรศัพท์เพื่อคลายเครียดขณะอยู่ที่โรงเรียน "ฉันลืมความเครียดไปชั่วคราวเมื่อใช้โทรศัพท์ แต่เมื่อหยุดใช้ฉันรู้สึกไม่สบายใจอีกครั้งและฉันจึงใช้มันต่อไป" ดร.อีแจวอน จิตแพทย์ที่รักษาอาการติดสมาร์ทโฟนกล่าวว่า อาการนี้เป็นอาการของการเสพติด เมื่อคนเราเครียดระดับโดพามีนในสมองกระตุ้นให้พวกเขามองหาความพึงพอใจในรูปแบบอื่น ๆ เนื่องจากวัยรุ่นไม่มีวิธีอื่นในการคลายเครียดพวกเขาจึงเลือกใช้สมาร์ทโฟน ดร. อียังกล่าวอีกว่า "ในตอนแรกสมาร์ทโฟนทำให้พวกเขารู้สึกสะดวกสบาย แต่หลังจากนั้นพวกเขาจะรู้สึกว่าการใช้สมาร์ทโฟนทำให้พวกเขามีความสุข"
อย่างไรก็ตามการสร้างนิสัยการใช้โทรศัพท์ไม่ได้เกิดจากตัวของเด็กๆเองเท่านั้น แต่ยังมาจากครอบครัวของพวกเขาด้วย ใครที่เคยไปร้านอาหารในเกาหลีคุณจะเห็นได้ว่าพ่อแม่หลายคนที่นั่งทานอาหารอยู่ข้างๆจะปล่อยให้ลูกเล่นเพื่อผู้ปกครองจะสามารถรับประทานอาหารได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้พ่อแม่เกาหลียังมีนิสัยชอบปลอบโยนลูกๆด้วยโทรศัพท์เมื่อลูกร้องไห้หรือทำหน้าบึ้งตึง สถานการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งแม้แต่กับทารกอายุ 2 และ 3 ขวบ ดังนั้นเด็กๆหลายคนจึงติดนิสัยใช้โทรศัพท์หรือแท็บเล็ตอย่างหนักแทนที่จะใช้เวลาไปกับการรับประทานอาหารและพูดคุยกับเพื่อน ๆ
ผลเสียของการติดสมาร์ทโฟน
ผลระยะสั้นของการใช้สมาร์ทโฟนอาจส่งผลต่อผลการเรียนและส่งผลกระทบระยะยาวในชีวิต จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าเมื่อเวลาผ่านไปผู้ติดอินเทอร์เน็ตมีแนวโน้มที่จะแยกตัวออกจากสังคมและมีอาการผิดปกติได้แก่ ความรู้สึกโกรธ, ความเครียด, ความวิตกกังวลและหรือโรคซึมเศร้า ดร. อีกล่าวว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะอยู่คนเดียวมากขึ้นหลังจากสูญเสียครอบครัว, งานและเพื่อนๆ"
ผู้อำนวยการค่ายฟื้นฟูการติดสมาร์ทโฟนกล่าวว่า การไม่ได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูงอาจทำให้พวกเขาไม่สามารถพัฒนาความสามารถในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างบุคคลได้ เด็กคนหนึ่งในค่ายเยาวชนถึงกับขู่ว่าจะฆ่าตัวตายถ้าเธอออกจากค่ายไม่ได้ "โดยเธอคิดว่าสมาร์ทโฟนคือช่องทางในการเข้าสู่สังคม" รัฐบาลเกาหลีหวังว่าการรักษาการติดโทรศัพท์ตั้งแต่เนิ่นๆสามารถป้องกันปัญหาในอนาคตได้ เนื่องจากปัญหาดังกล่าวจะส่งผลเมื่อเหล่าวัยรุ่นเติบโตขึ้นและต้องเจอกับความยากลำบากในการใช้ชีวิตในสังคม นอกจากนั้นยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่นๆด้วย
การส่งบุตรหลานเข้าค่ายฟื้นฟูการติดสมาร์ทโฟน
เด็กนักเรียนมัธยมเกาหลีหลายคนที่รู้ว่าตัวเองมีปัญหาติดโทรศัพท์ต้องเข้าร่วมโครงการฟื้นฟูของรัฐบาล นักเรียนคนหนึ่งกล่าวว่า "แม้ว่าฉันจะรู้ว่าฉันควรจะหยุดใช้โทรศัพท์ แต่ฉันก็ยังไม่สามารถหยุดใช้มันได้ดังนั้นฉันจึงเล่นโทรศัพท์จนถึงเช้า"
เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการครอบครองสมาร์ทโฟนสูงที่สุดในโลก ในปี 2018 วัยรุ่นเกาหลีมากกว่า 98% มีสมาร์ทโฟนและหลายคนแสดงอาการเสพติดการใช้งาน ตามข้อมูลจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (MSIT) ในปี 2018 เด็กเกาหลีอายุ 10 ถึง 19 ปีประมาณ 30% ถูกจัดอยู่ในประเภท "ที่ใช้โทรศัพท์มากเกินไป" นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังเผชิญกับ "ผลกระทบร้ายแรง" จากการใช้สมาร์ทโฟนรวมถึงความสามารถในการควบคุมตนเองที่ลดลง
โปรแกรมฟื้นฟูการติดโทรศัพท์นี้เริ่มต้นในปี 2007 และได้ขยายออกไปตั้งแต่ปี 2015 ในปี 2019 กระทรวงความเท่าเทียมทางเพศและครอบครัวได้จัดโปรแกรมทั้งหมด 16 โปรแกรมทั่วประเทศสำหรับนักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายประมาณ 400 คน สำหรับผู้ปกครองบางคน โปรแกรมนี้อาจเป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับบุตรหลานในการเลิกติดโทรศัพท์ ยู ซุนดอกผู้อำนวยการศูนย์สวัสดิการและคำแนะนำสำหรับเยาวชน จังหวัดคยองกีโดกล่าวว่า "ฉันคิดว่าพวกเขาส่งเด็กๆ มาที่นี่เพราะพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเพราะเขาไม่รู้ต้องทำยังไง”
นักเรียนคนหนึ่งเล่าว่า เขาเคยเป็นนักเรียนที่ดีเด่นในช่วงมัธยมต้นแต่พอถึงมัธยมปลายเขาก็อยู่แค่อันดับต้นๆของชั้นเท่านั้น ฉันมักจะนอนดึกเพื่อเล่น Facebook ใช้ Snow และแชทกับเพื่อนๆผ่าน KakaoTalk "ฉันรู้สึกเหมือนโลกของความเป็นจริงของฉันกำลังหายไป แม้จะมีวันที่ดี (กับเพื่อน ๆ ของฉัน) ก็รู้สึกเหมือนฝัน"
พ่อของเธอรู้สึกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าจะไม่มีการสนทนาระหว่างสมาชิกในครอบครัวเขาเล่าว่า "ถ้ามีการเตือนเรื่องการใช้โทรศัพท์ ลูกจะเสียใจและนำไปสู่การโต้เถียง" เขาได้กำหนดเวลาในการใช้โทรศัพท์ไว้ที่สองชั่วโมงต่อวัน แต่ลูกสาวของเขาก็ยังสามารถใช้เวลากับโทรศัพท์มากกว่านั้น ซึ่งโครงการฟื้นฟูการติดโทรศัพท์ของรัฐบาลใช้เวลา 12 วัน
ค่ายฟื้นฟูการติดสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตในเกาหลีเป็นบริการฟรีและผู้เข้าร่วมจะต้องจ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มเพียง 100,000 วอน (ประมาณ 3,000 บาท) เด็กชายและเด็กหญิงจะถูกส่งไปยังค่ายแยกกันและแต่ละค่ายให้บริการนักเรียนประมาณ 25 คน
ที่ค่ายเปิดโอกาสให้วัยรุ่นเข้าร่วมกิจกรรมศิลปหัตถกรรมและการแข่งขันกีฬา นอกจากนี้ยังสามารถเข้ารับการให้คำปรึกษาแบบ 1 : 1 หรือการให้คำปรึกษากลุ่มและให้คำปรึกษากับครอบครัวเพื่อหารือเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์ และผู้เข้าร่วมโปรแกรมจะนั่งสมาธิ 30 นาทีก่อนเข้านอน
หลายค่ายจัดขึ้นในศูนย์ฝึกอบรมเยาวชนที่ห่างไกลจากตัวเมืองซึ่งมีพื้นที่สีเขียวเพื่อช่วยให้เยาวชนที่กำลังเลิกใช้โทรศัพท์รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น สถานที่ที่นักเรียนผู้ให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้เข้าร่วมคือศูนย์เยาวชนแห่งชาติเกาหลีในเมืองชอนอัน ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำในร่มและสนามกีฬา
ยู ซุนดอกผู้อำนวยการค่ายกล่าวว่า ในช่วงสองสามวันแรกวัยรุ่นทั้งหมดมี "สีหน้าที่มีเต็มไปด้วยความทุกข์" แต่ตั้งแต่วันที่สามพวกเขาจะเริ่มเปลี่ยนไปเช่น เด็กๆจะเริ่มเล่นกับเพื่อน ๆมากขึ้น นอกจากนั้นบนกำแพงที่ค่ายชอนอัน จะมี "ต้นไม้ให้กำลังใจ" ซึ่งพ่อแม่ของเด็กๆได้ทิ้งข้อความเอาไว้ บางข้อความเขียนว่า "หวังว่านี่จะเป็นช่วงเวลาแห่งการทบทวนและคิดถึงตัวเองและรักตัวเองมากขึ้น" , "ยองจู ! อย่าหนีไปนะ !" นอกจากโครงการค่ายเยาวชนแล้วยังมีค่ายแยกสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาและ ศูนย์บำบัดการติดอินเทอร์เน็ตสำหรับวัยรุ่นอีกด้วย
ที่มา : CNN, Yonhapnews
ทั้งหมดก็คือบทคงามเกี่ยวกับปัญหาการติดสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ตของวัยรุ่นเกาหลี ที่กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ของเกาหลีค่ะ ใครที่มีคำถามหรือข้อสงสัยสามารถคอมเมนต์มาได้เลย หรือถ้าอยากติดต่อพวกเราสามารถส่งอีเมลมาได้ที่ help@creatrip.com. ค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
โพสต์ที่น่าสนใจ |