มาเที่ยวเกาหลีครั้งหน้าต้องเตรียมตัวยังไง
ปีหน้าแพลนเที่ยวมีเกาหลีแน่ๆ! 19 ทิปส์สำหรับเตรียมตัวก่อนเที่ยวเกาหลี ทริปหน้าสนุกและปลอดภัยแน่นอน
สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#เที่ยวเกาหลี #รีวิวเกาหลี
#เตรียมตัว #ทิปส์
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากไม่สามารถที่จะเดินทางมายังประเทศเกาหลีได้ ว่าแต่...ตอนนี้เกาหลีเปลี่ยนไปบ้างมั้ยนะ? แล้วหากเดินทางครั้งหน้าต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?
วันนี้เราจะมาบอกทิปส์ดีๆสำหรับการเตรียมความพร้อมเที่ยวเกาหลีในปีหน้า (รึเปล่า ) สำหรับทุกคนกันค่ะ หากพร้อมแบบที่เราบอกไว้ รับรองว่าการเที่ยวจะต้องสนุกและปลอดภัยอย่างแน่นอน~
ps. รอมีวัคซีนก่อนดีที่สุดนะคะทุกคน
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
มาเที่ยวเกาหลีครั้งหน้าต้องเตรียมตัวยังไง?
1. ทำเรื่องขอวีซ่า
cr: vital check
แม้ว่าคนไทยเราจะได้รับฟรีวีซ่าจากประเทศเกาหลี ทำให้สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า และมีระยะเวลาในการพำนักสูงสุด 90 วัน แต่เนื่องจากการระบาดของโควิด 19 ทำให้แต่ละประเทศมีมาตรการในการเข้าประเทศที่เข้มงวดมากขึ้น เกาหลีจึงตัดสินใจยกเลิกฟรีวีซ่าหลายประเทศด้วยกัน และไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ
การเดินทางเข้าประเทศเกาหลีในช่วงนี้ มีเพียงผู้ที่มีวีซ่าเท่านั้นที่สามารถเข้าประเทศได้ สำหรับคนที่ต้องการมาเที่ยว วีซ่าที่จำเป็นต้องทำเรื่องก็คือวีซ่า C-3-9 ค่ะ หากอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถกดที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
2. นำสิ่งที่สามารถทำให้การอยู่ในโรงแรม 2 สัปดาห์ไม่น่าเบื่อมาด้วย! ที่สำคัญเงินสด!!
Cr. Arch Daily
ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด 19 ชาวต่างชาติและคนเกาหลีทุกคนที่เดินทางมายังต่างประเทศจะต้องกักตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ สำหรับคนเกาหลีหรือชาวต่างชาติที่มีที่พักในเกาหลี สามารถที่จะกักตัวที่ที่พักของตัวเองได้ แต่หากไม่มีละก็ จะต้องกักตัวในสถานที่ซึ่งรัฐจัดให้ โดยมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 2,100,000 วอน (ประมาณ 58,000 บาท) เลยละค่ะ
สำหรับผู้ที่กักตัวกับรัฐบาล ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินหรือการตรวจหาเชื้อโควิดใดๆทั้งสิ้น เพราะอาหารทั้ง 3 มื้อจะมาเสิร์ฟที่หน้าห้อง ส่วนการตรวจก็ไปตามที่เจ้าหน้าที่แจ้งได้เลย ส่วนคนที่กักตัวที่บ้าน การเดินทางจะค่อนข้างยาก เพราะรถบัสมีน้อยมาก...... แถมรอนานอีกด้วยค่ะ อาหารก็ต้องจัดหาด้วยตัวเอง และต้องเข้ารับการตรวจที่เขตของที่พักภายใน 3 วันหลังจากเดินทางมาถึงค่ะ
ฉะนั้นมาเกาหลีในช่วงนี้ เตรียมหนังสือ, คอมพิวเตอร์, เกมส์ หรืออะไรที่สามารถคลายความเบื่อกับการอยู่แต่ในห้อง 2 สัปดาห์มากันด้วยนะคะ
3. เตรียมบัตรเดินทาง (T-money/ Cashbee) ให้พร้อมสำหรับการขึ้นรถบัส, รถไฟและแท็กซี่
การเดินทางที่เกาหลีจะสะดวกสบายอย่างมากหากมีบัตรโดยสารอย่าง T-money หรือ Cashbee เพราะว่าสามารถที่จะแตะตอนขึ้นและลงลดได้เลย ดังนั้น เตรียมบัตรนี้กันเอาไว้ให้ดีจะได้ไม่เสียเวลาในการซื้อบัตรต่อเที่ยวและขึ้นลงรถกันได้ไวๆนะคะ
โดยบัตรนี้ไม่เพียงแค่สามารถใช้ได้ในโซลเท่านั้น แต่ทั่วทั้งเกาหลีเลยละค่ะ ที่สำคัญยังเสียค่าโดยสารที่น้อยกว่าและสามารถที่จะต่อรถหรือเสียสายได้อย่างสะดวก แถมฟรีอีกด้วยค่ะ
สำหรับแฟน KPOP บัตรรูปไอดอลก็มีให้เลือกซื้อกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น BTS, EXO, GOT7 หรือวงอื่นๆก็เลือกตามที่ชอบได้เลยค่ะ หากไม่ถูกใจก็สามารถที่จะปริ้นท์บัตรรูปที่ตัวเองชอบได้ด้วยนะคะ ตู้ทำบัตรก็มีหลายที่ให้ใช้บริการเลยละค่ะ ไม่ว่าจะฮงแด, เมียงดงหรือคังนัม
4. เตรียมพร้อมที่จะสแกน QR Code ในทุกๆที่ ไม่ว่าจะร้านอาหารหรือเบเกอรี่ก็ตาม
Cr. Yonhap News
ตอนนี้ก่อนที่จะเข้าร้านอาหารแทบจะทุกร้านในเกาหลีจะต้องมีการลงทะเบียนหรือแสดงตัวตนของตัวเองก่อน และคนจำนวนมากก็เลือกที่จะใช้ QR Code ที่สามารถหาได้จาก Naver หรือ Kakaotalk สร้างความสะดวกในการเข้าใช้บริการ
แต่หากว่าตัวเลือกนี้ไม่เหมาะหรือไม่สามารถใช้ได้ ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะสามารถที่จะลงชื่อ, เบอร์โทรศัพท์และสถานที่ติดต่อของเราได้ หากมีผู้ติดเชื้อเดินทางไปยังสถานที่เดียวกันกับคุณละก็ เจ้าหน้าที่จะสามารถที่จะติดต่อคุณเพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อได้
5. หลีกเลี่ยงการขึ้นรถแท็กซี่สีดำ หากต้องการประหยัดเงิน
Cr. Kojects
รถแท็กซี่สีดำคือ คือแท็กซี่แบบลัคชัวรี่ ซึ่งมีขนาดรถที่กว้างและมีการบริการที่ยอดเยี่ยมสูงกว่าแท็กซี่ธรรมดาทั่วไป และแน่นอนว่าค่าโดยสารนั้นก็ต้องสูง สูงกว่าสีเงินหรือสีส้ม ซึ่งเป็นรถแท็กซี่แบบปกติที่คิดเรทค่าโดยสารแบบทั่วไป
แต่การขึ้นรถแท็กซี่ที่นี่ก็ไม่ต่างจากที่ไทยเราเท่าไร เนื่องจากแท็กซี่บางคันก็หลากชาวต่างชาติโดยเรียกเก็บเงินไม่ตรงตามมิตเตอร์, ขับรถพาไปอ้อมเพื่อให้นักท่องเที่ยวต้องชำระเงินค่าโดยสารที่สูงขึ้นกว่าปกติ แต่แท็กซี่ดีๆก็มีเยอะเช่นกันนะคะ หากเจอแท็กซี่ที่ไม่ยอมกดมิตเตอร์แนะนำให้ลงจากรถได้เลยค่ะ หรือไม่ก็จ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตและขอใบเสร็จเพื่อนำไปแจ้งค่ะ
6. ระวังตกเป็นเหยื่อของการแอบถ่าย
Cr. abcnews
กล้องแอบถ่ายที่เกาหลีน่ากลัวว่าที่หลายคนคิดเยอะค่ะ เพราะมีหลายระดับไม่เพียงแค่นำกล้องมาวางไว้ในห้องน้ำหรือใช้มือถือแอบถ่ายใต้กระโปรงเท่านั้น ทำให้ตอนนี้เวลาเข้าห้องน้ำ ผู้หญิงเกาหลีจำนวนมากเลือกที่จะสวมใส่แมสก์ขณะทำธุระส่วนตัวค่ะ
กล้องแอบถ่ายหรือมลก้า (몰카) ที่เกาหลีบางครั้งก็มีการนำกล้องแอบซ่อนที่รองเท้า, กล่องบุหรี่และอีกมากมาย ซึ่งหลักๆจะใช้เพื่อแอบถ่ายใต้กระโปรงของสาวๆ ฉะนั้นระมัดระวังกันให้ดีด้วยนะคะ หากเตรียมชุดกระโปรงหรือกางเกงขาสั้นมาใส่ตอนเที่ยว
7. ไม่ควรพลาดเทศกาลหรือการแสดงพิเศษ
Cr. 10 Magazine
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเกาหลี คือการวางแผนเที่ยว หนึ่งในสิ่งที่ทุกคนควรหาข้อมูลมาก่อนคือ ตารางงานเทศกาลหรือการแสดงพิเศษที่จัดขึ้นปีล่ะครั้ง ถ้าพลาดแล้วก็จะเสียใจมากแน่ๆค่ะ อย่างเช่น งานเทศกาล Miracle Sea Road Festival ที่จินโดค่ะ
8. ควรพกถุงขนาดเล็กหรือกระเป๋าสะพายเล็กในกรณีที่หาถังขยะไม่เจอ
Cr. Abroad withliz
การหาถังขยะตามที่สาธารณะในเกาหลีถือเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะถ้าไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวแทบหาไม่เจอเลยค่ะ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยเราแนะนำให้พกถุงพลาสติดเล็กเอาไว้ใส่ขยะกันเลอะ จนกว่าจะเจอถังขยะค่ะ
เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาในการเดินตามหาถังขยะ และไม่ต้องเดินถือขยะไประหว่างเที่ยวด้วยค่ะ
9. อย่าลืมติดตามเพจหรือแหล่งข่าวหลักของเกาหลี
ใครที่ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญและอัพเดท ควรกดติดตามเพจหลักหรือเว็บไซด์หลักของเกาหลีเพื่อจะได้รับการแจ้งเตือนข้อมูลแบบล่าสุด ทั้งรายละเอียดของงานอีเวนท์ต่างๆไฟท์บิน,งานแสดงคอนเสิร์ตฟรี หรือกิจกรรมพิเศษสำหรับชาวต่างชาติค่ะ
สามารถกดติดตามเพจการท่องเที่ยวของประเทศเกาหลีได้ จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเกือบทุกอย่างค่ะ แต่ถ้าอยากรู้เรื่องราวดีๆและรับส่วนลดแบบพิเศษอย่าลืมกดติดตามเพจ Creatrip ของเรานะคะ รับรองมีคูปองส่วนลดเพียบ!!
10. อย่าลืมใส่แมสก์!
Cr. wgntv
ตอนนี้รัฐบาลเกาหลีประกาศใช้มาตรการรักษาระยะห่างในระดับต่ำ ซึ่งทำให้กิจการและประชาชนทั่วไปสามารถใช้ชีวิตได้เกือบเหมือนปกติ ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง, ร้านอาหาร, สวนสนุก หรือกิจกรรมต่างๆก็เริ่มกลับมาเปิดให้บริการเหมือนเดิมแล้วค่ะ
แต่ที่เกาหลีมีกฏว่า "ต้องสวมใส่แมสก์เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ" และตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ใครที่ฝ่าฝืนไม่ยอมใส่แมสก์จะถูกปรับเป็นเงิน 100,000 วอนค่ะ อย่าลืมพกแมสก์มากันด้วยนะคะ
11. อย่าลืมดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นในการนำทาง
Cr. CAU
การเดินทางในเกาหลีอาจทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสับสน เพื่อป้องกันการหลงทางเราแนะนำให้ทุกคนโหลดแอพพลิเคชั่นสำหรับการนำทางค่ะ ที่เกาหลีการใช้ Google Maps อาจจะไม่ค่อยเวิร์คเท่าไร เราแนะนำให้ใช้ Kakao Map (หรือ Kako T) หรือ Naver Map โดยสามารถเลือกเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษได้ค่ะ แต่ถ้าใครพออ่านภาษาเกาหลีได้ เราแนะนำ Daum Maps อีกแอพพลิเคชั่นหนึ่งค่ะ
โดยการเฉพาะการนั่งรถไฟใต้ดินที่มีหลายสายจนน่าเวียนหัว ควรมีแอพพลิเคชั่นสำหรับช่วยหาสถานีที่ต้องการไปค่ะ นอกจากนั้นเรายังแนะนำแอพพลิเคชั่น Visit Korea app หรือ Mangoplate app ที่จะช่วยทุกคนหาสถานที่ท่องเที่ยวสุดพิเศษได้ง่ายๆค่ะ
12. ต้องพกพาสปอร์ตเพื่อรับ Tax Refund
ความพิเศษของการมาช้อปปิ้งที่เกาหลีคือ นักท่องเที่ยวสามารถรับ Tax Refund จากร้านค้าต่างๆ ทั้งแบบที่รับส่วนลดได้ทันทีที่ร้าน หรือเก็บใบเสร็จไปขอรับเงินคืนได้ที่สนามบินค่ะ สำหรับคนที่มีแพลนอยู่เกาหลีเป็นเวลานานอาจเป็นเรื่องยากในการรับ Tax Refund แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไปไม่มีปัญหาค่ะ
13. เตรียมเปิดซิมการ์ดมาให้พร้อม
Cr. Khajochi
เนื่องจากผู้ที่เดินทางเข้าประเทศเกาหลีในช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด 19 นี้ จำเป็นที่จะต้องกักตัวเป็นเวลา 2 อาทิตย์ และมีมาตรการในการติดตามตัว ทำให้จำเป็นต้องแจ้งเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ติดต่อ โดยเจ้าหน้าที่จะมีการเช็คเบอร์โทรศัพท์ก่อนที่จะอนุญาตให้เข้าประเทศเกาหลี หากเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไม่สามารถติดต่อได้ จะถูกปฏิเสธในการเข้าประเทศ
ฉะนั้นจึงควรที่จะเปิดซิมการ์ดล่วงหน้ามา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้ค่ะ
14. เปรียบเทียบราคาระหว่างเที่ยวกับทัวร์และแผนเที่ยวที่เตรียมมาเอง
Cr. Korea Tour
การเที่ยวในเกาหลีนอกจากในเมืองใหญ่แล้ว มีอีกหลายสถานที่ที่น่าสนใจแต่อยู่ไกลออกไปจากตัวเมืองดังนั้นการเดินทางต้องเดินทางด้วย KTX, หรือรถเมล์ ซึ่งบางครั้งการวางแผนเองอาจจะไม่สะดวกและมีค่าใช้จ่ายมากกว่าใช้บริการของเอเจนซี่ค่ะ
แต่ถ้าใครอยากวางแผนเที่ยวด้วยตัวเองแอพพลิเคชั่นของรถเมล์และเว็บไซด์ของการถไฟเกาหลีถือเป็นสิ่งที่จำเป็นค่ะ ทุกคนสามารถหาข้อมูลและรายละเอียดการเดินทางและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้จากเว็บไซด์ค่ะ
นอกจากนั้นใครที่ต้องการหาไกด์นำเที่ยว สามารถเข้าไปได้ที่ Youth Goodwill Guide program ที่นี่มีนักเรียนที่ทำหน้าที่ไกด์สำหรับนักท่องเที่ยวให้บริการ รับรองว่าการเที่ยวครั้งนี้ต้องพิเศษมากแน่ๆค่ะ
15. เรียนรู้ภาษาเกาหลีขั้นพื้นฐานหรือใช้แอพพลิเคชั่นการเรียนภาษาเกาหลี
Cr. Britannica
แม้ว่าหลายสถานที่ในเกาหลีจะมีป้ายบอกทางหรือไกด์ไลน์เป็นภาษาอังกฤษ แต่ตามร้านอาหารก็ยังมีคุณลุงคุณป้าที่ยังพูดภาษาอังกฤษไมได้ ดังนั้นเพื่อการเที่ยวที่เต็มอรรถรส เราแนะนำให้เรียนภาษาเกาหลีขั้นพื้นฐานหรือเรียนตัวอักษรฮันกึลเอาไว้ก็ไม่เสียหายค่ะ
แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะเรียนรู้ไม่ทัน เพราะบางคนเรียกฮันกึลว่า "ภาษาช่วงเช้า" หมายความว่าสามารถเรียนได้ภายในหนึ่งวันค่ะ
16. "โมเทล" ที่พักแหล่งใหม่
Cr. Creatrip
ถ้าพูดถึงโมเทล หลายคนอาจนึกถึงภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ที่เกาหลีมีโมเทลหลายที่ ที่สะดวกสบายและตกแต่งสวยงาม ที่สำคัญบางแห่งยังดูดีกว่าโฮสต์เทลและราคาถูกโรงแรมอีกด้วยค่ะ
17. ต้องลองสั่งอาหารเดลิเวอรี่ซักครั้ง ! (สามารถบริการผ่าน Creatrip (คลิก) ได้เลยค่ะ)
บางครั้งการมาเที่ยวเกาหลีก็ต้องการช่วงเวลาแบบชิวๆ นอนพักผ่อนเล่นๆที่โรงแรมหรือที่พัก แต่ถ้านอนอยู่เฉยๆก็น่าเบื่อเกินไป ดังนั้นบริการอาหารเดลิเวอรี่ของเกาหลีจึงเป็นตัวช่วยของทุกคนค่ะ สามารถสั่งผ่านแอพพลิเคชั่น Yogiyo, Shuttle, แบดัลอึย มินจก (배달의민족) ก็ได้ค่ะ
ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดบางแหล่งอย่าง McDonald’s หรือ Pizza Hut! ก็มีบริการส่งเดลิเวอรี่เช่นกันค่ะ ที่สำคัญคนที่เดินทางมาในช่วงนี้ต้องมีการกักตัวถึง 2 อาทิตย์ เดลิเวอรี่ช่วยทุกคนได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะคนที่ทำอาหารไม่เป็นค่ะ เพราะหากกักตัวด้วยตัวเอง รัฐบาลเกาหลีไม่มีอาหารให้ ต้องดูแลตัวเองค่ะ
18. ลองเลือกสายการบินที่บินจากสถานบินอื่นๆที่ไม่ใช่สนามบินอินชอน
cr: skytrax
หากใครที่ต้องการประหยัดเงิน เราแนะนำให้ลองหาตั๋วบินที่บินลงที่สนามบินอื่นเช่น Gimpo International Airport หรือ Busan’s Gimhae International Airport นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างแล้ว ยังสามารถเดินทางไปยังส่วนต่างๆของประเทศได้เช่นเดียวกับสนามบินอินชอนค่ะ
19. สามารถซื้อตั๋วการแสดงได้โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคารเกาหลี
สำหรับที่บินมาเกาหลีเพื่อดูการแสดงหรือชมเทศกาลพิเศษต่างๆ น่าจะต้องเตรียมตั๋วเข้าชมกันมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คอนเสิร์ตของศิลปินหลายกลุ่มที่เปิดขายตั๋วผ่าน Global Interpark Tickets, Auction ซึ่งเป็นเว็บไซด์ที่ชาวต่างชาติสามารถซื้อได้เองค่ะ
แต่ถ้าตั๋วการแสดงเปิดขายเฉพาะเว็บไซด์ภายในเกาหลีเท่านั้น เราแนะนำว่าให้ลองขอร้องเจ้าของที่พักหรือเพื่อนเกาหลีที่มีบัญชีช่วยค่ะ เพราะถ้าต้องไปเปิดบัญชีธนาคารเองคงเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและขั้นตอนเยอะเสียเวลาค่ะ
ที่มา: koreabo
อ่านแล้วรู้สึกอยากมาเที่ยวเกาหลีเลยตอนนี้มั้ยคะ? หวังว่าสาระที่เราเอามาฝากวันนนี้จะมีประโยชน์กับคนที่วางแผนมาเที่ยวเกาหลีหลายๆคน ใครที่มีข้อสงสัยสามารถคอมเมนต์มากันได้นะคะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
โพสต์ที่น่าสนใจ |