logo
logo
DEPRECATED_CloseIcon

อัพเดทสถานการณ์โควิด 19 ในเกาหลี

จำนวนผู้ติดเชื้อ, การแพร่ระบาดแบบกลุ่มและมาตรการต่างๆ (นับจากวันที่ 2 พ.ย.)

Yujin Kim
4 years ago
อัพเดทสถานการณ์โควิด 19 ในเกาหลี-thumbnail
อัพเดทสถานการณ์โควิด 19 ในเกาหลี-thumbnail

สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน


#โควิด19 #โคโรนาไวรัส

#สถานการณ์โควิด19 #เกาหลี


สำหรับเกาหลีที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาอย่างยาวนานและได้มีการปรับเปลี่ยนการรับมือมาหลายแบบ

เรามาดูกันค่ะว่า ในขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเกาหลีเป็นอย่างไร และมาตรการรับมือต่างๆได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นยังไงบ้างเเล้ว~


🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube

Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand

🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี


สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเกาหลี (ข้อมูล ณ วันที่ 3 พ.ย. 63)

จำนวนผู้ติดเชื้อสะสม ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน ได้เพิ่มเป็น 26,807 ราย เท่ากับประมาณ 1% ของการตรวจเชื้อทั้งหมด และตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน ตามสถิตินั้นมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 100 รายค่ะ


สามารถติดตามรายละเอียดของผู้ติดเชื้อได้ตามตารางด้านล่างเลยค่ะ


1. ผู้ติดเชื้อ

จำนวนผู้ป่วยรวมทั้งหมด

(ออกจากโรงพยาบาล + อยู่ระหว่างการรักษา + เสียชีวิต)

ออกจากโรงพยาบาลแล้ว
อยู่ระหว่างการรักษา
เสียชีวิต
26,925
24,616
1,835
474


2. ผู้ที่อยู่ระหว่างการตรวจ

ผู้ที่เข้ารับการตรวจทั้งหมด
ติดเชื้อ
ไม่ติดเชื้ออยู่ระหว่างการตรวจ
2,662,26026,925
(1.0%)
2,638,005
(98.0%)
24,255
(1.0%)

ที่มา : https://ncov.mohw.go.kr/



สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเกาหลีตามพื้นที่ต่างๆ (ข้อมูล ณ วันที่ 3 พ.ย. 63)

ในขณะที่การแพร่ระบาดส่วนใหญ่ จะสามารถพบได้ตามเมืองใหญ่ๆค่ะ แต่ในทางกลับกันในพื้นที่อื่นๆค่อนข้างคงที่แล้วค่ะ


ถ้าดูจากตัวเลขแล้ว ส่วนใหญ่ตัวเลขที่สูงจะอยู่ที่โซลและจังหวัดคยองกิค่ะ (ถ้าไม่นับแทกูที่มีเหตุการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหญ่จากลัทธิชินชอนจีไป)



พื้นที่

ผู้ติดเชื้ออยู่ในระหว่างการรักษา
เสียชีวิต

โซล

6,14549578

ปูซาน

5945513

แทกู
7,18137196

อินชอน
1,0565211

ควังจู

51693

แทจอน

443226

อุลซาน
16582

เซจง

8240

คยองกี
5,55263191




สาเหตุของการแพร่ระบาดแบบกลุ่มของโควิด-19 ในประเทศเกาหลี

โควิด19 เกาหลี 2


สาเหตุแรกและสาเหตุที่ใหญ่ที่สุดก็คือ การแพร่ระบาดในลัทธิชินชอนจีที่แทกูค่ะ โดยในตอนนั้นมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 800 รายต่ออาทิตย์ แต่หลังจากที่เหตุการณ์คลี่คลายผู้ติดเชื้อก็เริ่มลดน้อยลงและคงที่ที่ตัวเลขใกล้ๆกันมาจนถึงปัจจุบันค่ะ


โควิด19 เกาหลี 3


หลังจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของลัทธิชินชอนจี ส่วนใหญ่แล้วตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เกาหลีเพิ่มขึ้นเนื่องมาจากการ "พบปะสังสรรค์กัน" เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยาวนาน ทำให้คนเริ่มชินและให้ความสำคัญกับการเว้นระยะห่างน้อยลง ทำให้มีการสังสรรค์กันมากขึ้นนั่นเองค่ะ

ซึ่งการแพร่ระบาดผ่านการสังสรรค์ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นจากการพบปะกันของครอบครัว, พบปะกันที่โรงเรียน หรือแม้กระทั่งบ้านพักคนชราค่ะ


นอกจากการะบาดครั้งใหญ่ที่หลายคนทราบกันดีอย่างเหตุการณ์แพร่ระบาดภายในโบสถ์ของลัทธิชินชอนจีที่แทกูและคลับที่อิแทวอนแล้ว ในเกาหลียังมีอีกหลายเคสที่มีการแพร่ระบาดจำนวนมากค่ะ


1. โรงเรียนมัธยมปลายด้านศิลปะ จงโรกูโควิด19 เกาหลี 4


ในวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีการแพร่ระบาดสู่นักเรียน 18 รายที่โรงเรียนมัธยมปลายด้านศิลปะ จงโรกูค่ะ

สาเหตุมาจากมีนักเรียนหนึ่งคนในห้องเรียนที่แพร่เชื้อไปสู่คุณครูและเพื่อนๆอีก 17 คน โดยจากการสอบสวนพบว่า นักเรียนกลุ่มนั้นได้มีการใช้รถชัตเติ้ลบัสร่วมกัน และมีการแพร่ไปสู่คุณครูจากการซ้อมร้องเพลงและเล่นเครื่องดนตรีต่างๆที่ห้องซ้อมค่ะ

2. ล็อตเตเรีย (Lotteria)

โควิด19 เกาหลี 5

ที่มา : Seoul Newspaper


ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการแพร่ระบาดจำนวน 11 เคสที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังอย่างล็อตเตเรีย

โดยสาเหตุหลักมาจากผู้จัดการและพนักงานของบริษัทหนึ่งที่เขตกวางจิน ในโซลได้มีการจัดสังสรรค์กันที่ล็อตเตเรีย ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังเดินทางไปที่ร้านขายไก่ทอดและขาหมูต่ออีกด้วย และสิ่งที่น่ากลัวก็คือ พวกเขาทั้งหมด ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยค่ะ 😨

หลังจากเหตุการณ์นี้ทางร้านล็อตเตเรียได้ปิดร้านไปทั้งหมด 7 สาขา ซึ่งเป็นสาขาผู้ติดเชื้อได้เดินทางไป เพื่อทำความสะอาด, ฆ่าเชื้อโรค พร้อมกับให้พนักงานได้เข้ารับการตรวจและกักตัวค่ะ


3. บ้านพักคนชรานัมยางจูโควิด19 เกาหลี 6


ในวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่าน มีเหตุการณ์การเเพร่ระบาดเป็นกลุ่มอีกครั้งที่บ้านพักคนชราในเขตนัมยางจู โดยในตึกแห่งนี้ มีบ้านพักคนชราอยู่ถึง 2 แห่ง

และในบ้านพักคนชราทั้ง 2 แห่งนี้ มีผู้สูงอายุและพนักงานของบ้านพักคนชราอยู่ถึง 65 คน ในรายงานระบุว่า ในบ้านพักทั้งสองแห่งนี้ มีผู้ติดเชื้ออยู่ถึง 62 คนเลยค่ะ


ถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถระบุสาเหตุหลักได้ว่ามาจากไหน แต่รัฐบาลเกาหลีได้แถลงว่า การแสดงอาการของโรคครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมค่ะ และหลังจากนั้น หัวหน้าของบ้านพักคนชราทั้งสองแห่งได้มีการไปทานอาหารร่วมกันค่ะ


นอกเหนือไปจากนั้น การระบุเชื้อยังลำบากขึ้นไปอีก เนื่องจากเป็นการติดเชื้อแบบที่ไม่แสดงอาการที่เกิดการแพร่ระบาดขึ้นต่อเนื่องมามากกว่าหนึ่งอาทิตย์ค่ะ และในห้องนอนห้องหนึ่งในบ้านพักคนชรา มีอยู่ถึง 4 เตียงและแต่ละเตียงก็ห่างกันเพียง 60 เซนติเมตรค่ะ จากรายงานยังระบุอีกว่าระบบระบายอากาศในตึกก็ทำงานได้ไม่ดีด้วยค่ะ



การเรียนการสอนที่เกาหลี

ระดับประถมและมัธยมศึกษา

เนื่องจากจำนวนของผู้ติดเชื้อลดลง ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมาโรงเรียนในเกาหลีใต้ตึงกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนอีกครั้ง แทนการสอนแบบออนไลน์ที่ถูกนำมาใช้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 อย่างหนักโดยแต่ละพื้นที่ก็จะมีการแบ่งการเรียนการสอนที่แตกต่างกันออกไปค่ะ


นักเรียนไปโรงเรียน

ภาพการไปเรียนจากโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในเขตกึมจอง จังหวัดปูซาน


โดยตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน โรงเรียนอนุบาล ประถมและมัธยมส่วนใหญ่ในจังหวัดปูซาน ได้อนุญาติให้นักเรียนไปโรงเรียนตามปกติเรียบร้อยแล้วค่ะ


แต่ในพื้นที่อื่นๆ บางพื้นที่ก็ได้มีการแบ่งห้องคู่ห้องคี่ไปเรียนสลับกันอาทิตย์ละ 2-3 วัน และในบางโรงเรียนก็อนุญาตให้แค่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ไปโรงเรียน เนื่องจากเป็นชั้นปีที่ต้องการการปรับตัวเยอะค่ะ



ถึงแม้ว่ามาตรการต่างๆในการไปเรียนของแต่ละพื้นที่จะไม่เหมือนกัน แต่ข้อบังคับที่เหมือนกันก็คือ "นักเรียนทุกๆคนจะต้องใส่หน้ากากอนามัย" ค่ะ


กระทรวงศึกษาธิการของประเทศเกาหลี ได้แถลงว่า เหตุผลที่ได้อนุญาติให้นักเรียนบางส่วนไปโรงเรียนได้ก็คือ การเรียนแบบออนไลน์นั้น ไม่สามารถทำให้การเรียนการสอนมีผลสัมฤทธิ์เต็มที่และนักเรียนเริ่มมีภาวะความเครียดเนื่องจากการอยู่บ้านเป็นเวลานาน และไม่สามารถสังคมกับเพื่อนๆได้ตามปกติค่ะ


นักเรียนประถม

ภาพของนักเรียนที่ต้องวัดอุณหภูมิและล้างมือก่อนเข้าโรงเรียน


ในขณะที่บางโรงเรียนได้มีการเรียนการสอนทั้งแบบออนไลน์และแบบปกติสลับกันไป แต่ก็มีถึง 74 โรงเรียนที่ต้องหยุดการเรียนที่โรงเรียนไป เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนในโรงเรียน และบางโรงเรียนมีนักเรียนติดเชื้อค่ะ

โดยในเคสล่าสุด ในวันที่ 30 กันยายน โรงเรียนประถมฮัมพยอง ในจังหวัดจอนนัม ได้พบผู้ติดเชื้อ ทำให้โรงเรียนต้องหยุดทันทีและนักเรียนประถมทั้ง 600 คนต้องเข้ารับการตรวจแบบเร่งด่วนผ่านการ Drive-thru ในตอนดึกของคืนนั้น


มหาวิทยาลัยแถลงการณ์

การแถลงการณ์เกี่ยวกับนักเรียนที่ติดเชื้อในฮัมพยอง


จากรายงานพบว่านักเรียนคนนั้นได้มีการติดต่อกับญาติที่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อในโซล แต่ยังโชคดีที่ไม่มีการแพร่ระบาดในโรงเรียนประถมเนื่องจากนักเรียนทุกคนใส่หน้ากากอนามัยเป็นอย่างดีค่ะ

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆสำหรับโรงเรียนที่จะต้องตรวจให้แน่ใจว่าทุกๆคนใส่หน้ากากอนามัย และต้องปิดโรงเรียนทันทีหากพบผู้ติดเชื้อค่ะ


ตรวจโควิดแบบ drive thru

ภาพการตรวจเชื้อแบบ Drive-thru


ระดับมหาวิทยาลัยเรียนออนไลน์


มหาวิทยาลัยในเกาหลี ก็ได้มีการเปลี่ยนจากการเรียนออนไลน์มาเป็นการเรียนแบบปกติในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนหลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงแล้วค่ะ


โดยคณะที่สามารถไปเรียนที่มหาวิทยาลัยได้ ส่วนใหญ่คือคณะที่ต้องการใช้แล็บทดลองค่ะ และบางวิชาในคณะอื่นๆก็มีการสอบกลาง-ปลายภาคที่มหาวิทยาลัยตามปกติเพื่อความเท่าเทียมกันแล้วค่ะ แต่นอกจากนี้บางมหาวิทยาลัย หรือบางวิชาก็ยังเป็นออนไลน์อยู่ค่ะ


สำหรับมหาวิทยาลัยของเราตอนนี้ก็คือเป็นการเรียนแบบผสมค่ะ ถ้าใครอยากจะไปเรียนที่โรงเรียนก็สามารถไปได้ แต่ว่าต้องจองก่อนค่ะ ส่วนใครยังอยากเรียนออนไลน์อยู่ก็สามารถเรียนออนไลน์ได้เช่นกันค่ะ


เรียนภาคปฏิบัติ

ภาพจาก Ulsan-Maeil / ภาพการเรียนภาคปฏิบัติที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง


เรามาดูตัวอย่างจากเคสของ มหาวิทยาลัยฮันกุก สาขา Foreign Studies กันค่ะ

ในวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยฮันกุกได้ตัดสินใจว่าจะเปิดการเรียนการสอนแบบปกติ แต่ในห้องเรียนหนึ่ง จะไม่สามารถมีนักเรียนเกิน 12 คนได้ค่ะ


ถ้าจำนวนนักเรียนในห้องเรียนนั้นมีมากกว่า 12 คน ก็จะมีการสลับกันมาเรียนระหว่างเลขประจำตัวคู่และคี่ค่ะ โดยในตอนแรก มหาวิทยาลัยได้มีแผนจะเริ่มการเรียนการสอนแบบนี้ในวันที่ 13 พฤศจิกายน แต่ว่านักศึกษาได้มีการลงนามกันขึ้นมาว่า นักเรียนควรจะมีสิทธิ์เลือกวิธีการเรียนการสอนเองได้ค่ะ ทำให้แผนนี้ได้มีการเลื่อนออกไปอีกค่ะ


ภาพมหาวิทยาลัย

ที่มา : Hankuk Ilbo / ภาพจากมหาวิทยาลัยฮันกุกเวกุกออ


คณบดีของคณะ Foreign Studies มหาวิทยาลัยฮันกุก ได้แถลงว่า มีนักศึกษากว่า 5,000 คนได้ลงนามว่า "นักศึกษาทุกคนควรมีสิทธิ์เลือกเองว่าพวกเขาควรไปเรียนหรือเรียนแบบออนไลน์ต่อ"


นอกจากนี้มหาวิทยาลัยอื่นๆ ก็มีนโยบายในการสลับกันไปเรียนเช่นนี้เหมือนกันค่ะ โดยการสลับกันไปเรียนนี้ได้สร้างความสับสนให้นักศึกษามากๆค่ะ



มาตรการการแยกระดับการเว้นระยะห่างจาก 3 ระดับเป็น 5 ระดับ

การเว้นระยะห่างทางสังคม


เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงง่ายๆ ทางรัฐบาลเกาหลีเลยได้จัดระดับการเว้นระยะห่างทางสังคมออกจาก 3 ระดับเป็น 5 ระดับ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน โดยสามารถดูรายละเอียดต่างๆได้จากตารางด้านล่าง ถึงความแตกต่างกันของการเว้นระยะห่างแต่ละระดับ


การแบ่งระดับการเว้นระยะห่างเป็น 3 อันดับ

การเว้นระยะห่างทางสังคม 3 ระดับ
ระดับที่ 1การกักตัว
(ผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 50 รายต่อวัน)
ระดับที่ 2ระดับกลาง
(ผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 100 รายต่อวัน)
ระดับที่ 3ล็อคดาวน์
(ผู้ติดเชื้อมากกว่า 100-200 รายต่อวัน)


เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงระดับการเว้นระยะห่างบ่อย จึงทำให้คนเกาหลีสับสนอยู่เช่นกันค่ะ และการเปลี่ยนแปลงการเว้นระยะห่างบ่อยๆเช่นนี้ ทำให้กิจการ เช่น ร้านคาราโอเกะ, ร้านเกม และฟิตเนสต่างๆไม่สามารถเปิดทำการได้ตามปกติ ทำให้หลายๆแห่งต้องปิดตัวลงค่ะ


ดังนั้นทางรัฐบาลเกาหลี จึงได้เพิ่มระดับต่างๆขึ้นเป็น 5 ระดับเพื่อป้องกันความสับสัน และลดผลกระทบทางเศรษฐกิจลงค่ะ โดยทั้ง 5 ระดับ สามารถแบ่งได้ตามตารางด้านล่างนี้ค่ะ

การแบ่งระดับการเว้นระยะห่างเป็น 5 อันดับ

การเว้นระยะห่างทางสังคม 5 ระดับ
ระดับที่ 1การกักตัว
(ในเมืองหลวงและปริมณฑลน้อยกว่า 100 ราย, ในพื้นที่อื่นๆน้อยกว่า 30 ราย)
ระดับที่ 1.5การแพร่ระบาดในภูมิภาคต่างๆ - ระดับภูมิภาค
(ในเมืองหลวงและปริมณฑลมากกว่า 100 ราย, ในพื้นที่อื่นๆมากกว่า 30 ราย )
ระดับที่ 2การแพร่ระบาดในภูมิภาคต่างๆ - กระจายหลายภูมิภาค
(2 เท่าของระดับ 1.5 หรือมากกว่า 300 รายทั่วประเทศ)
ระดับที่ 2.5การแพร่ระบาดระดับประเทศ - การแพร่ระบาดทั่วประเทศ
(2 เท่าของระดับ 2 หรือมากกว่า 400-500 รายทั่วประเทศ )
ระดับที่ 3การแพร่ระบาดระดับประเทศ - การแพร่ระบาดทั่วประเทศขนาดใหญ่
(2 เท่าของระดับ 2.5 หรือมากกว่า 800-1,000 รายทั่วประเทศ )


ทางรัฐบาลเกาหลีเชื่อว่า การแบ่งระดับแบบใหม่เป็น 5 ระดับจะทำให้ลดความตึงเครียดในสังคมและฟื้นฟูเศรษฐกิจต่างๆได้ เนื่องจากร้านและบริการต่างๆสามารถเปิดทำการได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามทุกๆคนยังต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาอยู่เสมอเช่นเดิมค่ะ


และคนเกาหลีก็มองว่าระบบใหม่นี้จะเป็นการสร้างสมดุลย์ในการใช้ชีวิตประจำวันที่ดีขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโรคเช่นเดียวกันค่ะ


เป็นอย่างไรบ้างคะ? มาตรการต่างๆที่ทางเกาหลีใต้ใช้ ค่อนข้างที่จะเข้มงวดมากพอตัวเลยล่ะค่ะ แต่ว่าถ้าหากว่าช่วยลดจำนวนการแพร่ระบาดได้จริง และยังช่วยเศรษฐกิจให้ดีขึ้นด้วยก็ถือว่าประสบความเร็จมากๆเลยล่ะค่ะ~!


🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube

Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand

🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี


โพสต์อื่นๆที่น่าสนใจ