ศาลเกาหลีใต้ตัดสินให้ผู้กระทำความผิดข้อหาข่มขืนให้ถูกคุมประพฤติ?
ทำไมศาลเกาหลีใต้มีคำพิพากษาให้ผู้กระทำความผิดข้อหาข่มขืน โดยเหยื่ออายุเพียง 11 ปีเท่านั้น ให้ถูกคุมประพฤติเป็นเวลา 4 ปี?
Cr. Photonewsสวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#ข่าวเกาหลี #คดีข่มขืน
#ผู้เยาว์ #ศาลเกาหลี
กลายเป็นเรื่องราวที่น่าตกใจเมื่อศาลเกาหลีใต้มีคำพิพากษาให้ผู้ต้องหาคดีข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์ ได้รับโทษเป็นการจำคุกและถูกคุมประพฤติเท่านั้น ทำให้สังคมเกาหลีต่างช็อคกับคำพิพากษาและตั้งข้อสงสัยถึงเหตุผลที่ผู้ต้องหาได้รับการลดโทษค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
ผู้ต้องหาคดีข่มขืนถูกตัดสินให้รับโทษโดยการคุมประพฤติ?
เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ศาลแขวงกลางกรุงโซลได้ตัดสินโทษให้ผู้ต้องหา A และ B ถูกจำคุกเป็นเวลา 3 ปีและถูกคุมประพฤติอีก 4 ปี จากข้อหาละเมิดพระราชบัญญัติสวัสดิภาพเด็กและผู้เยาว์ค่ะ
เหตุการณ์ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมกราคม 2020 ผู้ต้องหา A ได้รู้จักเหยื่อที่เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผ่านทางแอพพลิเคชั่นการสนทนา ซึ่งเริ่มจากการพูดคุยผ่านทางวีดิโอแชท จากนั้นก็ลุกลามไปถึงการล่วงละเมิดทางเพศและการข่มขืนเหยื่อค่ะ
ตามกฏหมายของประเทศเกาหลีใต้ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กและผู้เยาว์กล่าวว่า ผู้ที่กระทำผิดโดยการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กและผู้เยาว์ต้องถูกลงโทษทุกกรณี กรณีนี้ผู้ต้องหาได้ล่วงละเมิดทางเพศเหยื่อที่มีอายุเพียง 11 ปี หลายครั้ง รวมไปถึงการมีความสัมพันธ์ทางเพศ ซึ่งถือว่าเป็นความผิดคดีอาชกรรมค่ะ
ศาลกล่าวว่าการกระทำนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อเหยื่อทั้งสภาพจิตใจและบุคลิกภาพค่ะ นอกจากนั้นผู้ต้องหา A ยังเคยมีประวัติความผิดข้อหาค้าประเวณีหลายครั้ง เขายังเคยถูกติดตามด้วยกำไลข้อมืออิเล็คโทรนิค และเขาได้ถูกรักษาเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศมาแล้วช่วงหนึ่งค่ะ
ส่วนผู้ต้องหา B นั้นกล่าวว่า เขาไม่รู้ว่าเหยื่ออายุต่ำกว่า 13 ปี ซึ่งศาลพิจารณาว่าเป็นข้ออ้างที่ไม่น่าเชื่อถือ แต่จากประวัติของผู้ต้องหาพบว่าเขาไม่เคยก่อคดีความตั้งแต่อายุ 20 ปีและครั้งนี้คือความผิดครั้งแรก ศาลจึงตัดสินลงโทษโดยการจำคุก 3 ปีและคุมประพฤติอีก 4 ปีค่ะ
ศาลอธิบายเหตุผลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโทษที่ผู้ต้องหา A และ B ได้รับว่า ในขั้นตอนการสอบสวนและพิจารณาผู้ต้องหาทั้งคู่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีพร้อมทั้งยอมรับความผิดทุกข้อกล่าวหา นอกจากนั้นพวกเขายังจ่ายเงินชดเชยให้กับเหยื่อ และฝั่งของเหยื่อก็ไม่ต้องการดำเนินคดีใดๆค่ะ
นอกจากนั้นอัยการยังขอให้ศาลออกคำสั่งให้ใช้อุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กโทรนิคกับผู้ต้องหา แต่ศาลได้ยกเลิกคำร้องโดยกล่าวว่า ผู้ต้องหาไม่มีความเสี่ยงที่จะก่ออาชญากรรมทางเพศซ้ำ และข้อมูลของผู้ต้องหายังถูกปกปิดเป็นความลับด้วยค่ะ
แหล่งข้อมูล : Newsnack
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
โพสต์ที่น่าสนใจ |
