สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุกๆวัน
#สถานที่สุดฮอต #เที่ยวเกาหลี
#โพราซอม #เกาะสีม่วง
เรียกได้ว่าในตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักเกาะสีม่วงของ หรือที่คนชอบเรียกกันว่าโพราซอม! สถานที่สุดฮอตที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากของเกาหลี สวรรค์ของคนรักสีม่วงอย่างแท้จริง
ใครที่อยากหนีออกจากโซลและกำลังมองหาที่เที่ยวใหม่ หรือเดินทางมาเที่ยวมกโพละก็ ขอแนะนำให้แวะมาที่เกาะแห่งนี้กันเลย เพราะไม่ว่าใครที่ได้มาก็จะต้องตกหลุมรัก ฉะนั้นเตรียมชุดสีม่วงกันให้พร้อมและพุ่งตัวไปยังเกาะแห่งนี้พร้อมๆกันเลยค่ะ~
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
เกาะสีม่วง (โพราซอม)

เกาะสีม่วงหรือที่เรียกกันว่าโพราซอม แท้จริงแล้วคือเกาะพัคจีโดที่ตั้งอยู่ทางจอลลานัมโดนั่นเอง สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยสีม่วงและกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนเกาหลี เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่เช็คอิน IG เลยก็ว่าได้ค่ะ อย่ารอช้าตามไปดูกันดีกว่าจะสวยงามขนาดไหน
รีวิว

เนื่องจากเกาะสีม่วงตั้งอยู่ไกลจากโซล หากต้องการเดินทางมาต้องนั่ง KTX มาลงที่สถานีมกโพ และเดินทางไปยังสถานีรถบัสมกโพ (목포중합버스터미널) เพื่อขึ้นบัสท้องถิ่นในการเดินทางไปยังเกาะสีม่วง แนะนำให้จัดทริปเที่ยวมกโพเลยค่ะ จะได้ไม่เสียเที่ยวในการเดินทาง แถมได้เปลี่ยนบรรยากาศในการเที่ยวอีกด้วย
ตารางรถบัสไปยังเกาะสีม่วง

รถบัสที่เราจะต้องขึ้นกันก็คือสาย 2004 ค่ะ ขอบอกก่อนนะคะว่าเป็นบัสท้องถิ่นแบบโลคอลจริงๆค่ะ จึงไม่สามารถจ่ายค่ารถด้วยบัตรได้ รับเฉพาะเงินสดเท่านั้นค่ะ โดยค่ารถอยู่ที่ 3,000 วอนต่อคน (ราคาต่างชาติ) และรถบัสออกเป็นเวลานะคะ ฉะนั้นควรเช็ครอบของรถบัสให้ดีก่อนค่ะ (เช็คจากช่องสีชมพูได้เลยค่ะ คือเวลาที่รถออกจากสถานีรถบัสมกโพ

เนื่องจากเป็นรถบัสโลคอล ฉะนั้นภาษาเกาหลีล้วนเลยค่าา ป้ายที่เราจะต้องมาลงเพื่อต่อรถไปยังเกาะสีม่วงก็คือป้าย "อึบดงซากอรี" (읍동사거리) สำหรับคนที่ไม่รู้ภาษาเกาหลีให้สังเกตุสถานีในรูปภาพด้านบนไว้นะคะ รถบัสจะมาส่งที่นี่สำหรับป้ายนี้ค่ะ หรือไม่ก็บอกคนขับรถให้ช่วยบอกได้ค่ะ (นั่งเลยสถานีเรือเฟอร์รี่มาซักพักใหญ่)

หลังจากที่ลงป้ายอึบดงซากอรีเรียบร้อย ก็ให้รอรถบัส "อันจวามาอึลบัสซึ" (안좌마을버스) เพื่อเดินทางต่อไปยังสะพานสีม่วง ซึ่งเป็นต้นทางเพื่อเดินไปยังเกาะสีม่วงค่ะ แต่รถบัสมีตารางเวลาเช่นกัน ซึ่งไม่ได้วิ่งเยอะ เลยขอแนะนำให้ขึ้นแท็กซี่ไปค่ะ โดยสามารถมองหาป้ายแท็กซี่ (택시) ทางขวามือหลังลงจากรถแล้วโทรได้เลยค่ะ บอกแค่ว่า purple bridge หรือ purple island คนขับรถก็เข้าใจค่ะ

ค่าแท็กซี่จะอยู่ที่ประมาณ 9,000 วอน โดยคนขับจะมาส่งที่บริเวณสะพานสีม่วง ซึ่งเป็นต้นทางในการเดินไปยังเกาะสีม่วงค่ะ เวลานี้ก็มีอาหารขายนะคะ แต่ราคาค่อนข้างสูงเลยละค่ะ ตอนที่เราไปเกาะสีม่วงแห่งนี้ยังไม่มีการเก็บค่าเข้านะคะ แต่มีป้ายติดราคาค่าเข้าไว้ ผู้ใหญ่ 3,000 วอน, ทหารและเด็กนักเรียน 2,000 วอน และเด็กเล็ก 1,000 วอน


ที่นี่ก็ถึงเวลาเดินไปยังเกาะสีม่วงกันแล้ว~ โดยเกาะแรกที่เราจะเดินไปมีชื่อเรียกว่าเกาะพัคจีโดค่ะ ซึ่งใช้เวลาในการเดินประมาณ 8 ชั่วโมงจากต้นทางของสะพานสีม่วง

ใครที่ชอบถ่ายรูปขอบอกเลยค่ะว่าสวรรค์!555555 เพราะว่าเดินชมวิวทะเลเพลินๆ พร้อมรับลมธรรมชาติเป็นอะไรที่เลิศและชิลมาก แถมมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะสุดๆไปเลยละค่ะ เดินไปถ่ายรูปไปก็คือกว่าจะถึงเกินเวลาที่เค้าบอกว่า 8 นาทีค่ะ

วันที่เราเดินทางไปเป็นวันธรรมดานะคะ แต่คนเยอะมาก แบบมากมากกกก......เลยค่ะ ถ่ายรูปก็คือได้คนติดออกมาเป็น background รัวๆ จะถ่ายแบบไม่มีคนก็รอนานมากๆ เพราะสะพานไม่ใหญ่คนจะหลบไปทางไหนก็ไม่ได้ค่ะ5555


และแล้วก็มาถึงที่เกาะพัคจีโดกันแล้ว~ บอกได้คำเดียวว่าอดตื่นตาตื่นใจไม่ได้เลยละค่ะ เพราะที่นี่ทุกอย่างเป็นสีม่วง ย้ำว่าเป็นสีม่วงจริงๆค่ะ


ไม่ว่าจะพื้น, ป้ายบอกทาง, แผนที่หรือแม้แต่รถบัสชมรอบเกาะก็เป็นสีม่วงค่ะ สำหรับคนที่อยากชมรอบเกาะแต่คิดว่าเดินไม่ไหวเพราะเกาะค่อนข้างใหญ่ก็สามารถที่จะใช้บริการรถบัสกันได้นะคะ


เกาะแห่งนี้มีสถานที่ที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร, โรงแรม, หมู่บ้านสีม่วง, ทุ่งลาเวนเดอร์ หรือแม้แต่บ่อตักน้ำสมัยโบราณอายุกว่า 900 ปี แต่สำหรับบ่อตักน้ำต้องเดินเข้าไปอีกกว่า 25 นาทีเลยค่ะ และเป็นทางขึ้นเขาเราเลยขอบาย~

สำหรับคนที่ชอบชมวิวเราขอแนะนำเส้นทางเดินเรียบหาดเลยค่ะ เพราะเป็นทางเดียวกับที่เดินไปดูบ่อตักน้ำโบราณและทุ่งลาเวนเดอร์ค่ะ ซึ่งระหว่างทางเดินก็มีรถสีม่วงคันเล็กๆนี้ให้แวะถ่ายรูปกันด้วย ไม่แน่ใจว่ามีขายกาแฟด้วยหรือว่าแค่ตกแต่งก็ไม่ทราบ แต่วันที่เราไปไม่มีขายค่ะ


เดินผ่านรถสีม่วงคันเมื่อกี้มาซักพักนึงก็จะเจอกับทางเข้าไปดูทุ่งลาเวนเดอร์ค่ะ เลี้ยวขวาเข้าไปยังทางเดินเล็กๆได้เลย ถ้าเจอป้ายตามภาพด้านบนก็คือเดินทางถูกทางแล้วค่ะ จากตรงนี้ก็เดินไปอีก 1.6 กม. กว่าจะถึงทุ่งค่ะ ไกลไม่ใช่เล่นเลย

ทางเดินก็คือเป็นป่าเลยค่ะแบบป่าจริงๆที่ยังมีสัตว์น้อยๆอย่าน้องปูเดินเต็มไปหมด ฉะนั้นระวังกันด้วยนะคะ อย่าไปเหยียบน้องเข้าละค่ะ เพราะเราเห็นน้องแบนหลายตัวเลย แต่ที่พีคกว่าปูก็คืองูค่ะ!!!!!! ใช่ค่ะเราเจองู บอกได้คำเดียวว่าวงแตกค่าา ที่สำคัญเดือนที่เราไปไม่มีทุ่งดอกลาเวนเดอร์แล้วด้วยค่ะ ฉะนั้นหากอยากถ่ายรูปลาเวนเดอร์สวยๆให้มาช่วงเดือน 6 นะคะ

cr: jnilboหากเดินไปยังฝั่งหมู่บ้านสีม่วงก็เจอกับโรงแรมและร้านอาหารด้วยค่ะ ฉะนั้นจะพลาดไปไม่ได้ ลองเข้าไปดูกันซักหน่อยว่าอาหารของเกาะแห่งนี้จะพิเศษกว่าที่อื่นยังไง
ร้านอาหารที่เกาะแห่งนี้จะขายอาหารเซตนะคะ โดยอยู่ที่เซตละ 10,000 วอน เครื่องเคียงมาเต็มมากค่ะ ผักทั้งนั้น..... รสชาติก็ตามหน้าตาเลยค่ะ....
เดินไปต่อที่เกาะพันวอลโดกันต่อเลย~ โดยจากเกาะพัคจีโดใช้ระยะเวลาในการเดินไปยังเกาะพันวอลโด 15 นาทีค่ะ แนะนำให้ถ่ายรูปบริเวณต้นสะพานมากๆ เพราะว่าจะเก็บได้ทั้งสะพานและบ้านสีม่วงเลยละค่ะ คิ้วท์มากๆๆ


ส่วนตัวแล้วเราขอแนะนำให้ถ่ายรูปที่สะพานทางเดินไปยังเกาะพันวอลโดนะคะ บริเวณนี้คนไม่เยอะมากเท่าสะพานที่เดินมายังเกาะแรกอย่างพัคจีโดค่ะ เพราะว่าคนจำนวนมากเลือกที่จะหยุดที่เกาะพัคจีโดและไม่เดินมาต่อยังเกาะพันวอลโดค่ะ ฉะนั้นที่นี่เป็นของเรา~ โพสกันให้เต็มที่ไปเลย

และแล้วก็มาถึงยังเกาะพันวอลโด~ ความหมายของชื่อเกาะก็คือพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว เลยไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมถึงมีประจันทร์ครึ่งเสี้ยวกับเจ้าชายน้อย อีกจุดที่มาแล้วจะต้องแวะถ่ายรูปกันค่ะ

อีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดในการถ่ายรูปก็คือตู้โทรศัพท์สีม่วง ซึ่งไม่ว่าจะถ่ายแบบไกลหรือโคลสอัพก็สวย ฉะนั้นอย่าลืมมาถ่ายกันนะคะ
cr: mdilbo

เดินมาไกลๆเหนื่อยๆ แวะพักที่คาเฟ่เป็นตัวเลือกที่ดีมากเลยค่ะ ที่สำคัญราคายังไม่แพงอีกด้วยนะคะ เราสั่งบลูเบอร์รี่โยเกิร์ตสมูตตี้ไป อยู่ที่ราคา 4,500 เท่านั้นค่ะ ดื่มน้ำหวานๆ นั่งในแอร์เย็นๆ สวรรค์~ สำหรับคนที่อยากลองเข้าจิมจิลบังเกาหลี ที่นี่ก็มีเช่นกันนะคะ ลองใช้บริการกันได้เลยค่ะ!

ใครที่มาช่วงบ่ายและกลับตอนเย็นๆ ก็จะได้เห็นวิวอีกมุมนึงของทะเลเกาหลีเป็นช่วงที่น้ำทะเลลด แต่แอบกระซิบว่าถ้าจะถ่ายรูปคือไม่สวยเลยค่ะ เพราะดูเป็นโคลนๆ

ตารางรถบัสเข้าเมือง
การเดินทางกลับเราเลือกรถแท็กซี่คันเดิมให้มารับค่ะ ฉะนั้นเซฟเบอร์กันเอาไว้ให้ดีนะคะ แท็กซี่จะมาส่งที่ป้าย "อึบดงซากอรี" ที่เดียวกับที่เราลงค่ะ ไม่แนะนำให้กลับช้ามากนะคะ เพราะว่ารถบัสไปยังมกโพเที่ยวสุดท้ายคือ 19.25 น. ค่ะ ฉะนั้นถ้าพลาดนี่ยิ้มเลยนะคะ
ข้อมูล
ที่อยู่: 전남 신안군 안좌면 소곡리
เป็นยังไงกันบ้างคะกับเกาะสีม่วง สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในตอนนี้ของเกาหลี หวังว่าจะถูกใจหลายๆคน และเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวต่างจังหวัดของเกาหลีนะคะ
แล้วเจอกันใหม่ค่ะ บ๊ายบาย~
🤞🏻 ติดตามพวกเรา Creatrip บน Youtube

