logo
logo
DEPRECATED_CloseIcon

พิจารณาปฏิเสธการยื่นขอวีซ่าทำงาน (E-7) ชาวเวียดนาม

ผีน้อยเป็นเหตุ! เกาหลีพิจารณาปฏิเสธการยื่นขอวีซ่าทำงาน (E-7) ชาวเวียดนาม

피비 @creatrip
4 years ago
พิจารณาปฏิเสธการยื่นขอวีซ่าทำงาน (E-7) ชาวเวียดนาม-thumbnail
พิจารณาปฏิเสธการยื่นขอวีซ่าทำงาน (E-7) ชาวเวียดนาม-thumbnail


สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวจากเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน




#แรงงานผิดกฎหมาย #เกาหลี

#ร้านอาหารเวียดนาม #ตม.

#วีซ่า #ผีน้อย




ที่เกาหลีอาหารเวียดนามเริ่มได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ร้านอาหารจึงเปิดตัวเพิ่มมากขึ้นจำนวนมาก เนื่องจากเล็งเห็นถึงตลาดที่คนสนใจ รวมไปถึงรองรับความต้อง การที่เพิ่มขึ้น จำนวนพ่อครัวชาวเวียดนามจึงเพิ่มขึ้นตามด้วยเช่นกัน แต่เมื่อไม่นานมานี้ เกาหลีได้มีการตรวจพบว่าพ่อครัวชาวเวียดนามที่อาศัยและทำงานอยู่ในเกาหลีแบบผิดกฎหมายมีจำนวนมากแบบน่าตกใจ



จากการที่มีแรงงานผิดกฎหมายจำนวนมาก ทำให้ตม.เกาหลีเข้มงวดกับผู้ที่ถือวีซ่าเวียดนามมากขึ้น เนื่องจากตามไกด์ไลน์ของการออกวีซ่าสามารถเข้มงวดเพิ่มขึ้นกับประเทศที่มีผู้ทำงานผิดกฎหมายจำนวนมาก


🤞🏻 ติดตามพวกเรา Creatrip บน Youtube

✨Creatrip อินสตาแกรม

instagram.com/creatrip.thailand

🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี


การทำงานแบบผิดกฎหมายของชาวเวียดนาม

ที่มา: Daegu Ilbo

ปกติแล้ว หากจะจ้างพ่อครัว ทางร้านอาหารจะต้องเป็นคนช่วยออกวีซ่า E7 ให้ค่ะ นอกจากนี้ ตัวพ่อครัวเองยังต้องมีความสามารถที่บ่งบอกว่า เชี่ยวชาญทางด้านการทำอาหารจริง ๆ เช่น ใบประกาศนียบัตรรับรองการเป็นเชฟหรือมีประสบการณ์อย่างต่ำ 5 ปีและต้องได้มาตรฐานของร้านอาหารเกาหลีอีกด้วย


วิธีการทำวีซ่าของพ่อครัวคือ ต้องมีเอกสารการรับรองฝีมือในการทำอาหารที่แน่ชัดมากจึงสามารถยื่นทำวีซ่าได้ แต่ปัญหาก็คือ พ่อครัวจากจีนและฟิลิปปินส์ต่างได้วีซ่า E7 อย่างง่ายดาย

ในขณะที่พ่อครัวเวียดนามได้วีซ่ายากมาก ๆ เนื่องจากจำนวนของคนผิดกฎหมายในประเทศ ซึ่งข้อจำกัดในวีซ่านี้เริ่มมามากกว่าปีกว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแล้ว


ที่มา: 사과맛양파

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของแดกูกล่าวว่า "การออกวีซ่าที่เข้มงวดนี้ไม่ได้บังคับใช้แต่เฉพาะชาวเวียดนาม แต่ยังรวมไปถึงประเทศที่มีแรงงานผิดกฎหมายจำนวนมากอีกด้วย บางทีวีซ่าจึงจำกัดอยู่แค่ 1 ปีสำหรับคนจากประเทศเหล่านี้"

นอกจากนี้ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ถ้ามีการสมัครวีซ่าอย่างถูกกฎหมาย ทาง ตม.เองจะดำเนินการให้ตามปกติ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแม้แต่คนมาสมัครทำงานอย่างถูกกฎหมายเลยแม้แต่คนเดียว"




อย่างไรก็ตาม ได้มีการประกาศที่ไม่เกี่ยวข้องกับการข้อบังคับที่ได้กล่าวไปข้างต้นในเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง



"เรารู้ว่ามีระเบียบข้อปฏิบัติภายในที่ต้องเข้มงวดกับการออกวีซ่ามากขึ้นโดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางกระทรวงยุติธรรมเลยแม้แต่น้อย" จริงๆ แล้ว วีซ่าการเป็นเชฟหรือทำงานในเกาหลีนั้นมีข้อจำกัดอยู่มาก ทั้งเรื่องประสบการณ์และคุณสมบัติที่แม้แต่พ่อครัวชาวเกาหลีเองก็ยากที่จะได้มาตรฐานถึงขนาดนั้น


สิ่งที่กำลังเป็นประเด็นคือ การที่มีพ่อครัวต่างชาติชาวเวียดนามในร้านอาหารต่างจังหวัดซึ่งส่วนใหญ่มีแต่พ่อครัวชาวเกาหลี



ถึงแม้แถวนั้นจะมีคนเวียดนามอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นนักเรียนต่างชาติที่มาเรียนในเกาหลีและมีวีซ่านักเรียน



ที่มา: Newsis

ร้านอาหารเวียดนามแห่งหนึ่งในย่านซูซองกู จังหวัดแดกูกล่าวว่า "เชฟส่วนใหญ่รับสมัครผ่านการประกาศหางานทั่วไปที่ไม่ได้ระบุว่าให้มาเป็นพ่อครัว เนื่องจากปัญหาในการขอวีซ่า"


นอกจากนี้ นายจ้างของร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านบกกูได้เล่าให้ฟังว่า "ผมอยากได้เชฟที่มาจากประเทศต้นตำรับแล้วช่วยยกระดับอาหาร แต่เป็นไปได้ยากมาก ๆ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องของวีซ่าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย"



ที่มา: 원필름

คิมโม ชาวเกาหลี (เพศหญิง อายุ 33 ปี) รายหนึ่งให้ความเห็นว่า "การออกกฎหมายโดยใช้ระเบียบที่เข้มงวดต่อประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป จะยิ่งก่อให้เกิดปัญหาการทำงานแบบผิดกฎหมาย กฎระเบียบเหล่านี้สร้างขึ้นมาแค่ให้พวกเจ้าหน้าที่สบายขึ้นก็เท่านั้นเอง"


คิดยังไงกันบ้างกับกฎข้อบังคับที่เพิ่มขึ้นมานี้คะ ถือว่าเป็นอีกสิ่งที่ยากต่อการคาดการณ์ว่าจะสามารถช่วยลดจำนวนของผู้ที่เข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมายได้อย่างแน่ชัดหรือเพิ่มจำนวนของผู้ที่ไม่มีวีซ่าทำงานกันแน่

แต่อย่างไรก็ตาม การเข้ามาทำงานแบบถูกกฎหมายก็เป็นสิ่งที่สำคัญและควรกระทำ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในด้านที่ไม่ดีต่อส่วนรวมและประเทศ



🤞🏻 ติดตามพวกเรา Creatrip บน Youtube

✨Creatrip อินสตาแกรม

instagram.com/creatrip.thailand

🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี

โพสต์ที่น่าสนใจ
วีซ่าท่องเที่ยวระยะสั้น C-3-9
การเจรจาปรับค่าแรงขั้นต่ำ
รีวิวการกักตัวที่ไทย vs เกาหลี