สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุกๆวัน

#ข่าวเกาหลี #อัพเดทเกาหลี 

#วัฒนธรรมสตาร์บัคส์ #สตาร์บัคส์ #เกาหลี

จำนวนสาขาร้านสตาร์บัคส์ในเกาหลีมีสูงเป็นอันดับที่ 5 ใน 75 ประเทศทั่วโลก และโซลก็เป็นหนึ่งในเมืองที่มีจำนวนร้านสตาร์บัคมากที่สุด สตาร์บัคส์ในเกาหลีนั้นประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดคนเกาหลีและมีความแตกต่างบางอย่างที่เป็นตัวดึงดูดนักดื่มกาแฟได้อย่างดีเมื่อเปรียบเทียบกับสตาร์บัคส์ในประเทศอื่น ๆ

สินค้าสตาร์บัคเชจูจำนวนจำกัด｜ซื้อเลย

🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube

✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand

🎈บริการความงาม / เครื่องเขียน / รองเท้า / เครื่องแต่งกายเกาหลี

สินค้าลิมิเต็ดอิดิชั่น จำนวนจำกัด

สตาร์บัคส์เกาหลีมักจะเปิดตัวกิจกรรมตามฤดูกาลที่นำเสนอสินค้าลิมิเต็ดอิดิชั่นที่มีจำนวนจำกัดให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรม สะสมการซื้อ 'e-frequency' ในแต่ละฤดูกาลซึ่งคล้ายกับรายการส่งเสริมการขายแบบแสตมป์ที่ร้านกาแฟทั่วๆไปทำเช่นกัน

สินค้าสตาร์บัคส์เป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดเกาหลีและกิจกรรม e-frequency ที่เป็นที่นิยมมากกว่าสินค้าที่วางจำหน่ายอยู่ตามปกติ และปีนี้ดูเหมือนว่าการแข่งขันจะสูงที่สุดเท่าที่เคยผ่านมา!

ตามที่ JTBC สื่อเกาหลีได้นำเสนอข่าวว่า มีลูกค้าหนึ่งรายมาที่ร้านสตาร์บัคส์สาขาในยออีโดเพื่อซื้อกาแฟจำนวน 300 แก้ว เพื่อที่จะได้สิทธิ์ในการรับกระเป๋า ซัมเมอร์เรดดี้ (Summer-Ready) 17 ชิ้นของสตาร์บัค ซึ่งแสดงให้เราเห็นว่ากระเป๋า Summer-Ready ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และสินค้ารุ่นลิมิเต็ดอิอดิชั่น ของสตาร์บัคส์ในช่วงฤดูร้อน 2020 ได้เริ่มเข้ามาในประเทศเกาหลีแล้ว

หลังจากที่ลูกค้ารายดังกล่าวซื้อกาแฟ 300 แก้ว ก็ถือกาแฟออกจากร้านไปเพียงหนึ่งแก้วและทิ้งกาแฟที่เหลือไว้ในร้านโดยมีกระดาษโน้ตติดไว้ว่าแจกฟรีอีกด้วย แต่ตามที่ร้านสตาร์บัคส์เกาหลีบอกภายหลังคือ กาแฟส่วนใหญ่ถูกทิ้งเพราะไม่มีใครต้องการกาแฟที่วางทิ้งไว้นี้เลย

เพื่อให้มีสิทธิ์ที่จะได้รับกระเป๋า Summer-Ready 1 ใบ ลูกค้าจะต้องซื้อเครื่องดื่มรวมมูลค่า ￦65,000 ( 53 ดอลลาร์สหรัฐ ) และกระเป๋าในนี้เมื่อขายต่อในตลาดออนไลน์ในเกาหลีจะมีราคาสูงถึงราคา ￦100,000 (82 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นการสร้างกำไรอย่างง่ายดายสำหรับคนที่นำไปขาย

การดำเนินธุรกิจของสตาร์บัคส์เกาหลี

เคล็ดลับที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสตาร์บัคส์เกาหลีคืออะไรล่ะ? นับตั้งแต่เริ่มต้นกิจการในปี 1999 จนถึงทุกวันนี้สตาร์บัคส์ก็ทำได้ดีมาก ซึ่งหมายความว่ายอดขายของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการลดลงหรือชะลอตัว ยอดขายต่อปีในปี 2019 อยู่ที่ 1.9 พันล้านวอน (1.6 สิบล้านดอลลาร์สหรัฐ) และคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นในปี 2020 อย่างแน่นอน

เรื่องจริงที่น่าสนใจคือคุณจะเห็นร้านสตาร์บัคส์นับไม่ถ้วนใกล้ๆ พื้นที่ที่คุณอยู่ เพราะมีสตาร์บัคส์ 1425 สาขาในเกาหลีและแค่ในโซลก็มีถึง 518 สาขาเลยทีเดียว

เนื่องจากสาขาร้านสตาร์บัคส์เกาหลีมีการควบคุมการดำเนินการโดยตรงจากสำนักงานใหญ่ในประเทศเกาหลี และมีเป้าหมายหลักคือ ดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านมากที่สุด ซึ่งเป็นสาเหตุที่สตาร์บัคส์เกาหลีทุ่มเทความพยายามอย่างมากในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ

ยกตัวอย่างเช่นพวกเขาเคยร่วมงานกับ Moleskin, Lamy Pen, PANTONE, 10 Corso Como และ BTS เพื่อให้สินค้ามีคุณค่าและเอกลักษณ์พิเศษเมื่อเทียบกับอุปกรณเครื่องใช้อื่น ๆ นอกจากนี้สมุดไดอารี่ของพวกเขา (ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม e - frequency ตามฤดูกาล) ก็สามารถเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างมากในตอนใกล้สิ้นปีในแต่ละปี

ยังไม่มีการรายงานข้อมูลตัวเลขอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับมูลค่าสินค้าที่ขายได้ แต่บุคคลภายในจากสตาร์บัคส์ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการขายสินค้ามาว่าสร้างมูลค่าเป็นอย่างมาก 

อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนเกาหลีหลงรักสินค้าของสตาร์บัคส์คือการออกแบบที่น่ารักแต่เหมาะสำหรับทุกคน สตาร์บัคส์ในสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้เป็นเพียงไม่กี่ประเทศใน 75 ประเทศที่มีทีมงานสำหรับการออกแบบโดยเฉพาะ ทำให้เกาหลีเป็นประเทศเดียวที่มีทีมออกแบบของตัวเองนอกจากประเทศที่มีสำนักงานใหญ่อยู่

การสั่งซื้อและชำระเงินผ่านมือถือ

หากคุณเป็นลูกค้าประจำที่สตาร์บัคส์ในประเทศของคุณ เรารับรองได้ว่าคุณต้องเคยได้ใช้แอพสตาร์บัคส์สำหรับการสั่งซื้อผ่านมือถือ มันทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นเพราะคุณสามารถสั่งซื้อได้โดยไม่ต้องพูดคุยกับใครเลย!

รู้หรือไม่ว่าระบบการสั่งซื้อผ่านโทรศัพท์มือถือถูกคิดค้นและก่อตั้งขึ้นครั้งแรกที่สตาร์บัคส์ในเกาหลี? เกาหลีเรียกระบบนี้ว่า 'ไซเรนออเดอร์ -Siren Order' และภายในเดือนเดียวของการใช้แอพนี้ Howard Schultz ซีอีโอของสตาร์บัคส์ ได้ส่งอีเมลไปยังสตาร์บัคส์เกาหลีว่า "วิเศษมาก!"

หลังจากที่สตาร์บัคส์เกาหลีใช้ระบบคำสั่งซื้อและชำระเงินของไซเรนสตาร์บัคส์ ก็เริ่มสร้างมาตรฐานระบบสั่งซื้อทั่วทั้งอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ซึ่งกลายเป็นการสั่งซื้อผ่านมือถือและระบบรับสินค้าอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน

เครื่องดื่มที่หาได้ในเกาหลีเท่านั้น

แฟรนไชส์ระดับโลกจำนวนมาก พยายามที่จะปรับแต่งเมนูของเขาให้เหมาะกับรสนิยมของคนในพื้นที่ประเทศนั้นๆ และสตาร์บัคส์เกาหลีก็เช่นกัน! สตาร์บัคส์ได้พัฒนาเครื่องดื่มที่สร้างสรรค์และของหวานสำหรับลูกค้าที่นี่ ให้มีรูปลักษณ์และการตกแต่งที่น่าดึงดูดใจเพียงพอสำหรับผู้บริโภคให้อยากที่จะลองเมนูใหม่ตามฤดูกาล

จากเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์และเครื่องดื่มเฉพาะตัวจำนวนนับไม่ถ้วน เราได้นำเครื่องดื่มบางแก้วที่ดึงดูดความสนใจของเรามานำเสนอ ชูครีมครัชลาเต้แอนด์แฟรปปูซิโน่ - 'Choux Cream Crunch Latte and Frappuccino' ซึ่งใช้ถั่วและวานิลลาเพื่อเพิ่มรสชาติตามธรรมชาติเช่นเดียวกับขนมอบเนื้อกรุบกรอบที่โรยอยู่ด้านบน

ไวโอเลทโรสต์เต็ดสวีทโปเตโต้แอนด์เฟรปปูชิโน 'Violet Roasted Sweet Potato Latte and Frappuccino' เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเครื่องดื่มที่ไม่หวานเหมือนลาเต้มันเทศยี่ห้ออื่น นอกจากนี้ยังดูน่ารักน่ากินอีกด้วย!

ในปี 2019 สตาร์บัคส์ได้เปิดตัวลาเต้แอนด์แฟรปปูชิโน่ที่มีส่สนผสมของข้าวที่มาจากเมืองอินชอน จังหวัดคยองกี 

สตาร์บัคส์ต้องการใช้วัตถุดิบหลักในท้องถิ่นเป็นส่วนผสมหลักสำหรับเครื่องดื่มและมีความคิที่จะนำข้าวจากอินชอน ภูมิภาคที่รู้จักกันดีในเรื่องการปลูกข้าวที่มีคุณภาพ

รสชาติของเครื่องดื่มคล้ายกับชานมนุ่ม ๆ ในขณะที่ลาเต้ข้าวหอมหวานเบา ๆ กับข้าวทอดที่โรยด้านบนซึ่งเพิ่มเนื้อสัมผัสที่ดี แฟรปปูชิโน่ข้าวจะหวานกว่าลาเต้นิดหน่อย

อีกหนึ่งความฮอตฮิตในปีนี้คือ การร่วมมือกับวงบีทีเอส ในการนำเสนอสินค้าบีทีเอสรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น คัพเค้กดาวสีม่วงและชีสเค้กเบอร์รี่สีม่วงพร้อมช็อคโกแลตโลโก้บีทีเอสวางอยู่ด้านบน

สตาร์บัคส์เกาหลียังสร้างสรรค์เมนูลิมิเต็ดอิดิชั่นที่จะหาทานได้ในบางพื้นที่เท่านั้น 

ตัวอย่างเช่นมี เชจูมัควอร์ทครีมแฟรปปูชิโร่- 'Jeju Mugwort Cream Frappuccino', เชจูฮัลลาบงแบลคทีเบลนด์- 'Jeju Hallabong Black Tea Blended' และ เชจูแบลคซีเซี่ยมลาเต้แอนด์แฟรปปูชิโน่ 'Jeju Black Seasame Latte and Frappuccino' ที่สามารถพบได้บนเกาะเชจูเท่านั้น ลูกค้าเชาวเกาหลีหลายๆคนเดินทางไปยังเกาะเชจู และมุ่งหน้าไปที่ร้านสตาร์บัคส์และลองเมนูเหล่านี้ เพราะเขาจะไม่สามารถหาทานได้ในเมืองอื่น

เมื่อปีที่แล้วตอนที่เราไปเที่ยวเกาะเชจู เราก็ไปที่ร้านกาแฟสตาร์บัคส์แห่งหนึ่งในเชจูเพื่อลองเมนูพิเศษของพวกเขา! เราสั่งแบล็คเซซามีแฟรปปูชิโน, มัควอร์ท ครีม แฟรปปูชิโน่, กรีนทีทีรามิสุไอส์แลนด์ (Green Tea Tiramisu Island) และวอลนัทแครรอทเบลนด์ (Walnut Carrot Blended)

เมนูทั้ง 4 นี้ มีเฉพาะที่เชจูเท่านั้นและเรามีความสุขมากกว่าที่จะลองเครื่องดื่มเหล่านี้ไปพร้อมกับวิวที่สวยสุดยอดที่ด้านนอก

นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่ม 2 รายการที่เราอยากนำเสนอเฉพาะในปูซาน มี 'ปูซานเรดออนเดอะบีซ-Busan Red on The Beach' และ'ปูซานแซนดี้บีชครีมแฟรปปูชิโน่-Busan Sandy Beach Cream Frappuccino' ซึ่งทั้งคู่จะทำให้คุณต้องนึกถึงถึงมหาสมุทรยามพระอาทิตย์ตกและชายหาดอันกว้างขวางของปูซาน!

คนเกาหลียังนิยมการบริโภคสินค้าเครื่องดื่มและของหวานแบบลิมิเต็ดอิดิชั่นกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดวัฒนธรรมการดื่มเครื่องดิมในปัจจุบันของสตาร์บัคส์เกาหลีคุณคิดยังไงบ้าง? สตาร์บัคที่ไทยเหมือนหรือแตกต่างกับที่นี่เยอะมั้ยนะ?

🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube

✨Creatrip Instagram
🎈instagram.com/creatrip.thailand

อีเมล：help@creatrip.com

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

9 ไอดอลชายสายดื่ม

เทคนิคซื้อของให้ถูกในเกาหลี

รีวิวการกักตัวที่ไทย VS เกาหลี