ดาราและนักร้องเกาหลีกับการเมาและขับ
การดื่มแล้วขับเรื่องร้ายแรงแค่ไหนในประเทศเกาหลีใต้ ดารานักร้องหรือไอดอล ที่ถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับต้องหมดอนาคตจริงหรือไม่?
สวัสดีค่ะ Creatrip ศูนย์รวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุกๆวัน
#เมาแล้วขับ #ข่าวเกาหลี
#กฎหมายเกาหลี #อุบัติเหตุ
จากกรณีของอิม ยองมินสมาชิกวง AB6IX อดีตผู้เข้าแข่งขันรายการ Produce101 ถูกพบว่าเขาขับขี่รถยนต์ในขณะที่เมาสุรา ขณะนี้ Brand New Music ต้นสังกัดของศิลปินหนุ่มอิม ยองมิน ได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 มิถุนายน ถึงการตัดสินใจถอนตัวออกจากวง AB6IX เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
ทำเอาแฟนๆหลายคนถึงกับตกใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน ที่ศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบประกาศถอนตัวอย่างกะทันหัน ทุกคนคงเคยได้ยินข่าวเรื่องที่ศิลปิน,ดารานักร้องเกาหลีหลายคน ประกาศยุติกิจกรรมในวงการหลังจากที่มีข่าวเรื่องการดื่มแล้วขับแต่ขณะที่ในบ้านเราดารานักร้องหรือผู้มีชื่อเสียงบางคนเพียงแค่จ่ายค่าปรับเท่านั้น ! วันนี้เราจะพาทุกคนไปวิเคราะห์กันว่า โทษของการดื่มแล้วขับในประเทศเกาหลีใต้รุนแรงแค่ไหน และส่งผลกระทบต่อบุคคลในวงการบันเทิงอย่างไรค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
กฏหมายดื่มแล้วขับของประเทศเกาหลีใต้
ประเทศเกาหลีใต้ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ให้ความสําคัญกับการกรณีการขับขี่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกรณีเมาแล้วขับค่ะ ด้วยสังคมและวัฒนธรรมของเกาหลี คนส่วนใหญ่มักจะชอบดื่มสังรรค์ในช่วงค่ำดังนั้นสถิติการเกิดอุบัติเหตุจากสาเหตุเมาแล้วขับก็มากขึ้นเช่นกันค่ะ
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2018 ร่างกฎหมายพิเศษเกี่ยวกับการเพิ่มบทลงโทษและการแก้ไขพระราชบัญญัติการจราจรบนถนน ฉบับใหม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาเกาหลีใต้ และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2018 เป็นต้นมาค่ะ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2018 ได้มีการแก้ไขเกี่ยวกับกฏหมายการจราจรอีกครั้ง ซึ่งเนื้อหาของกฏหมายฉบับใหม่นี้ (ฉบับพิเศษ) ได้แก้ไขในส่วนของบทลงโทษจากกรณีที่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการเมาแล้วขับโดยทำการเพิ่มโทษให้มากขึ้น และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2019 ค่ะ
กรณี | เนื้อหาในกฏหมายฉบับเก่า | เนื้อหาในกฏหมายฉบับแก้ไข |
กรณีเมาแล้วขับจนเกิดอุบัติทำให้มีผู้เสียชีวิต | จำคุกมากกว่า 1 ปี | จำคุกไม่ต่ำกว่า 3 ปี |
กรณีเมาแล้วขับ | หากถูกจับในกรณีเมาแล้วขับเกิน 3 ครั้งขึ้นไป - จำคุก 1-3 ปี หรือเสียค่าปรับ 5 ล้านวอน - 10 ล้านวอน (100,000 - 250,000 บาท) | หากถูกจับในกรณีเมาแล้วขับเกิน 2 ครั้งขึ้นไป - จำคุก 2-5 ปี หรือเสียค่าปรับ 10 ล้านวอน - 20 ล้านวอน (250,000 - 500,000 บาท) |
การระงับใบขับขี่ | พบระดับแอลกอฮอล์ในเลือดน้อยกว่า 0.05 - 0.10% | พบระดับแอลกอฮอล์ในเลือดน้อยกว่า 0.03 - 0.08 % |
การเพิกถอนใบขับขี่ | พบระดับแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 0.10% | พบระดับแอลกอฮอล์มากกว่า 0.08 % |
เมื่อใบขับขี่ถูกเพิกถอนช่วงเวลาที่ต้องใช้สำหรับเพื่อการขออนุญาตทำใบขับขี่ฉบับใหม่ (จำกัดระยะเวลาของบัตรใหม่) | สามารขออนุญาตทำบัตรได้ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป : สามารถขอทำบัตรใหม่ได้ 3 ครั้ง | สามารขออนุญาตทำบัตรได้ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป : สามารถขอทำบัตรใหม่ได้ 2 ครั้ง |
ถึงแม้ว่าโทษเกี่ยวกับกฏหมายการจราจรจะถูกปรับเพิ่มขึ้น แต่จะเห็นได้ว่ากรณีการเมาแล้วขับนั้น ต้องถูกจับมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไปถึงจะมีการลงโทษขั้นรุนแรง แล้วทำไมดาราศิลปิน หรือคนมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงเกาหลีหลายคนถึงเลือกที่จะออกจากวงการและยุติกิจกรรมทั้งหมด ?
เมาแล้วขับเท่ากับฆาตกร
อย่างที่หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าการดื่มแอลกอฮอล์และขับขี่รถยนต์ถือเป็นเรื่องที่อันตราย และมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าสถานการณ์ทั่วไปค่ะ ในประเทศเกาหลีใต้มองว่า "การเมาแล้วขับเท่ากับฆาตกร" เพราะทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า หากเมาจะทำให้สูญเสียการควบคุมสติ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายซึ่งจะเกิดการสูญเสียทั้งผู้ขับขี่และผู้อื่น ดังนั้นเท่ากับว่าการที่คนเลือกที่จะขับรถขณะมึนเมา เท่ากับการจงใจฆ่าผู้อื่นค่ะ
ดังนั้นการเมาแล้วขับจึงถือเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ในสังคมเกาหลีปัจจุบันค่ะ รุ่นพี่เราเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนการเมาแล้วขับไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ แต่ในปัจจุบันอัตราการเกิดอุบัติอุบัติเหตุเนื่องจากการเมาแล้วขับเพิ่มสูงมาก และจำนวนผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้นประชาชนทั่วไปจึงเห็นด้วยว่า "การเมาแล้วขับคือการฆาตกรรมอย่างหนึ่ง" ค่ะ
แม้ว่าจะไม่ใช่คนมีชื่อเสียง คนทั่วไปถ้าหากถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับก็จะถูกบันทึกเป็นประวัติ และอาจส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงาน และการเข้าสังคมด้วยค่ะ ยิ่งถ้าเป็นคนที่มีชื่อเสียงเรื่องที่เคยถูกจับกจะกลายเป็นรอยตำหนิที่ติดตัวตลอดเวลา ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะอำลาวงการค่ะ
ภาพลักษณ์
ประเทศเกาหลีใต้ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มาก เห็นได้จากกรณีที่คนดังบางคนมีรอยสัก เมื่อต้องออกรายการจะต้องทำการปกปิดรอยสักไว้ค่ะ ส่วนตัวเราคิดว่าคนเกาหลียังมีความคิดว่า คนที่มีรอยสักคือคนไม่ดีแต่ความจริงแล้วมันเป็นเพียงแค่ศิลปะ
แน่อนว่าหากศิลปินดาราคนใดที่ถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับ ภาพลักษณ์ของเขาก็จะเสียหายและถูกทำลายในทันทีค่ะ นอกจากนั้นยังส่งผลกระทบต่อเพื่อนร่วมวงคนอื่นๆ ทำให้ถูกสังคมภายนอกดูว่าภาพลักษณ์ของวงนั้นๆไม่ดี ทำให้คนๆนั้นต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกจากวงค่ะ
คนมีชื่อเสียงในวงการเกาหลีหลายคนที่เคยมีกรณีเมาแล้วขับทั้งคิม ฮยอนจุง,ซน ซึงวอน,คังอิน SJ และในอีกหลายกรณีซึ่งทันทีที่มีข่าว ทั้งหมดก็ถูกสั่งพักงานและจนถึงปัจจุบันก็ไม่สามรถกลับมาได้รับความนิยมเหมือนก่อนแล้วค่ะ ซึ่งที่เกาหลี หากขับรถขณะที่มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 0.05% จะถูกดำเนินคดีโทษฐานเมาและขับ
ดาราและนักร้องที่เคยผ่านคดีเมาและขับมาก่อน แม้ว่าจะพักงานไปนานช่วงเวลาหนึ่ง แต่หลังจากหวนกลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง มักจะไม่ได้รับความนิยมเท่าแต่ก่อน ไม่เพียงเท่านั้นอาจยังมีคนขุดคุ้ยและพูดถึงเรื่องราวที่ไม่ดีในอดีตที่ผ่านมานานแล้วอีกด้วย
ถูกห้ามออกอากาศ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเป็นดาราไอดอลในวงการบันเทิงเกาหลีภาพลักษณ์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดค่ะ เพราะเป็นภาพจำที่แฟนคลับและคนทั่วไปนึกถึงเป็นอย่างแรก ลองคิดดูซิคะว่า หากศิลปินหรือดาราคนนั้นเคยมีข่าวเสียหาย เมื่อกลับมาทำกิจกรรมอีกครั้งหนึ่ง ย่อมมีคน(ที่ไม่ชอบ)ขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆมาสร้างกระแสเรื่อยๆ แล้วจะมีช่องโทรทัศน์หรือรายการไหนที่กล้าให้พวกเขาออกอากาศ? และถ้าศิลปินคนนั้นเป็นสมาชิกของวงไอดอล ก็อาจจะส่งผลให้วงไม่สามารถขึ้นแสดงโชว์ในรายการต่างๆได้ด้วยค่ะ
นอกจากเรื่องภาพลักษณ์แล้ว คนมีชื่อเสียงคนใดที่เคยถูกตั้งข้อหาเมาแล้วขับจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากช่องสถานีโทรทัศน์ค่ะ รุ่นพี่เราบอกว่าถึงแม้ว่าจะสามารถออกรายการต่างๆได้ แต่จะออกได้เพียงรายการทางช่องเคเบิลเท่านั้น ไม่สามารถออกช่องหลักได้ค่ะ
ส่วนตัวเราคิดว่าทางช่องหรือเจ้าของสินค้าต่างๆ อาจจะคิดว่าการนำคนมีชื่อเสียงที่เคยมีข่าวเมาแล้วขับมาออกอากาศอาจจะสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อช่องหรือสินค้า นอกจากนั้นนิสัยทั่วไปของคนเกาหลีมักจะพูดซ้ำๆถึงจุดบกพร่องของคนๆนั้น (เหยียด) ดังนั้นการออกอากาศอาจจะทำให้เรื่องการเมาแล้วขับถูกยกขึ้นมาพูดซ้ำไปซ้ำมาเรื่อยๆไม่มีวันจบค่ะ
พอลองนึกเทียบกับประเทศไทยของเราแล้ว ก็มีกรณีที่คนมีชื่อเสียงและผู้มีอิทธิพลหลายคน ที่ถูกตั้งข้อหาเมาแล้วขับแต่สุดท้ายก็ยังทำงานในวงการบันเทิงได้อย่างต่อเนื่องและถึงแม้ว่าจะมีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุก็ตาม แต่กฏหมายของไทยยังมีช่องโหว่ที่สามารถทำให้ผู้กระทำผิดพ้นข้อหาได้
ถึงเวลาหรือยังคะ? ที่กฏหมายเรื่องการจราจรในบ้านเราจะต้องทำแบบจริงจัง และผู้ขับขี่เองก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม.....
แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้า สวัสดีค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
โพสต์ที่น่าสนใจ |