วัฒนธรรมการแต่งงานของเกาหลี
โซจีซบประกาศแต่งงานแล้ว! พร้อมบริจาคเงินกว่า 50 ล้านวอนให้กับองค์กรด้านการศึกษา! วิเคราะห์วัฒนธรรมการแต่งงานเกาหลี จะแต่งงานทีต้องใช้เงินกว่า 260 ล้านวอน?
สวัสดีทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุกๆวัน
#วัฒนธรรมเกาหลี #วัฒนธรรมการแต่งงาน
#การแต่งงานของคนเกาหลี
เชื่อว่าวันที่ 7 เมษายนต้องเป็นวันที่สาวๆหลายคน (รวมถึงเรา) ใจสลายอย่างแน่นอน! บริษัทต้นสังกัดได้ออกมาประกาศว่าโซจีซบได้เข้าแต่งงานกับแฟนสาวนักข่าว ที่อายุน้อยกว่า 17 ปีเป็นที่เรียบร้อย ถือว่าเป็นหนึ่งใน 4 สมบัติของเกาหลีคนแรกที่แต่งงาน หวังว่าอปป้าของพวกเราจะมีชีวิตคู่ที่สวยงามนะคะ
โซจีซบได้กล่าวว่าเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสในตอนนี้ ทำให้เขาตัดสินใจไม่จัดงานแต่งงาน แต่ได้มีการจดทะเบียนสมรสเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับบริจาคเงินจำนวน 50 ล้านวอนให้กับองค์กร Good Neighbors ที่ช่วยเหลือด้านการศึกษาของเด็ก ถือว่าอบอุ่นเป็นอย่างมากเลย! หลายคนอาจที่จะสงสัยเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานของคนเกาหลี เราได้รวบรวมข้อมูลรวมถึงค่าใช้จ่ายมาให้ทุกคนได้รู้กันแล้วด้วย ไปดูพร้อมๆกันเลย~
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ไอเทมจาก Fila ที่สายแฟชั่นต้องมี
ลำดับงานแต่งงานเกาหลี
เนื่องจากการจัดงานแต่งด้วยตัวเองหรือการจัดงานแต่งแบบเรียบง่ายเป็นที่นิยมอย่างมากในเกาหลีตอนนี้ วัฒนธรรมในการแต่งงานของเกาหลีจึงเปลี่ยนไปและมีความเรียบง่ายมากขึ้น แต่หลายๆคู่ก็ยังคงจัดงานแต่งตามขั้นตอนและธรรมเนียมปฏิบัติเดิมๆ
ก่อนอื่นเราจะมาแนะนำงานลำดับขั้นตอนในงานแต่งงานของคนเกาหลีทั่วไป พร้อมกับเปรียบเทียบความแตกต่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้
1. การกล่าวเปิด
ก่อนที่พิธีทางการจะเริ่มต้น พิธีกรงานแต่งจะแจ้งให้แขกทั้งหลายได้ทราบว่างานจะเริ่มในเวลาอันใกล้ รวมไปถึงเปิดวิดีโอเกี่ยวกับคู่บ่าวสาว เพื่อให้แขกได้รับชม จากนั้นเจ้าภาพก็จะกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการแบบเรียบง่าย ในขณะที่แขกต่างพากันปรบมือ
2. การจุดเทียน
ช่วงเวลานี้ เมื่อแม่ของบ่าวสาวเดินเข้ามาในงานและจุดเทียน (แม่เจ้าบ่าวก่อน ตามด้วยแม่เจ้าสาว) โดยความหมายของการจุดเทียนนี้เปรียบเสมือนเป็นการให้แสงสว่าง รวมไปถึงการนำความสุขมาให้คู่แต่งงาน หลังจากที่จุดเทียนเรียบร้อย แม่ของทั้งสองฝ่ายจะทำการโค้งให้แก่กัน เป็นตัวแทนของ 2 ครอบครัว
3. แนะนำพิธีกร
ช่วงนี้จะเป็นการแนะนำพิธีกรของงาน หากไม่มีพิธีกรอย่างเป็นทางการก็สามารถที่จะข้ามขั้นตอนนี้ไปได้
4. เจ้าบ่าวเดินเข้างาน
เมื่อพิธีกรกล่าวเชิญ "เจ้าบ่าว" ให้เข้างาน เจ้าบ่าวจะเดินบนพรมแดงเพื่อเดินเข้างาน
ปกติแล้วเจ้าบ่าวจะเดินและทักทายแขก เปรียบเสมือนกับเป็นดวงดาวของงาน แต่เจ้าบ่าวบางคนตื่นเต้นมากเกินไป ตาจึงมองไปที่ด้านหน้าเพียงอย่างเดียว เมื่อเดินไปถึงยังที่แล้ว เจ้าบ่าวจะทำการโค้งให้กับผู้ทำพิธี จากนั้นหันหลังกลับมาเพื่อโค้งให้กับแขก ก่อนที่จะยืนเพื่อรอให้เจ้าสาวเดินเข้างาน
5. เจ้าสาวเดินเข้างาน
เจ้าสาวสามารถที่จะเรียกเป็นตัวเอกของงานแต่งงานเกาหลีได้เลย เจ้าสาวส่วนมากจะเดินลงมาจากบันไดหรือใส่ผ้าคลุมและปรากฏตัวบนเวที ดังนั้นทุกคนจึงสามารถที่จะโฟกัสที่เจ้าสาวคนเดียวได้
ปกติแล้วเมื่อเจ้าสาวเดินขึ้นเวที จะควงแขนพ่อของเธอเข้ามา พร้อมกับเดินไปหาเจ้าบ่าว หลังจากที่เจ้าบ่าวและพ่อเจ้าสาวทำการทักทายกันเรียบร้อยแล้ว พ่อเจ้าสาวจะยื่นมือเจ้าสาวให้กับเจ้าบ่าว (ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ซึ้งมากที่สุดในงานเลย และครอบครัวเจ้าสาวก็มักที่จะร้องไห้ด้วยความตื้นตันกัน โดยเฉพาะแม่เจ้าสาว ผู้ทำหน้าที่จุดเทียน)
6. เจ้าบ่าวและเจ้าสาวโค้งให้กัน
ในขั้นตอนนี้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะทำการโค้งให้กัน แต่ก่อนอื่นจะทำการโค้งให้กับผู้ทำพิธีก่อน จากนั้นโค้งให้กันที่ด้านหน้าของครอบครัวและแขกที่มาร่วมงาน การโค้งให้กันนั้น เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะโค้งในลักษณ์ 45 องศา ในขณะที่รักษาระยะห่างในการยืนเอาไว้
7. อ่านคำสัญญาและประกาศแต่งงาน
ขั้นตอนนี้ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะให้คำมั่นสัญญากันต่อหน้าผู้ทำพิธีว่าจะรักและเคารพกันตลอดไป จากนั้นผู้ทำพิธีจะอ่านประกาศการแต่งงาน หลังจากอ่านประกาศเรียบร้อยก็จะถือว่าเจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้แต่งงานกันเรียบร้อย
หากไม่มีผู้ทำพิธี คู่แต่งงานจะทำการแลกเปลี่ยนของแทนใจ (แหวน) ผู้เป็นพ่อหรือพิธีกรของงานจะเป็นผู้อ่านประกาศการแต่งงาน
8. กล่าวคำอวยพร
พยาน (ผู้ทำพิธี) จะกล่าวอวยพรให้กับชีวิตคู่ในอนาคตของคู่แต่งงาน หากกรณีที่ไม่มีผู้ทำพิธี พ่อของทั้งสองฝ่ายจะเป็นผู้อวยพรให้กับทั้งคู่แทน หรือบางคู่อาจข้ามช่วงนี้ไป
9. การแสดง
เพื่อเป็นการยินดีกับคู่บ่าวสาว เพื่อนของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะเตรียมการแสดงไม่ว่าจะเป็นร้องเพลง, เต้นหรือแม้แต่เล่นดนตรีก็ตาม บางครั้งบ่าวสาวก็ร่วมทำการแสดงด้วยตนเองเช่นกัน เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นกันแล้วในเวลาที่เหล่าไอดอลไปร่วมยินดีงานแต่งงานของสตาฟหรือครอบครัว ก็มักที่จะทำการแสดงให้พวกเขา
จริงๆแล้วถือว่าเป็นช่วงพีคของงานเลยก็ว่าได้ เพราะผู้ที่ทำการแสดงส่วนมากสวยหล่อกันทั้งนั้น>< เมื่อตอนที่เราไปทำหน้าที่พิธีกร เขาเคยพบนักร้องเดินทางมาเพื่อร้องเพลงให้กับคู่บ่าวสาวด้วย
10. โค้งคำนับพ่อแม่และแขก
ก่อนอื่น บ่าวสาวคู่ใหม่จะทำการโค้งคำนับพ่อแม่ของฝ่ายสาวก่อน จากนั้นก็ทำการคำนับพ่อแม่ฝ่ายชาย โดยปกติแล้วเจ้าบ่าวจะทำการคำนับอย่างเป็นทางการ (คำนับตามประเพณีเกาหลีโบราณ) แต่ฝ่ายสาวมักจะโค้งเพียงเท่านั้น เนื่องจากชุด
หลังจากที่ทำการคำนับพ่อแม่เรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก็จะทำการโค้งให้กับแขกที่เดินทางมาร่วมงาน และบอกกับแขกว่า พวกเขาจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในอนาคต และช่วงเวลานี้ แขกก็จะปรบมือให้อย่างอบอุ่น
11. เดินออกจากงาน & อีเวนท์
เมื่อพิธีกรกล่าวให้ "เจ้าบ่าวและเจ้าสาว" เดินออกจากงานได้ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะเดินออกจากงานพร้อมกับคำอวยพรของผู้ร่วมงาน บางครั้งพิธีกรจะทำอีเวนท์ให้กับบ่าวสาวก่อนที่จะจบงาน เพื่อให้บ่าวสาวได้แสดงความสุขของพวกเขา หรือทำให้มั่นใจว่าเจ้าบ่าวสามารถที่จะกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยหลังจากดื่ม
12. พิธีปิดและถ่ายรูป
ในตอนเริ่มงานมีการกล่าวเปิด ตอนจบงานก็มีการกล่าวปิดงานเช่นกัน จากนั้นก็จะเป็นการถ่ายรูป โดยเริ่มจากพ่อแม่ของบ่าวสาวก่อน ตามด้วยเพื่อนสนิท, ผู้ร่วมงานและอื่นๆ บางครั้งเจ้าสาวก็จะมีการโยนช่อดอกไม้ให้กับเพื่อนด้วย
13. พิธีตามประเพณีเกาหลีดั้งเดิม
ในช่วงเวลานี้ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะใส่ชุดฮันบกและทำการรับลูกพุทรา พร้อมกับเกาลัดที่ญาติฝ่ายชายเป็นผู้โยน ลูกพุทราเป็นสัญลักษณ์ของลูกชาย ในขณะที่เกาลัดเป็นสัญลักษณ์ของลูกสาว พิธีนี้จัดขึ้นเพื่ออวยพรให้บ่าวสาวมีลูกจำนวนมากและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
นอกจากการโยนลูกพุทราและเกาลัดแล้ว ญาติจะมอบเงินขวัญถุงให้กับบ่าวสาว สำหรับใช้เพื่อฮันนี่มูน เนื่องจากนิยมงานแต่งงานแบบเรียบง่ายและความเท่าเทียมกันของชายและหญิง ในสมัยนี้คู่แต่งงานบางคู่ก็ละเว้นการจัดพิธีตามประเพณีดั้งเดิม (ญาติฝ่ายชายเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมพิธีได้)
พยาน, พิธีกร, เพลงฉลอง
1. พยาน
พยานคือผู้ทำพิธีในงานแต่ง ซึ่งปกติแล้วก็คือผู้ที่มีความเกี่ยวข้องทางศาสนา (บาทหลวง) ที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวนับถือ หรือจะเป็นผู้ที่บ่าวสาวให้ความเคารพก็ได้ ส่วนมากจะเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงมากที่สุดที่ทั้งคู่รู้จัก อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถหาพยานผู้ทำพิธีได้ ก็สามารถที่จะจ้างบาทหลวงมาทำพิธีให้ได้
เนื่องจากเราเป็นพิธีกรงานแต่งมานานกว่า 3 ปี ประสบการณ์นี้ทำให้เรารู้ว่าบางคนก็เป็นพยานหรือผู้ทำพิธีมืออาชีพเลย
ผู้ทำพิธีส่วนมากคือผู้จัดการบริษัทของบ่าวสาว หรือผู้ที่มีตำแหน่งสูงที่สุดซึ่งทั้ง 2 รู้จัก แต่ในตอนนี้คู่แต่งงานส่วนมากต้องการที่จะลดบทบาทและขั้นตอนในการแต่งงานลง ในเวลาอันใกล้นี้งานแต่งอาจไม่มีผู้ทำพิธีแล้วก็เป็นได้
2. พิธีกร
ปกติแล้วเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวจะเชิญเพื่อนสนิทมาเป็นพิธีกร แต่เนื่องจากบางงานไม่มีผู้ทำพิธี พิธีกรจึงรับบทบาทหลักและมีความสำคัญเป็นอย่างมาก คนจำนวนมากจึงจ้างพิธีกรมืออาชีพมาทำหน้าที่
เนื่องจากเราเป็นพิธีกรมากว่า 3 ปีทำให้ทราบว่า เจ้าบ่าวและเจ้าสาวเริ่มที่จะเปลี่ยนและจัดงานที่มีความเรียบง่ายมากขึ้น รวมไปถึงลดขั้นตอนทางการหลายๆอย่างลง พร้อมทั้งดีไซน์และกำหนดรายละเอียดต่างๆด้วยตัวเอง
เช่น เจ้าบ่าวรีเควสที่จะเดินเข้างานมาพร้อมกับพ่อ, ตอนออกจากงาน ไม่เพียงแค่บ่าวสาวเท่านั้น แต่รวมพ่อแม่ของทั้ง 2 ด้วย ในกรณีนี้ พิธีกรจึงมีความสำคัญมาก เพราะถือเป็นผู้สร้างบรรยากาศให้กับงาน จึงทำให้งานแต่งจำนวนมากในตอนนี้ไม่มีพยาน (ผู้ทำพิธี) แต่เพิ่มความสำคัญของพิธีกรแทน
3. คำอวยพรและการแสดง
ส่วนมากแล้วเพื่อของบ่าวสาวที่มีความสามารถในการร้องเพลงและเต้นจะทำการแสดงเพื่ออวยพรให้บ่าวสาว ไม่ว่าจะเป็นการแสดงวงดนตรี, การเต้น หรือร้องเพลงเป็นกลุ่มก็ตาม
ช่อดอกไม้งานแต่ง
บูเก้ (Bouquet) มาจากภาษาฝรั่งเศส ซึ่งมีความหมายว่า กำ! โดยช่อดอกไม้นี่คือของขวัญที่ฝ่ายชายมอบให้กับฝ่ายหญิง ก่อนที่จะเริ่มงานแต่ง ตอนนี้ถือว่าช่อดอกไม้เป็นไอเทมที่จำเป็นซึ่งจะช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับเจ้าสาว
ในเกาหลี เจ้าสาวมักที่จะนัดกับเพื่อนผู้ท่ีจะมารับช่อดอกไม้ และโยนดอกไม้ให้กับเพื่อนคนนั้นภายในงาน
แต่ก็มีเรื่องเล่าอยู่ว่า สาวที่รับช่อดอกไม้ในงานได้ หากไม่ได้แต่งงานภายใน 6 เดือน ก็จะไม่สามารถแต่งงานได้อีกเลย หรือไม่ก็แต่งงานช้ามากๆ ดังนั้นผู้ที่มีแพลนจะแต่งงานหรือคบกับแฟนมาเป็นเวลานานมากมักที่จะได้รับเลือกให้มารับดอกไม้ในงานแต่ง
ผู้ที่รับดอกไม้ได้มักที่จะเก็บดอกไม้ให้แห้งไว้ 100 วัน จากนั้นก็นำไปเผา หรือไม่ก็ทำให้แห้งและคืนให้กับคู่แต่งงานใหม่ หลายคนกล่าวว่าคู่แต่งงานมักที่จะมีความสุขและดีใจมากๆที่ได้ช่อดอกไม้นี้ อีกอย่างที่ได้รับความนิยมคือเอาช่อดอกไม้ที่แห้งแล้วไปทำเป็นโคมไฟ LED, กรอบรูป, เทียนหรือของอื่นๆ
ค่าใช้จ่ายรวมของการจัดงานแต่งในเกาหลี
จากการสำรวจที่จัดทำขึ้นโดยบริษัทรับจัดงานแต่งงานในปี 2017 ค่าใช้จ่ายโดยรวมของการจัดงานแต่งงานเกาหลีอยู่ที่ 260 ล้านวอน (ประมาณ 7 ล้านบาท) เชื่อว่าทุกคนน่าจะตกใจกัน แต่จริงๆแล้วประมาณ 180 ล้านวอนจะถูกนำไปใช้สำหรับบ้านหรืออพาร์ทเม้นต์ของบ่าวสาว ส่วน 77 ล้านวอน (2 ล้านบาท) จะถูกใช้ไปกับสถานที่จัดงาน, แพคเกจงานแต่ง, ของชำร่วย, ฮันนี่มูนและอื่นๆ
เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงมาก บ่าวสาวคู่ใหม่มักที่จะพยายามลดค่าใช้จ่ายลง เพราะการแต่งงานเกี่ยวข้องกับเพียงแค่คน 2 คน และการนำเงินกว่า 40 ล้านวอนต่อคนมาใช้ก็ถือว่ายากไม่เบา ทำให้การแต่งงานแบบเรียบง่ายเป็นที่นิยมมากขึ้น
วันนี้เราก็ได้แนะนำทุกคนเกี่ยวกับวัฒนธรรมการแต่งงานของคนเกาหลีอย่างละเอียดให้ได้ทราบกัน หวังว่าจะทำให้หลายคนเข้าใจเกี่ยวกับการแต่งงานของคนเกาหลีมากขึ้น สุดท้ายขออวยพรให้อปป้าของเรามีความสุขกับการแต่งงานมากๆค่ะ (ปาดน้ำตา)
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈เทรนด์รองเท้าในหมู่คู่รักเกาหลี
โพสต์ที่น่าสนใจ |
4 ดาราที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสมบัติของเกาหลี |
อัตราการคุมกำเนิดในการมีเพศสัมพันธ์ของเกาหลี |