การรับรู้เกี่ยวกับสุขอนามัยของคนเกาหลี
หรือเป็นเพราะความเป็นหนึ่งเดียวกันที่ให้ความใส่ใจเกี่ยวกับผู้อื่น?
สวัสดีทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุกๆวัน
#วัฒนธรรมเกาหลี #แนวคิดเรื่องสุขภาพ
#สุขอนามัย #ปัญหาด้านสาธารณสุข
ประเทศเกาหลีได้รับการบันทึกเกี่ยวกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจเหมือนกับประเทศอื่นๆในเอเชีย แต่คนเกาหลีก็ยังมีการรับรู้เกี่ยวกับสุขอนามัยที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่ถือว่าเป็นประเทศเศรษฐกิจ
เราซึ่งเป็นคนเกาหลีรู้สึกเหมือนกับหัวใจแตกเป็นเสี่ยงๆอย่างมากที่ต้องพูดว่าประเทศของเรามีการรับรู้เกี่ยวกับสุขอนามัยที่ต่ำ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเราได้เคยไปอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศมาในระยะเวลาหนึ่ง เราก็ต้องยอมรับว่านี่คือเรื่องจริง!
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
แนวคิดด้านสุขอนามัยของคนเกาหลี
ทานอาหารร่วมกันในหม้อเดียว
นี่คือหนึ่งในวัฒนธรรมที่น่าอายของเกาหลีที่คนเอเชียหลายคนอาจทราบกันดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับเมนูที่เราทาน แต่ปกติแล้วอาหารจะถูกเสิร์ฟมาในจานขนาดใหญ่เหมือนหม้อสตูว์ซึ่งเราทานร่วมกันในหม้อเดียว พูดตรงๆว่าสำหรับเรา เรารู้สึกเฉยๆมากกับการทานอาหารร่วมกันกับครอบครัวหรือเพื่อนสนิท แต่อย่างไรก็ตามหากเป็นเพื่อนร่วมงาน ในบางครั้งเราก็รู้สึกไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ และที่สำคัญคือเมื่อเราเริ่มทาน ก็ไม่ง่ายเลยที่จะพูดว่าไม่อยากทานร่วมกันจากจานเดียวกับผู้อื่น
หลังจากทานเนื้อเสร็จเรียบร้อย คนเกาหลีก็จะสั่งสตูว์(จีเก)มาทาน และแกงก็มักที่จะเสิร์ฟมาเป็นหม้อที่ต้องทานร่วมกัน
*รูปภาพแกงกิมจิจากร้านสาขายอดนิยม "เซมาอึล ชิกตัง"
อาหารยุโรปก็ไม่มีข้อยกเว้น เมื่อคุณเดินทางไปที่ร้านอาหารกับเพื่อน พวกเขาก็จะแบ่งกันทานสลัด, พาสต้า, สเต็กและพิซซ่าด้วยกัน หากคุณไม่กังวลเกี่ยวกับสุขอนามัยซักเท่าไหร่ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีเช่นกัน เพราะคุณสามารถที่จะลิ้มลองรสชาติที่หลากหลายของอาหารได้
เรื่องปกติในการ"ทานพาสต้าร่วมกัน"
เนื่องจากวัฒนธรรมในการทานอาหารร่วมกัน ทำให้ง่ายต่อการที่จะแพร่เชื้อโรคให้กับผู้อื่น แต่บางคนก็พูดว่าเป็นการดีที่จะให้ร่างกายได้รับเชื้อโรคหรือแบคทีเรียบ้างร่างกายจะได้มีภูมิต้านทานและแข็งแรง แต่ก็ไม่รู้ว่านี่จะจริงหรือไม่นะคะ! ในปัจจุบันนี้หลายคนไม่ทานอาหารร่วมกับผู้อื่นหรือตักอาหารจากจานของพวกเขาก่อนที่เขาจะเริ่มทาน บางคนก็จะถามก่อนค่ะว่าสามารถทานได้หรือไม่หลังจากที่ผู้อื่นทานแต่อย่างไรก็ตามมันก็ค่อนข้างยากนิดหน่อยที่จะบอกว่าไม่อยากทานร่วมกัน เพราะคงไม่มีใครอยากให้คนอื่นมองว่าเป็นคนเนี๊ยบจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแม่ของเราพูดว่า เราทานอาหารร่วมกันกับแม่มาเยอะมากแล้ว ทำไมถึงใจร้ายกับครอบครัวแบบนี้? ไม่มีอะไรจะพูดเลยล่ะค่ะ
ไม่สวมหน้ากากอนามัยเมื่อไม่สบาย
เรารู้สึกเซอร์ไพร์สที่เห็นคนจำนวนมากใส่สวมหน้ากากอนามัยกันในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ประเทศอื่นในเอเชียอย่างญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ฮ่องกงและสิงคโปร์ที่มักจะสวมหน้ากากอนามัยกัน ที่เกาหลีนั้นเราไม่เคยถูกสอนให้ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรคจากผู้อื่นหรือเพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อสู้ผู้อื่นเมื่อเราไม่สบาย มีคนจำนวนน้อยมากๆที่สวมหน้ากากเวลาไม่สบายในเกาหลี
เราสงสัยว่าทำไมคนญี่ปุ่นจำนวนมากถึงใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ในตอนนี้มีจำนวนของคนที่สวมใส่หน้ากากอนามัยเพิ่มมากขึ้นจากเมื่อก่อนเนื่องจากฝุ่น แต่อย่างไรก็ตามก็มีเพียงแค่วัยรุ่นเท่านั้น กระแสนี้เป็นการกระทำเพื่อปกป้องร่างกายของตนเองไม่ใช้ผู้อื่น เนื่องจากฝุ่นเป็นอันตรายต่อร่างกายและทำให้คอของเราเจ็บจนรู้สึกว่าชีวิตของเรากำลังจะสั้นลง แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีคนเกาหลีจำนวนมากเลือกที่จะไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยเนื่องจากรู้สึกอึดอัดและไม่สบาย
คนเกาหลีในช่วงวัยกลางคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในอากาศที่บริสุทธิ์มาตลอดเวลาจะไม่ค่อยให้ความสนใจเกี่ยวกับปัญหานี้มากนัก แม้ว่าในวันที่ค่าฝุ่นพุ่งขึ้นสูงมากก็ตาม หากมาที่เกาหลีเราจะพบเห็นคนจำนวนมากที่ปีนเขาและสูดอากาศที่แย่พร้อมฝุ่นเข้าไปอย่างสดชื่นเต็มปอดได้ง่ายๆเลย พ่อแม่ของเราก็เช่นกันที่ไม่ค่อยใส่ใจมากนักเนื่องจากอาศัยอยู่ที่ชานเมืองซึ่งทุกคนเชื่อว่ามีอากาศที่ดีมากกว่า
60% ของคนเกาหลีไม่สวมหน้ากากถึงแม้ว่าค่าฝุ่นจะพุ่งขึ้นสูงมากก็ตาม (แหล่งที่มา: จุงอังอิลโบ)
ไอโดยไม่ปิดปาก
หนึ่งในสิ่งที่เราได้เรียนรู้เมื่อหลังจากที่เราไปอยู่ที่อเมริกามาก็คือ เราพบว่าคนอเมริกันจะปิดหน้าทั้งหน้าด้วยแขนเมื่อไอ ปกติแล้วคนเกาหลีไม่ปิดปากเวลาไอหรือบางทีก็ใช้แค่มือปิด ไอโดยที่ไม่ปิดปากเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย เพราะคุณจะแพร่เชื้อและอาจที่จะน้ำมูกหรือน้ำลายกระเด็นไปใส่ผู้อื่นได้อีกด้วย นี่คือสาเหตุที่ทำไมคนเกาหลีจคงต้องปิดปากของพวกเขาเวลาไอ แต่เนื่องจากใช้มือปิดปาก น้ำลายหรือเชื้อโรคต่างๆก็สามารถที่จะแพร่ไปที่โต๊ะ,คอมพิวเตอร์, ของสาธารณะและอื่นๆได้ หากไม่ทำการล้างมือทันที ดังนั้นนี้ก็ถือว่าไม่สะอาดเช่นกัน
นี่คือวิธีการปิดปากเวลาไอของคนเกาหลี
ในทางกลับกันหากเราปิดปากของเราด้วยแขนเมื่อไอ เราสามารถที่จะป้องกันการแพร่เชื้อได้ เนื่องจากเชื้อจุลินทรีย์ที่เสื้อเราจะถูกทำลายโดยธรรมชาติ ดังนั้นจึงถือว่าค่อนข้างป้องกันเกี่ยวกับสุขอนามัยได้ดี แต่อย่างไรก็ตามคนจำนวนมากที่เกาหลีไม่คิดว่าการปิดปากขณะที่ไอเป็นเรื่องที่ไม่สะอาด
การรับรู้เกี่ยวกับสุขลักษณะในโรงพยาบาลคือ 0%
ประเทศเกาหลีมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง แต่ความรู้เกี่ยวกับสุขลักษณะอนามัยกลับเหมือนกับผู้คนจากประเทศที่การแพทย์ไม่มีประสิทธิภาพ กรณีเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัย จำนวนของคนเกาหลีที่สวมหน้ากากอนามัยต่ำมาก แม้กระทั่งในโรงพยาบาลก็ตาม พวกเขาไม่สวมใส่หน้ากากพบผู้ป่วย 3 ปีก่อนที่โรงพยาบาลมีกฎออกมาให้ผู้คนสวมใส่หน้ากากอนามัยในห้องฉุกเฉิน แต่นี่ก็ได้รับการปฏิบัติอีกครั้งในปี 2015 เมื่อโรคเมอร์สระบาด
เกือบครึ่ง(41.5%) ของพยาบาลที่ทำงานในห้องฉุกเฉินติดเชื้อเนื่องจากไม่สวมหน้ากากอนามัย (แหล่งที่มา: KBS)
ก่อนที่โรคเมอร์สจะระบาด แม้ว่าในโรงพยาบาลยอดนิยมของเกาหลีก็ไม่มีการบังคับให้สวมหน้ากากอนามัย ตอนนี้โรงพยาบาลทั้งหลายได้ออกกฎต่างๆออกมาเช่น ให้พยาบาลและหมอสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อทำการตรวจผู้ป่วย ผู้ที่เดินทางมาเยี่ยมด้วยเช่นกันต้องทำการสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วย อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลท้องถิ่นขนาดเล็ก-กลางก็ยังไม่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้
นอกจากกรณีของการสวมหน้ากากอนามัยแล้ว ก็ยังมีเรื่องที่ค่อนข้างน่าเศร้าคือพวกเขาไม่ทำการฆ่าเชื้อโรคที่มือการเมื่อเดินทางไปตรวจผู้ป่วย เชื้อโรคภายในจากร่างกายของเราอาจที่จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการแย่ลงได้เนื่องจากร่างกายของผู้ป่วยอ่อนแออยู่แล้ว ที่เกาหลีนั้นไม่ค่อยมีการทำฆ่าเชื้อโรคที่มือเพราะเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับคำแนะนำกันมาเกี่ยวกับความสามารถที่จะแพร่สู่ผู้อื่น แม้ว่าจะเกี่ยวกับทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยได้ใช้กัน
(แหล่งที่มา: Money Today)
เนื่องจากการควบคุมโรคที่ไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ประเทศเกาหลีเป็นประเทศเดียวที่ไม่ใช่ประเทศตะวันออกกลางที่มีการระบาดของโรคเมอร์ส (186 ติดเชื้อ, 38 เสียชีวิต, อันดับที่ 3 ของโลก)
ในช่วงเวลานี้ จำนวนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศเกาหลีตกลงอย่างมากและคนทั้งประเทศต่างวิตกกังวล แถมโรคเมอร์สยังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วภายในห้องฉุกเฉินขนาดใหญ่ของโรงพยาบาลอีกด้วย
ทำไมคนเกาหลีถึงมีการรับรู้เกี่ยวกับสุขอนามัยที่ต่ำ?
อาจเป็นเพราะความเสี่ยงในอนาคตที่ต่ำของผู้อยู่อาศัยและความเห็นแก่ตัวที่คิดว่า "ไม่เป็นไรถ้าไม่ใช่เรา"
คนเกาหลีคิดว่าตัวเองนั้นแข็งแรงมาก จากเซอร์เวย์เรื่อง "พฤติกรรมการรับรู้เกี่ยวกับสุขภาพของคนโซล" ที่ทำการจัดเก็บทุกปีโดยทางการโซล พบว่า 80 ~ 85% ของคนโซลตอบว่าตัวเองแข็งแรงมากกว่า "ปกติ" ทุกคนคิดว่าตัวเองนั้นแข็งแรง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ทำร้ายร่างกายและเพิ่มโอกาสความเสี่ยง เราจำได้ว่าในตอนที่โรคเมอร์สระบาด มีคนเกาหลีจำนวนมากที่กังวลและกลัวเนื่องจากมีโอกาสสูงที่จะติดโรค จึงติดสินใจเดินทางไปต่างประเทศอย่างฮ่องกง ทำให้คนฮ่องกงโกรธคนเกาหลีมากในช่วงนั้น และเหตุผลที่ทำไมคนเกาหลีไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยก็คือ พวกเขาไม่คิดว่าจะป่วยจากฝุ่น กังนั้นพวกเขาจึงปลอดภัย มีเพียงแค่คนที่กังวลเกี่ยวกับสุขภาพเท่านั้นที่สวมใส่หน้ากาก
85% ของคนตอบว่าพวกเราเหนือ'ปกติ' ในการทำเซอร์เวย์เรื่องพฤติกรรมการรับรู้เกี่ยวกับสุขภาพ (แหล่งที่มา: ทางการโซล)
ส่วนตัวเราคิดว่าคนเกาหลีปฏิบัติตัวกันเช่นนี้เรื่องจาก พยายามที่จะลดความเสี่ยงในอนาคต ถึงแม้ว่าจะเป็นความจริงที่การรับรู้เกี่ยวกับสุขอนามัยของคนที่นี่ต่ำมาก โดยรวมแล้วสังคมเกาหลีมีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยให้การสังเกตุเกี่ยวกับจรรยาบรรณหรือคำสั่งของส่วนรวม ตัวอย่างเช่น บางครั้งคนเกาหลีก็ไม่ได้ความสนใจเมื่อเกินเหตุการณ์เพลิงไหม้ขึ้นทำให้ยากต่อการที่รถดับเพลิงจะเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นเหตุให้การเดินทางล่าช้าและมีผู้บาดเจ้บจำนวนมาก
คนจำนวนมากไม่ได้มีความรับรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เนื่องจากไม่ได้ให้ความสนใจ พวกเขาไม่ควรที่จะคิดว่าสามารถทำอย่างนี้ได้เพราะคนอื่นก็ทำเหมือนกัน เนื่องจากจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายขึ้นได้
ดูเหมือนว่าการศึกษาเป็นทางเดียวที่จะช่วยแก้ไขปัญหาและพัฒนาการรับรู้เกี่ยวกับสุขอนามัยในเกาหลี พวกเราจะต้องสอนวิธีในการให้ความสนใจผู้อื่นที่โรงเรียนหรือที่บ้าน สาเหตุก็คือเราควรที่จะใส่ใจเกี่ยวกับสุขลักษณะและสุขภาพ แลันี่ก็จะช่วยให้เราสามารถรักษาจรรยาบรรณและมารยาทที่ดีทางสังคมพร้อมยังแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย เหมือนกับคนเกาหลีหลายๆคนที่ใส่ใจเกี่ยวกับการแปรงฟันของพวกเขาตั้งแต่"เรียนกฎ 333 ในการแปรงฟัน" (3นาที, 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 3 นาที)เมื่อพวกเขายังเด็ก พวกเขาควรที่จะเรียนรู้วิธีในการให้ความสนใจผู้อื่นอย่างลึกซึ้งตั้งแต่ยังเด็กเหมือนที่เรารักและใส่ใจตัวเอง
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand