วิธีสมัครเรียนเข้ามหาวิทยาลัยที่เกาหลีหลังจบคอร์สเรียนภาษาที่สถาบันภาษาที่เกาหลี

อยากเรียนมหาวิทยาลัยที่เกาหลีหลังจากเรียนจบคคอร์สภาษาเกาหลีแล้ว!! ต้องทำยังไงบ้างไปดูวิธีการสมัครเข้าเรียนแบบละเอียดได้เลย!!

Jiyoon Kim
3 years ago
วิธีสมัครเรียนเข้ามหาวิทยาลัยที่เกาหลีหลังจบคอร์สเรียนภาษาที่สถาบันภาษาที่เกาหลี

สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุกๆ วัน


#เที่ยวเกาหลี #เรียนที่เกาหลี

#รีวิวเกาหลี #เรียนต่อต่างประเทศ


ที่สถาบันเรียนภาษาเกาหลีนั้น นอกจากจะมีคนที่ต้องการเรียนภาษาเกาหลีแล้วยังมีคนที่สนใจอยากจะเรียนที่มหาวิทยาลัยเกาหลีอีกด้วยค่ะ

หากใครอยากจะเข้ามหาวิทยาลัยไหน ก็มักจะเลือกเรียนภาษาเกาหลีที่มหาวิทยาลัยนั้นค่ะ แต่ถ้าอย่างนั้นหลังจากเรียนจบคอร์สจากสถาบันภาษาแล้ว ต้องเตรียมตัวและสมัครเข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการได้อย่างไรนะ?

วันนี้เราจะได้เตรียมข้อมูลอย่างละเอียดมาให้ทุกคนแล้วนะคะ ไปดูกันเลย!


📹 Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube

❣️ อัพเดทข้อมูลเกาหลีได้ที่

Instagram: instagram.com/creatrip.thailand

Facebook: facebook.com/creatrip.th

🛍 ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี


วิธีการสมัครเรียนเข้ามหาวิทยาลัยที่เกาหลีหลังจบคอร์สเรียนภาษาที่สถาบันภาษาที่เกาหลี


การศึกษาในระดับอุดมศึกษาของเกาหลี

ก่อนที่จะเริ่มกัน เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับการศึกษาระดับอุดมศึกษาของเกาหลีกันก่อนนะคะ

สถาบันอุดมศึกษาของเกาหลีสามารถแบ่งออกเป็น วิทยาลัยอาชีวศึกษา (2~3 ปี), มหาวิทยาลัย (4 ปี) และบัณฑิตวิทยาลัยค่ะ แต่เมื่อเร็วๆ นี้มีการจัดตั้งและดำเนินการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ที่มีการเรียนการสอนแบบ e-Learning เป็นหลัก เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารค่ะ

นอกจากนี้ หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา (ปริญญาโท, ปริญญาเอก) มักจะมีให้บริการในมหาวิทยาลัยแบบ 4 ปี แต่เมื่อเร็วๆ นี้ 'บัณฑิตวิทยาลัย' ที่ให้บริการเฉพาะหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาโดยไม่มีหลักสูตรระดับปริญญาตรีค่ะ

สำหรับมหาวิทยาลัยในประเทศเกาหลีแบ่งออกเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติที่จัดตั้งและดำเนินการโดยรัฐ, มหาวิทยาลัยของรัฐที่จัดตั้งและดำเนินการโดยรัฐบาลท้องถิ่นและมหาวิทยาลัยเอกชนที่จัดตั้งและดำเนินการโดยนิติบุคคลของมหาวิทยาลัย

ปัจจุบันนี้มหาวิทยาลัยเกาหลีรวมถึงกระทรวงการศึกษาธิการกำลังดึงดูดนักศึกษาต่างชาติเพื่อส่งเสริมการแข่งขันระหว่างประเทศและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างประเทศ และในปี 2020 ได้มีนักศึกษาต่างชาติ 150,000 คนที่กำลังศึกษาอยู่ในประเทศเกาหลีและ 110,000 คนกำลังเข้าเรียนในหลักสูตรปริญญาค่ะ


ประเภทของหลักสูตรในมหาวิทยาลัยภาคการศึกษาปกติ
  • เป็นหลักสูตรปกติทั่วไป มีการจัดการเรียนการสอนช่วงเทอมใบไม้ผลิและเทอมใบไม้ร่วง
  • แบ่งออกเป็นวิชาทั่วไปที่สอนด้วยภาษาเกาหลีและภาษาต่างประเทศ
  • สามารถสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีได้
โครงการ
นักเรียนแลกเปลี่ยน
  • มหาวิทยาลัยที่เกาหลีส่วนใหญ่ มีโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาตามข้อตกลงของมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่เป็นพาร์ทเนอร์
  • นักศึกษาที่สมัครโครงการแลกเปลี่ยนจะต้องมีคะแนนที่อยู่ในระดับที่ดีและมีความสามารถทางด้านภาษาต่างประเทศ
ภาคการศึกษาตามฤดูกาล
  • นักศึกษาต่างชาติสามารถเข้าเรียนวิชาอื่นๆ รวมถึงวิชาปกติหรือภาษาเกาหลีในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนหรือฤดูหนาวได้
หลักสูตรภาษาอังกฤษ
  • ปัจจุบันมหาวิทยาลัยที่สนใจการศึกษาในระดับนานาชาติกำลังสอนด้วยภาษาอังกฤษประมาณ 30% ของหลักสูตรทั้งหมด
  • มหาวิทยาลัยบางแห่งมีคณะที่เป็นนานาชาติและสอนทุกวิชาในหลักสูตรด้วยภาษาอังกฤษ
หลักสูตร
อบรมภาษาเกาหลี
  • มหาวิทยาลัยหลายแห่งได้จัดตั้งสถาบันภาษาเพื่อเปิดสอนภาษาเกาหลีให้แก่ชาวต่างชาติ





การสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยในเกาหลี

ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนเลยว่า การเรียนการสอนแบบหลักสูตรอบรมภาษาเกาหลีที่จัดโดยสถาบันภาษาเกาหลีนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเข้ามหาวิทยาลัยนะคะ แต่อย่างไรก็ตามการยื่นผลภาษาเกาหลี (TOPIK) หรือใบรับรองการสำเร็จการศึกษาจากสถาบันภาษาเกาหลีตั้งแต่ระดับ 4 ขึ้นไปก็ยังมีความสำคัญในการสมัครเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยในเกาหลีค่ะ

นอกจากนี้เนื้อหาทั้งหมดที่ได้รวบรวมไว้ด้านล่างนี้ อ้างอิงจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล สำหรับมหาวิทยาลัยอื่นๆ มีความคล้ายคลึงกันตั้งแต่คุณสมบัติการสมัคร, เอกสารที่ใช้ในการยื่น, ขั้นตอนและเวลา แต่เราขอแนะนำให้อ้างอิงจากเว็บไซต์ของแต่ละมหาวิทยาลัยเพื่อความถูกต้องอีกครั้งก่อนเตรียมเอกสารค่ะ


คุณสมบัติ

  • ระดับการศึกษา: ต้องเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายทั้งในประเทศและต่างประเทศหรือได้รับการยอมรับว่ามีระดับการศึกษาสูงกว่าหรือเทียบเท่า
    • ไม่สามารถสมัครได้หากจบการศึกษาแบบสอบเทียบ, เรียนที่บ้านหรือเรียนแบบออนไลน์ (หากเรียนแบบออนไลน์เนื่องจาก COVID-19 สามารถสมัครได้แต่ต้องยื่นเอกสารแจ้งเหตุผลและหลักฐาน)
    • สามารถสมัครได้เฉพาะผู้ที่มีวุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลายที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลอย่างเป็นทางการเท่านั้น (ผู้ที่จบการศึกษาจากโรงเรียนในเกาหลีก็สามารถสมัครได้)
  • สัญชาติ: ผู้สมัครและผู้ปกครองต้องเป็นชาวต่างชาติ
    • การได้มาซึ่งสัญชาติต่างประเทศ: บุคคลที่ได้รับสัญชาติต่างประเทศทั้งโดยผู้ปกครองและผู้สมัครก่อนที่จะเริ่มหลักสูตรมัธยมในเกาหลี
      (กรณีการได้มาสัญชาติต่างประเทศเนื่องจากการอพยพหรือการรับบุตรบุญธรรม จำเป็นต้องยื่นเอกสารสำหรับการได้มาสัญชาติเพื่อเป็นหลักฐาน)


เอกสารจำเป็นสำหรับการสมัครเรียน

No.เอกสารจำเป็น
ข้อควรระวัง
ข้อ 1 - 4 : ต้องพิมพ์เป็นเกาหลีหรือภาษาอังกฤษและยื่นภายในระยะเวลาการสมัคร
1ใบสมัครเข้าเรียน
  • กรอกข้อมูลโดยตรงจากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ในใบสมัคร (การสะกดชื่อภาษาอังกฤษ วันเดือนปีเกิด ฯลฯ) ต้องเหมือนกับข้อมูลบนเอกสารที่ยื่น
2เรียงความแนะนำตนเองและแผนการเรียน (1)
  • กรอกข้อมูลโดยตรงจากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย
  • เรียงความต้องมีขนาดไม่เกิน 3,000 ไบต์ (ประมาณ 1,500 ตัวอักษรสำหรับภาษาเกาหลีและ 600 คำสำหรับภาษาอังกฤษ)
  • ห้ามเขียนข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ใช่ของผู้สมัคร (ชื่อพ่อแม่และญาติ, ชื่อที่ทำงาน เป็นต้น)
3จดหมายแนะนำจากคุณครูที่โรงเรียน (1)
  • สามารถส่งได้เฉพาะผ่านทางเว็บไซต์ทางออนไลน์เท่านั้น (ไม่สามารถส่งทางไปรษณีย์/อีเมล/แฟกซ์)
  • เรียงความต้องมีขนาดไม่เกิน 3,000 ไบต์
  • หากผู้สมัครไม่สามารถยื่นใบรับรองการสำเร็จการศึกษา (คาดว่าจะจบ) และใบรับรองผลการเรียน ครูที่รับผิดชอบสามารถยื่นผ่านทางเว็บไซต์ได้
  • ครูที่รับผิดชอบการเขียนหนังสือแนะนำจำเป็นต้องมี 2 คน หากไม่มีครูที่รับผิดชอบสามารถให้ครูทั้วไป, ครูใหญ่, หรือรองครูใหญ่เขียนได้
  • เมื่อชำระเงินที่เหลือ เอกสารการเขียนจดหมายแนะนำจะถูกส่งไปที่อีเมลของครูที่จะเขียนจดหมายแนะนำ
  • ไม่สามารถเปลี่ยนที่อยู่อีเมลของครูที่เขียนจดหมายแนะนำได้หลังจากส่งจดหมายแนะนำเสร็จ
4จดหมายแนะนำจากครูที่ปรึกษาที่โรงเรียน (1)
※ข้อ 5 - 13 : สแกนเอกสารภายในระยะเวลาการรับสมัครและอัพโหลดไปยังเว็บไซต์ (ส่งเอกสารต้นฉบับ/ส่งด้วยตัวเองหลังจากผ่านการคัดเลือก)
5ผลคะแนนภาษาเกาหลีหรือภาษาอังกฤษ
  • เอกสารอย่างน้อยหนึ่งฉบับต่อไปนี้ สามารถพิสูจน์ความสามารถทางภาษาเกาหลีหรือภาษาอังกฤษได้:
    • คะแนนภาษาเกาหลีหรือภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการ
    • ผลการทดสอบทางการศึกษามาตรฐานที่มีคะแนนภาษาเกาหลีหรือภาษาอังกฤษ
    • เอกสารแนะนำจากทางโรงเรียนหรือเอกสารทางการที่พิสูจน์ว่ามีการเรียนการสอนที่เป็นภาษาเกาหลีหรือภาษาอังกฤษ (จำกัดเฉพาะกรณีที่จบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายทั้งภาษาเกาหลีหรือภาษาอังกฤษ)
  • มาตรฐานคะแนนภาษา
    • ภาษาเกาหลี: TOPIK ระดับ 3 ขึ้นไป หรือสำเร็จการศึกษาระดับ 4 ขึ้นไปจากสถาบันภาษา/สถาบันภาษาของมหาวิทยาลัยในประเทศเกาหลีใต้
    • ภาษาอังกฤษ: TOEFL iBT 80, IELTS Academic Band Score 6.0, TEPS 269 ขึ้นไป
  • ผลคะแนนภาษาที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ก็ต่อเมื่อผลคะแนนได้รับการยืนยันภายในระยะเวลาของการสมัคร
  • สามารถส่งไฟล์สแกนผลคะแนนหรือภาพหน้าจอผลคะแนนได้ (หลังจากประกาศผลจำเป็นต้องส่งใบคะแนนต้นฉบับหรือขอรายงานผลคะแนน)
6ใบรับรองความเป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
  • สแกนและส่งต้นฉบับหรือต้นฉบับที่ได้รับการรับรองในช่วงระยะเวลาการสมัคร
    • หลังจากประกาศผลรอบเอกสาร ให้ส่งเอกสารไปที่กงสุลประเทศเกาหลีใต้หรือสถานทูตเกาหลีในไทยเพื่อขอรับการรับรองเอกสาร
    • สามารถยื่นเอกสารที่ผ่านการรับรองโดยกงสุลหรือสถานทูตเกาหลีในไทยได้ในระยะเวลาการสมัคร
    • แนะนำให้ทำการขอการรับรองเอกสารจากกงสุลและสถานทูตเกาหลีในไทยล่วงหน้า เนื่องจากอาจจะเกิดการล่าช้าได้
  • เฉพาะใบรับรองการเป็นนักเรียนที่ระบุช่วงระยะเวลาในการเข้าเรียน (วันเริ่ม/วันจบภาคเรียน) และเกรดที่ชัดเจนเท่านั้นจึงจะสามารถใช้ในการสมัครได้
  • หากไม่สามารถออกใบรับรองการเป็นนักเรียนได้เนื่องจากเหตุผลที่เป็นทางการ สามารถยื่นใบรับรองการสำเร็จการศึกษาแทนได้
  • กรุณายื่นเหตุผลและเอกสารหลักฐานในกรณีที่ผิดวิสัยเช่น การสำเร็จการศึกษาก่อนกำหนดหรืออื่นๆ
  • หากไม่มีใบรับรองการสำเร็จการศึกษา (คาดว่า) สามารถยื่นใบรับรองการสำเร็จการศึกษา (กำหนด) หรือใบรับรองผลการเรียน หรือเอกสารยืนยันอย่างเป็นทางการของโรงเรียนที่จบการศึกษาได้
  • หากไม่มีใบจบการศึกษาหรือคาดว่าจะจบ สามารถยื่นใบรับรองความเป็นนักเรียนหรือใบรับรองผลการเรียนที่ระบุวันที่คาดว่าจะคาดแทนได้ เพื่อเป็นการเอกสารยืนยันว่าจะจบการศึกษาตามกำหนด
  • (ตัวอย่างการยื่นใบรับรองผลการเรียนจนถึงเวลาที่สมัคร) หากไม่มีผลการเรียนในภาคเรียนที่ 2 ของมัธยมศึกษาปีที่ 6 สามารถยื่นใบรับรองผลการเรียนในภาคเรียนที่ 1 ของมัธยมศึกษาปีที่ 6 แทนได้
  • หากผู้สมัครไม่สามารถยื่นใบรับรองการสำเร็จการศึกษา (กำหนดการ) และใบรับรองผลการเรียน ครูที่รับผิดชอบการเข้าเรียนสามารถยื่นผ่านเว็บไซต์การแนะนำออนไลน์ได้ หากผู้สมัครไม่สามารถยื่นใบรับรองการจบการศึกษาหรือใบรับรองผลการเรียนได้ ครูที่รับผิดชอบในการเขียนจดหมายแนะนำสามารถยื่นแทนได้
  • ถึงแม้ว่าผู้สมัครจะยื่นผลคะแนน A-Level หรือ IB แต่จำเป็นต้องยื่นใบรับรองผลการเรียนในระดับมัธยมปลายทั้งหมด
7ใบรับรองผลการเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ใบเกรด)
8ใบประกาศนียบัตรการจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (หรือคาดว่า)
9ใบรับรองสัญชาติของผู้สมัคร (1)
  • จำเป็นต้องส่งสำเนาหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุในการสมัคร หากหนังสือเดินทางหมดอายุแล้ว สามารถยื่นสำเนาการรับรองสัญชาติหรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนแทนได้ (ใบขับขี่ไม่สามารถใช้ในการยื่นสมัครเข้าเรียนได้)
  • ในกรณีที่ผู้ปกครองเสียชีวิตหรือหย่าร้าง สามารถใช้เอกสารของผู้ปกครองท่านอื่นๆที่ผู้สมัครอยู่ในการดูแลแทนได้
10สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง
11ใบรับรองความสัมพันธ์ระหว่างผู้สมัครและ
ผู้ปกครอง (1)
  • ใบรับรองความสัมพันธ์ระหว่างผู้สมัครและผู้ปกครองสามารถใช้ใบสูติบัตร, ใบแสดงความสัมพันธ์ในครอบครัว, หรือใบรับรองสัญชาติ จำเป็นต้องเป็นเอกสารที่ระบุชื่อของผู้สมัครและผู้ปกครองจึงจะสามารถใช้ในการสมัครได้
  • ในกรณีที่เป็นครอบครัวที่มีผู้ปกครองเพียงคนเดียวหรือมีการเสียชีวิตของผู้ปกครอง,การหย่าร้าง จำเป็นต้องยื่นหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
12ผลการสอบมาตรฐานการศึกษา (ไม่จำเป็น)
  • ใบรับรองผลการสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายของประเทศที่เกี่ยวข้อง
    • GCEA-LEVEL, การสอบเข้ามหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น, การสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติของจีน, Abitur ของ เยอรมัน, Baccalaureate ของฝรั่งเศส
  • ผลการสอบมาตรฐาน : ACT, A-LEVEL, AP, IGCSE, IB, NCEA, SAT เป็นต้น
  • หลังจากอัพโหลดไฟล์สแกนใบเกรดหรือภาพหน้าจอผลการเรียนของเว็บไซต์อย่างเป็นทางการไปยังเว็บไซต์รับสมัครแบบออนไลน์และทำการรายงานผลคะแนนในระยะเวลาของการสมัคร
13เอกสารส่วนตัวและหลักฐานต่างๆ (ไม่จำเป็น)
  • ยื่นเอกสารส่วนตัวที่จำเป็นหรือข้อเท็จจริงที่จำเป็นต้องอธิบาย
  • กรอกเอกสารชี้แจ้งเหตุผลในแบบฟอร์มที่กำหนดและยื่นด้วยเอกสารหลักฐานอย่างเป็นทางการที่สามารถใช้สนับสนุนได้

※ข้อ 14 - 16 (ไม่จำเป็น): สแกนเอกสารภายในระยะเวลาการรับสมัครและอัพโหลดไปยังเว็บไซต์ (ส่งเอกสารต้นฉบับ/ส่งด้วยตัวเองหลังจากผ่านการคัดเลือก)

14ข้อมูลแนะนำโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
  • ข้อมูลแนะนำโรงเรียน (School Profile) หรือข้อมูลทางการศึกษาอื่นๆ (ข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการของประเทศนั้นๆ)
  • ไม่มีรูปแบบเนื้อหาที่กำหนดไว้และอาจรวมถึงเนื้อหาที่จำเป็นต่างๆเช่น หลักสูตร, จำนวนนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียน, ค่าเฉลี่ยในการสอบวัดมาตรฐาน, อัตราการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยและสถานะการเข้าเรียน
15เอกสารแสดงความสามารถทางภาษาอื่นๆ
  • เอกสารแสดงความสามารถทางภาษา เช่น HSK, JLPT, JPT, DELF, DALF, DELE, GZ, TestDaF, TORFL เป็นต้น
  • หากไม่ใช่เอกสารต้นฉบับ ต้องประทับตราหรือลายเซ็นของผู้อำนวยการโรงเรียน (ยื่นเอกสารเหตุผลหากผู้อำนวยการโรงเรียนไม่สามารถยืนยันได้)
16เอกสารอ้างอิงต่างๆที่ต้องการยื่นในการสมัคร (ใบประกาศนียบัตรหรือผลงานต่างๆ)
  • จำเป็นต้องเป็นเอกสารที่เกี่ยวกับผู้สมัครในช่วงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ข้อมูลที่สามารถยื่นได้อาจจะเป็นข้อมูลที่ไม่ได้เกี่ยวกับด้านวิชาการ เช่น กิจกรรมนอกเวลาเรียน, ชมรม, รางวัล เป็นต้น)
  • สามารถอัพโหลดได้สูงสุด 10 กิจกรรม รวมทั้งกิจกรรมภายในและภายนอกโรงเรียนและรางวัลที่ได้รับ
    • ผลงานที่ได้รับรางวัลถือว่าเป็น 1 กิจกรรม
    • กิจกรรมทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน เช่น ชมรมจะได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 กิจกรรมเท่านั้นหากมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
  • หากไม่ใช่เอกสารต้นฉบับ จำเป็นต้องประทับตราหรือลายเซ็นของผู้อำนวยการโรงเรียน

※การรับรองเอกสาร:

  • ระบบการยืนยันเพื่อรับรองเอกสารราชการที่ออกในต่างประเทศในประเทศโดยไม่ต้องยืนยันกงสุล เป็นการรับรองเอกสารราชการที่ออกในต่างประเทศเพื่อให้สามารถใช้ได้ในประเทศเกาหลีได้
  • มีทั้งหมด 118 ประเทศทั่วโลกที่เข้าร่วมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการยกเลิกข้อกำหนดของการนิติกรณ์สำหรับเอกสารมหาชนจากต่างประเทศ (Apostille Convention)
  • เว็บไซต์ทางการของ Apostille


ขั้นตอนการสมัคร

ขั้นตอนที่ 1เลือกมหาวิทยาลัยและภาควิชา
(เว็บไซต์ทางการของ study in Korea, เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย, ติดต่อสถานทูตเกาหลีในประเทศไทย)
ขั้นตอนที่ 2กรอกใบสมัครและเตรียมเอกสาร
ขั้นตอนที่ 3ส่งใบสมัครและเอกสารที่จำเป็น
ขั้นตอนที่ 4ได้รับการตอบรับให้เข้าเรียน


ระยะเวลาการสมัคร

ภาคการศึกษาฤดูใบไม้ผลิ (เข้าเรียนเดือนมีนาคม) ส่วนใหญ่จะเปิดรับสมัครตั้งแต่เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนของปีก่อนหน้านั้นและภาคการศึกษาฤดูใบไม้ร่วง (เข้าเรียนเดือนกันยายน) ส่วนใหญ่จะรับสมัครในเดือนเมษายนถึงมิถุนายนของปีนั้นและปัจจุบันได้มีการใช้วิธีการสมัครแบบออนไลน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก


วิธีการคัดเลือก

  • การคัดเลือกจะประเมินจากความสามารถทางวิชาการ, ความสามารถทางภาษา, กิจกรรมทางวิชาการและกิจกรรมนอกเวลาตามเอกสารที่ยื่นมา
  • หากจำเป็นต้องมีการสัมภาษณ์/สอบปฏิบัติแยกต่างหากในระหว่างกระบวนการประเมินผล ทางมหาวิทยาลัยจะแจ้งให้ทราบเป็นรายบุคคล
  • คุณสมบัติของผู้สมัคร, สถานะ, รายละเอียดการประเมินผล, เหตุผลของการไม่ผ่าน ฯลฯ จะถูกเก็บเป็นความลับ


หลังจากผ่านการคัดเลือก (รอบเบื้องต้น) (ตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล)

  • คุณสมบัติและการรับเข้าศึกษาจะจำกัดเฉพาะการรับสมัครในภาคการศึกษานั้นๆ จึงไม่สามารถเลื่อนออกไปเป็นภาคการศึกษาต่อไปได้
  • หลังจากผ่านการคัดเลือก แนะนำให้ตรวจสอบคู่มือที่ประกาศในหน้าเว็บไซต์หลักในการรับสมัครของมหาวิทยาลัย
  • ผู้สมัครที่ด้รับการคัดเลือกเนื่องจากความสามารถทางภาษาเกาหลีจะต้องทำการทดสอบการประเมินความสามารถทางภาษาเกาหลีที่ดำเนินการโดยสถาบันภาษาของมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล

    • อาจจะมีข้อจำกัดในการเลือกสาขาวิชา ขึ้นอยู่กับผลการประเมิน

    • กรุณาติดต่อสถาบันภาษาสำหรับการทดสอบความสามารถทางภาษาเกาหลีและข้อจำกัดสำหรัลการเลือกสาขา


บรรยากาศการเรียนในห้องเรียนที่มหาวิทยาลัยในประเทศเกาหลีสำหรับนักศึกษาต่างชาติพร้อมคู่มือและคำแนะนำการสมัครเรียนในประเทศเกาหลี




หลังจากที่ตรวจสอบขั้นตอนทั้งหมดในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในเกาหลีกันไปแล้ว นี่เป็นคำศัพท์ที่ใช้บ่อยเมื่อเข้ามหาวิทยาลัยในเกาหลีค่ะ

สุดท้ายเราจะจบบทความนี้ด้วยคำศัพท์สำคัญในมหาวิทยาลัยเกาหลีนะคะ

ลงทะเบียนเรียน
수강신청
การลงทะเบียนเรียนคลาสที่ต้องการก่อนเริ่มเปิดเทอม
การประเมินการสอน
강의평가
การประเมินการสอนของอาจารย์ตลอดภาคการศึกษา
ภาคการศึกษาตามฤดูกาล
계절학기
การเรียนในช่วงปิดเทอม ส่วนใหญ่จะลงเรียนในเทอมนี้เพื่อเก็บหน่วยกิจที่ขาด
ลาพักการเรียน (ต้องสมัคร)
휴학 (신청)

การลาพักการเรียนเป็นระยะเวลาหนึ่งโดยได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย

(ในกรณีของนักเรียนต่างชาติ ต้องออกจากเกาหลีภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับอนุญาตจากโรงเรียน)

การขอกลับเข้าเรียน (ต้องสมัคร)
복학 (신청)
นักเรียนที่ถูกพักการเรียนหรือลาพักการเรียนสามารถกลับเข้ามาเรียนได้อีกครั้ง
คำเตือนทางวิชาการ
학사경고

คำเตือนที่จะได้รับหากค่าเฉลี่ยของคะแนนปลายภาคเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดโดยแต่ละมหาวิทยาลัย (1.5 - 2.0 จาก 4.5) เกณฑ์ของแต่ละมหาวิทยาลัยจะแตกต่างกัน หากได้รับคำเตือนครบ 3 ครั้งอาจมีปัญหาในการต่อวีซ่า

การเปลี่ยนเอก
전과
การเปลี่ยนวิชาเอกโดยได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
วิชาโท/วิชาเอกรอง
복수전공/부전공

นอกเหนือจากวิชาเอกในสาขาที่เข้าเรียนแล้ว หากสมัครและโอนหน่วยกิตไว้ในวิชาเอกอื่นๆ ก็จะถือว่าสำเร็จวิชาเอกนั้นๆได้เช่นกัน

โดยทั่วไปแล้วเมื่อมีการจบการศึกษาจะถือว่าจบจากทั้ง 2 เอก

การสอนด้วยภาษาอังกฤษ
영어전용강좌
การเรียนการสอนที่ดำเนินการด้วยภาษาอังกฤษ 100%
การไล่ออก
제적
การโดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัยเนื่องจากการผิดกฎระเบียบหรือเนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆ
การลาออกด้วยความสมัครใจ
자퇴
การลาออกจากมหาวิทยาลัยด้วยตนเองตามความประสงค์ของนักศึกษาเอง




ที่มา:

한국유학종합시스템 https://www.studyinkorea.go.kr/ko/main.do

서울대학교 사이트 https://admission.snu.ac.kr/international/undergraduate/spring/guide

서울대학교 한국어교육센터 https://lei.snu.ac.kr/mobile/kr/klec/main/main.jsp


ถ้าหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้เลยที่ help@creatrip.com


📹 Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube

❣️ อัพเดทข้อมูลเกาหลีได้ที่

Instagram: instagram.com/creatrip.thailand

Facebook: facebook.com/creatrip.th

🛍 ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี