สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#ข่าวเกาหลี #โควิด19
#วัคซีนโควิด #ไฟเซอร์
เพื่อการเข้าสอบซูนึงเด็กนักเรียนขั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ในเกาหลีจะต้องเข้ารับการฉีดซีน แต่เกิดกรณีการเสียชีวิตหลังจากจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) 75 วัน ทำให้แม่ของผู้เสียชีวิตออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องค้นหาสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง｜สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
แม่ของเด็กมัธยมที่เสียชีวิตหลังฉีดไฟเซอร์เรียกร้องความเป็นธรรม
เมื่อวันที่ 4 ได้มีโพสต์บนเว็บไซต์ซองแดวา (รัฐบาลเกาหลีใต้) ในหัวข้อ "แม่ของเด็กมัธยมที่เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน" โดยระบุว่า "ฉันเป็นแม่ของเด็กที่เสียชีวิตหลังจาก 75 วันของการฉีดวัคซีนครั้งที่ 2 เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ฉันปล่อยลูกชายไป เสียงของลูกชายยังก้องอยู่ในหูของฉัน มันยังคงเป็นความเจ็บปวดสำหรับฉัน แต่ฉันกำลังเขียนสิ่งนี้ด้วยความหวังว่าลูกชายจะไม่ตายอย่างสูญเปล่า"
ตามคำบอกเล่าของ A ระบุว่าลูกชายของเธอชอบออกกำลังกายและมีสุขภาพดีโดยไม่มีโรคประจำตัว และไปโรงเรียนตามปกติจนถึงวันที่ 25 ของเดือนที่แล้ว แต่ในเช้าของวันนั้นก็ได้รับโทรศัพท์ว่า "ลูกชายมีเลือดออกที่เหงือก" โดยเธอรู้สึกไม่สบายใจและตกใจอย่างมากเมื่อได้รับแจ้งว่าลูกชายของเธอกำลังถูกส่งตัวไปห้องฉุกเฉิน
เมื่อไปถึงห้องฉุกเฉินก็ได้รับแจ้งว่า ลูกชายของเธอมีอาการเลือดออกในสมองเฉียบพลันและมีอาการชักรุนแรง ดังนั้นเขาจึงได้รับยาระงับประสาทและกำลังพักฟื้น เธอรู้สึกตกใจเมื่อรู้ว่าลูกของเธอต้องได้รับกาตรวจเลือดและ CT Scan อย่างเร่งด่วน และติดต้องอุปกรณ์ทุกชนิดไว้บนร่างกายเพื่อลดความดันโลหิตของเขา
cr. 한국교욕신문
หลังจากดูผลการตรวจ CT scan ครั้งแรกพบว่ามีเลือดออกหลายจุด และเมื่อตรวจครั้งที่ 2 และเจ้าหน้าที่แจ้งว่า "ลูกชายของเธอมีเกล็ดเลือดต่ำ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการผ่าตัด และหากทำการผ่าตัดโอกาสเสียชีวิตจากเลือดออกมากเกินไปจะสูงขึ้น ในสถานการณ์นี้โรงพยาบาลไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว"
โดยโรงพยาบาลแจ้งว่าลูกชายของเธอมีเกล็ดเลือดเพียง 2800 เม็ดเท่านั้นและแพทย์แจ้งว่าโรงพยาบาลไม่สามารถดำเนินการอะไรได้มากกว่านี้ จึงต้องส่งตัวไปโรงพยาบาลอื่น แต่เมื่อแพทย์โรงพยาบาลที่ ทำการตรวจก็แจ้งว่า " ตอนนี้ไม่สามรถรักษาได้แล้วเนื่องจากคนไข้มีเลือดออกในสมองอย่างรุนแรงระดับที่ 5 (ระดับสูงสุด)"
หลังจากที่เธอได้รับแจ้งก็รู้สึกเหมือนโลกแตกสลาย และสามีของเธอก็บอกว่า "ปล่อยให้ลูกไปอย่างสงบเถอะ" และหลังจากนั้นอีก 2 วันต่อมาในวันที่ 27 ตุลาคมเวลาประมาณ 09:35 น. เธอก็ได้บอกลาลูกชายครั้งสุดท้ายและเขาก็จากไป
cr. newsis
เธอยังบรรยายต่อในโพสต์ว่า "เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปล่อยลูกชายของฉันไปและฉันจะไม่ลืมเขาไปตลอดชีวิต ฉันเขียนข้อความนี้ด้วยความหวังว่าลูกชายของฉันจะไม่ได้รับบาดเจ็บสองครั้ง และเพื่อนๆของเขาจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน"
และกล่าวว่า "ฉันไม่ต้องการรับค่าตอบแทน ไม่ว่าจะมากแค่ไหนลูกชายของฉันก็ไม่ฟื้นขึ้นมา สำหรับผู้ใหญ่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องฉีดวัคซีน แต่ฉันก็ยังไม่รู้ว่าทำไมจึงแนะนำให้วัยรุ่นและเด็กฉีดวัคซีน" โดยเธออธิบายอัตราการเสียชีวิตของเด็กที่ติดโควิดต่ำ (ยิ่งอายุน้อยยิ่งต่ำ) ดังนั้นจึงอยากรู้เหตุผลว่าทำไมเด็กต้องถูกฉีดวัคซีน
พร้อมกับตั้งคำถามว่า "เป็นเพียงค่าเสียโอกาสหรือไม่?" นั่นคือเหตุผลที่คนมีผลข้างเคียงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเสียสละ ในเกาหลีใต้นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 6 จำเป็นต้องฉีดวัคซีน "เพื่อเข้าสอบ" และกล่าวว่านี้ข้อกำหนดนี้ควรเป็นเพียง "ทางเลือก" หรือไม่
โดยเธอหวังว่ารัฐบาลจะให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีน และหวังว่าจะไม่มีเด็กคนไหนที่ต้องเจ็บปวดแบบลูกชายของเธออีก ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศว่ากำลังสอบสวนกรณีการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ระบุว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเมื่อไหร่
ที่มา naver.news
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง｜สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
