สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#วัฒนธรรมเกาหลี #คนเกาหลี
#ซีรีส์เกาหลี #ชีวิตในเกาหลี
แต่ละปีจะมีซีรีส์เกาหลีมากกว่า 20 เรื่องที่ออกอากาศ แต่ซีรีส์ที่มีเนื้อหาหนักๆทำให้คนดูเกิดความเครียดมักจะได้รับความนิยมมากกว่าซีรีส์เนื้อหาโรแมนติกหรือเรื่องสนุกสนานอยู่เสมอ เป็นเพราะซีรีส์เกาหลีเนื้อหาเครียดๆจึงได้รับความนิยมมากในเกาหลี?
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
ทำไมคนเกาหลีชอบดูซีรีส์หนักๆ

ตั้งแต่ปี 2020-2021 ที่ผ่านมามีซีรีส์ดังๆหลายเรื่องที่ออกอากาศ ซึ่งแต่ละเรื่องก็มีเนื้อหาหลากหลายทั้งแนวรักโรแมนติก, ซีรีส์ตลกเบาสมองและซีรีส์เนื้อหาหนักๆแบบเครียดๆ โดยจากการจัดอันดับซีรีส์ที่มีเรตติ้งสูงสุดตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีซีรีส์เนื้อหาหนักๆหลายเรื่องที่ติดอันดับค่ะ
เมื่อเทียบกับซีรีส์เนื้อหาแนวรักโรแมนติกอย่าง Nevertheless ที่ดังมากๆในไทยซีรีส์เนื้อหาหนักๆอย่างเช่น The Devil Judge, Voice 4 และล่าสุดเรื่อง D.P กลับได้รับการตอบรับจากคนเกาหลีเยอะมากกว่า นอกจากนั้นยังมีซีรีส์เนื้อหาหนักๆเช่น Love ft. Marriage and Divorce ,The World of the Married, SKY Castle ก็ได้รับการตอบรับดีมากเช่นกันค่ะ
เหตุผลอะไรที่ทำให้คนเกาหลีชอบซีรีส์เนื้อหาหนักๆ?
เรื่องจริงของสังคมที่ไม่มีใครกล้าพูด

หลายครั้งที่ซีรีส์เกาหลีเลือกหยิบยกประเด็นปัญหาในสังคมเกาหลีมาใช้เป็นพล็อตของซีรีส์ แม้ว่าอาจจะมีการเพิ่มเติมเนื้อหาบางส่วนเพื่อความสนุกของซีรีส์ แต่หลายครั้งเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นในซีรีส์กลับเป็นเรื่องจริงที่คนเกาหลีไม่กล้าที่จะพูดออกมาค่ะ
เช่นเรื่องปัญหาการนอกใจและปัญหาครอบครัวในเรื่องThe World of the Married ถือเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในเกาหลี แต่เนื่องจากสภาพสังคมของเกาหลีที่มองว่าการหย่าร้างหรือการนอกใจเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ดังนั้นผู้ที่ตกอยู่ในภาวะถูกนอกใจถึงเลือกที่จะเก็บเอาไว้และไม่ยอมพูดถึงเพราะกลัว "อาย" ค่ะ

หรือแม้แต่เรื่องการเตรียมตัวสอบของเด็กเกาหลี ที่พ่อแม่หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กต้องเรียนหนักๆ โดยอาจลืมคิดถึงความรู้สึกของลูก แต่ในเรื่อง SKY Castle ได้นำเสนอออกมาให้เห็นถึงความยากลำบากของเด็กๆที่ผู้ปกครองอาจไม่เคยรู้ และเด็กๆก็ไม่กล้าบอกด้วยค่ะ
หนึ่งในปัจจัยที่สิ่งที่ทำให้ซีรีส์เนื้อหาหนักๆได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ เพราะเมื่อมีซีรีส์ที่สะท้อนเรื่องจริงๆที่ไม่มีใครกล้าพูดถึงเหมือนกับเป็นตัวแทนของผู้ที่กำลังมีปัญหาได้พูดออกมาให้ทุกคนในสังคมได้รับรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นค่ะ
สังคมเกาหลีมีเหยื่อจำนวนมากที่ไม่เปิดเผย

แม้ว่าประเทศเกาหลีจะมีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจไปอย่างมาก แต่ต้องยอมรับว่าในสังคมเกาหลียังมีความคิดแบบเก่าเช่น เรื่องความอาวุโสหรือแม้แต่ความเชื่อเรื่องผู้ชายเป็นใหญ่ หรือแม้แต่ปัญหาการกลั่นแกล้งที่เกิดจากผู้มีอำนาจทั้งในโรงเรียนและที่ทำงาน
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่มักจะเห็นข่าวที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่ฝังรากในสังคมเกาหลี ยกตัวอย่างเช่น การกลั่นแกล้งที่เมื่อมีข่าวออกมาก็มักจะมีเหยื่อมากกว่า 1 คนที่โดนกระทำ หลายครั้งที่เหยื่อออกมาร้องขอความช่วยเหลือ แต่คนรอบข้างกับเลือกที่จะนิ่งเฉยหรือกลัวว่าตัวเองจะเดือดร้อนไปด้วย ดังนั้นเหยื่อส่วนมากเลยเลือกที่จะเงียบและหวังว่าเรื่องจะจบลงค่ะ

ดังนั้นเมื่อมีซีรีส์ที่สร้างเรื่องราวที่คล้ายกับประสบการณ์ที่เหยื่อเจอมาทำให้ผู้ชมที่มีประสบการณ์ที่คล้ายกันอินได้ไม่ยากค่ะ โดยเฉพาะซีรีส์เรื่องที่เกี่ยวกับความรุนแรงในโรงเรียน, ความรุนแรงในที่ทำงานหรือหน่วยงานต่างๆ หรือแม้แต่ซีรีส์ที่มีหน่วยงานของภาครัฐฉ้อโกงหรือผู้ที่ไม่ได้รับความยุติธรรม มักจะได้รับการตอบรับที่ดีเสมอค่ะ
เพื่อความสะใจ

จากเหตุการณ์และข่าวๆที่สะท้อนปัญหาของสังคมเกาหลีจะค่อยๆได้รับการแก้ไขและคนเกาหลีรุ่นใหม่จะหันมารณรงค์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมมากขึ้นเช่น กระแส #MeToo หรือกระแสเฟมินิสต์ แม้กระทั่งรัฐบาลเองก็เพิ่มนโยบายต่างๆ เช่น กฎหมายคุ้มครองการกลั่นแกล้งในที่ทำงาน
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาต่างๆที่เกิดจะระบบสังคมของเกาหลีรุ่นเกาหลีเก่า ยังคงเกิดขึ้นเรื่อยๆตามข่าวที่ได้ยิน ดังนั้นผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อหรือมีประสบการณ์ที่คล้ายคลึงมักจะหวังว่าผู้กระทำผิดจะได้รับกรรมที่ก่อไว้ ซึ่งในความเป็นจริงเกิดขึ้นได้ยากมาก (มีเพียงไม่กี่กรณี) ดังนั้นการที่ซีรีส์สร้างจุดจบอันเลวร้ายของตัวละครผู้กระทำผิดออกมาทำให้คนดูรู้สึกสะใจค่ะ

นอกจากนั้นการสร้างตัวละครที่เปรียบเหมือน "ฮีโร่" เหมือนกับในเรื่อง Taxi Driver , The Devil Judge ก็เหมือนแสดงให้เห็นความหวังว่าในอนาคตผู้กระทำผิดจะต้องถูกจัดการด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ทำให้คนดูรู้สึกชอบใจ และหวังว่าจะกลายเป็นจริงในอนาคตค่ะ
ซีรีส์มีผลต่อสังคมมากกว่าเรื่องจริง

เชื่อหรือไม่ว่าซีรีส์เกาหลีมีผลต่อสังคมมากกว่าเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิด ตัวอย่างเช่น หลายครั้งที่เห็นข่าวการใช้ความรุนแรงทั้งในโรงเรียน,ที่ทำงานหรือในหน่วยงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะกลายเป็นข่าวเมื่อเหยื่อเลือกที่จะจบชีวิตตัวเอง ในขณะที่ผู้กระทำผิดอาจโดนสังคมวิพากวิจารณ์ในตอนแรก แต่มีครั้งที่คนจะคอยติดตามผลว่าผู้กระทำผิดได้รับที่สมควรหรือไม่?
แต่เมื่อมีซีรีส์ที่เนื้อหาที่เกี่ยวข้องออกมา ถึงแม้จะไม่ใช่คนที่ชอบติดตามก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายทำให้เกิดกระแสทางสังคมเรียกร้องให้เกิดการตรวจสอบและการเปลี่ยนแปลงตามมาค่ะ อย่างเช่นหลังจากที่ซีรีส์เรื่อง D.P ออกอากาศทำให้กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ออกมาบอกว่า "บรรยากาศของกองทัพกำลังเปลี่ยนไป" ค่ะ

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่คนจะสนับสนุนซีรีส์เนื้อหาหนักๆแบบนี้ เพราะยิ่งสนับสนุนมากเรื่องก็จะยิ่งดังและผู้ที่มีอำนาจในการจัดการจะเริ่มหันกลับมาสนใจเพราะได้รับแรงกดดันจากสังคมค่ะ ถึงแม้ว่าจะน่าเสียดายว่าหน่วย D.P หรือ Deserter Pursuit (군무이탈체포전담조) จะถูกยกเลิกตั้งแต่เดือนกรกฎาคมในปีหน้าค่ะ

ต้องขอบคุณซีรีส์เกาหลีที่หยิบยกประเด็นทางสังคมในเกาหลีที่เกิดขึ้นจริงมาตีแผ่ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มหันมาสนใจมากขึ้น แถมยังเป็นการให้กำลังใจผู้ที่ตกเป็นเหยื่อให้กล้าออกมาเผยเปิดเผยเรื่องราวมากขึ้นและทำให้มีความหวังว่า "สักวันผู้กระทำผิดจะได้รับกรรม"ค่ะ
นอกจากนั้นยังเป็นการย้ำเตือนผู้กระทำผิดหรือผู้ที่กำลังคิดจะทำว่า "หากทำเรื่องแย่ๆท้ายที่สุดก็จะได้รับผลกรรมเช่นกัน" เราก็ได้แต่หวังว่าซีรีส์เนื้อหาหนักๆที่สะท้อนสังคมเหล่านี้จะช่วยเปลี่ยนแปลงสังคมเกาหลีให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นค่ะ
นี่ก็คือเหตุผลที่ซีรีส์เนื้อหาหนักๆได้รับความนิยมมากในเกาหลี สำหรับคนที่ได้ดูแล้วนอกจากความสนุกก็ยังสามารถนำข้อคิดต่างๆที่ได้จากซีรีส์มาใช้ในชีวิตได้ด้วยค่ะ
แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้า สวัสดีค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand

