logo
เขต

สถานที่สุดฮอตในแทกูที่ไอดอลเกาหลีแนะนำ

ไอดอลเกาหลีอย่าง Seventeen, ไอยู, เจอาร์ NU'EST, และแบคจองวอนชอบไปเที่ยวที่ไหนในเมืองแทกูกันนะ?

Jihyun Lee
3 years ago


สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน


#เที่ยวแทกู #ไอดอลเกาหลี

#รีวิวเกาหลี #เที่ยวเกาหลี

 

วันนี้เราจะมาพาทุกคนไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ในแทกูที่ไอดอลเกาหลีแนะนำกันค่ะ! ทุกคนก็รู้ใช่มั้ยละคะว่าแทกูเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเกาหลีและมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือคาเฟ่ต่างก็รอให้ทุกคนแวะไปเช็คอินอยู่นะคะ~!   


  🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube 

Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand

🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี


สถานที่สุดฮอตในแทกูที่ไอดอลแนะนำ


1. มหาวิทยาลัยเคมยอง วิทยาเขตแดมยอง (계명대학교 대명캠퍼스)

มหาวิทยาลัยเคมยอง วิทยาเขตแดมยอง (계명대학교 대명캠퍼스)


ที่อยู่: 대구광역시 남구 대명동 명덕로 104 (104 Myeongdeok-ro, Daemyeong-dong, Nam-gu, Daegu)


มหาวิทยาลัยเคมยอง วิทยาเขตแดมยอง (계명대학교 대명캠퍼스)


ที่แรกที่เราอยากจะแนะนำก็คือวิทยาเขตแดมยองของมหาวิทยาลัยเคมยอง (계명대학교 대명캠퍼스) ที่ตั้งอยู่ในเมืองแทกูนั่นเองค่ะ แปลกใช่มั้ยละคะที่จะบอกว่าวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยเป็นที่ท่องเที่ยวสุดฮอตในแทกู?

แต่ต้องบอกเลยว่าทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าวิทยาเขตแดมยองของมหาวิทยาลัยเคมยอง มีความสวยงามจมาก ๆ จนได้รับการขนานนามว่า Harvard of Korea เลยทีเดียวค่ะ!


มหาวิทยาลัยเคมยอง วิทยาเขตแดมยอง (계명대학교 대명캠퍼스)


และสำหรับใครที่เป็นแฟนคลับของวง Seventeen ก็คงรู้สึกว่าที่นี่คุ้นเคยมาก ๆ เลยใช่มั้ยละคะ? นั่นก็เพราะว่านี่คือสถานที่ถ่ายทำ MV เพลง Mansae (Part Switch Ver) และเพลง Don't Wanna Cry ยังไงละคะ!

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีซีรีส์และภาพยนตร์เกาหลีที่โด่งดังมากมายมาถ่ายทำที่นี่ด้วยนะคะ เช่น Boys Over Flowers, The Priests, และ Extraordinary You รวมถึง Mr. Sunshine ก็ถ่ายทำที่นี่ด้วยเช่นกันค่ะ


มหาวิทยาลัยเคมยอง วิทยาเขตแดมยอง (계명대학교 대명캠퍼스)


อาคารอิฐสีแดงปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อยสีเขียวที่มีเสาและหลังคาสีขาวเน้นทำให้เกิดบรรยากาศที่น่าขนลุกสุด ๆ แน่นอนว่า Seventeen ก็ได้มาเต้นที่นี่เรียบร้อยแล้วค่ะ~!


มหาวิทยาลัยเคมยอง วิทยาเขตแดมยอง (계명대학교 대명캠퍼스)

มหาวิทยาลัยเคมยอง วิทยาเขตแดมยอง (계명대학교 대명캠퍼스)


ล่าสุด ซีรีส์เรื่อง Mr. Sunshine ก็ใช้ถ่ายทำแล้วเช่นกันค่ะ


มหาวิทยาลัยเคมยอง วิทยาเขตแดมยอง (계명대학교 대명캠퍼스)

มหาวิทยาลัยเคมยอง วิทยาเขตแดมยอง (계명대학교 대명캠퍼스)


ในวันที่อากาศดี ๆ ทุกคนสามารถนั่งตรงบันไดหน้าอาคารแล้วทานแซนวิชไปพลางพูดคุยกับเพื่อน ๆ ไปพลางได้เลยนะคะ ต้องเป็นบ่ายที่ดีแน่ ๆ ค่ะ~


มหาวิทยาลัยเคมยอง วิทยาเขตแดมยอง (계명대학교 대명캠퍼스)

มหาวิทยาลัยเคมยอง วิทยาเขตแดมยอง (계명대학교 대명캠퍼스)


นอกจากนี้ อาคารอื่น ๆ ในวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยเคมยอง เช่น Daemyung Shwetukgwan, Daemyung Yanggwan, Outdoor Auditorium ก็สวยงามไม่แพ้กันเลยนะคะ

สำหรับใครที่กำลังเดินทางไปแทกู ทำไมไม่ลองแวะไปที่วิทยาเขตแดมยองของมหาวิทยาลัยเคมยองและใช้เวลายามบ่ายในการเดินเล่นรอบ ๆ มหาวิทยาลัยดูละคะ? รับรองว่าจะต้องสนุกสนานอย่างแน่นอนค่ะ~!



2. ร้านเชอิลซุกบุลมักชัง (제일숯불막창)

ร้านเชอิลซุกบุลมักชัง (제일숯불막창)


  • ชื่อร้านอาหาร: 제일숯불막창
  • ที่อยู่: 대구광역시 수성구 황금2동 841-2 (841-2 Geumgeum 2-dong, Suseong-gu, Daegu)
  • เวลาทำการ: 17:00 ~ 02:30 น.
  • วิธีการเดินทาง: เดินประมาณ 5 นาทีจากทางออก 1 ของสถานี Daegu Children's Center


ร้านเชอิลซุกบุลมักชัง (제일숯불막창)


ทุกคนเคยได้ยินมั้ยคะว่าแทกูเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมาก ๆ สำหรับการทาน "มักชัง" ? ซึ่งมักชังก็คือไส้หมูส่วนที่ค่อนข้างเหนียวหนึบและมีรสเค็มนั่นเองค่ะ

ตั้งแต่ต้นปี 1970 แทกูได้พัฒนาวัฒนธรรมการย่างมักชังบนเตาถ่าน และเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วประเทศและตอนนี้ก็ได้กลายเป็นอาหารที่หาทานได้ง่ายทุกที่ แต่ถ้าอยากทานแบบต้นตำรับยังไงก็ต้องที่แทกูค่ะ!


ร้านเชอิลซุกบุลมักชัง (제일숯불막창)

ร้านเชอิลซุกบุลมักชัง (제일숯불막창)


ร้านมักชังที่เราอยากจะแนะนำก็คือร้านเชอิลซุกบุลมักชัง (제일숯불막창) ที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองแทกูค่ะ เนื่องจากร้านนี้ได้รับคำชมจากไอยูในรายการ Hyori's Homestay นั่นเอง


ร้านเชอิลซุกบุลมักชัง (제일숯불막창)


เพราะเป็นร้านอาหารที่อร่อยและขึ้นชื่อมาก ๆ ถึงแม้ว่าจะมีโต๊ะและเก้าอี้มากมายภายในร้าน แต่ก็มีคนจับจองไว้เกือบทุกโต๊ะเลยล่ะค่ะ


ร้านเชอิลซุกบุลมักชัง (제일숯불막창)


บนผนังมีลายเซ็นของคนดังที่มาที่นี่เพื่อรับประทานอาหารด้วยนะคะ แน่นอนว่ามีรูปภาพของไอยูเช่นกันค่ะ


ร้านเชอิลซุกบุลมักชัง (제일숯불막창)


ทางร้านขายทั้งมักชังของวัวและหมู และต้องสั่งตั้งแต่ 3 อย่างขึ้นไปนะคะ เราก็เลยสั่งมักชังเนื้อ 1 ที่และมักชาหมู 2 ที่สำหรับ 2 คนมาทานค่ะ


ร้านเชอิลซุกบุลมักชัง (제일숯불막창)


เครื่องเคียงมีเยอะมาก ๆ ทั้งใบกะหล่ำปลี, ผักกาด, แตงกวา, กระเทียม, และซัมจัง


ร้านเชอิลซุกบุลมักชัง (제일숯불막창)


ความลับของร้านอยู่ที่น้ำจิ้มมักจังที่มีส่วนผสมหลักคือ ทเวนจัง (ถั่วเหลืองหมัก) นั่นเองค่ะ รสชาติจะคล้าย ๆ ซอสเกาหลีแบบดั้งเดิม แต่มีความมันน้อยกว่าและหวานกว่าเล็กน้อย


ร้านเชอิลซุกบุลมักชัง (제일숯불막창)


เพียงแค่ใส่ต้นหอม, พริก, และขึ้นฉ่ายลงในซอสมักจัง ทุกคนก็จะได้น้ำจิ้มที่สมบูรณ์แบบแล้วค่ะ!


ร้านเชอิลซุกบุลมักชัง (제일숯불막창)


ทางด้านซ้ายคือมักชังของวัว และทางด้านขวาคือมักชังของหมูค่ะ



มักชังหมู (150 กรัม) ราคา 10,000 วอน

มักชังหมูสามารถหั่นในแนวนอนให้เป็นวงกลมหรือตัดแนวตั้งให้เป็นทรงแบนสำหรับย่างก็ได้ค่ะ เมื่อย่างจนมักชังเป็นสีน้ำตาลทองตามภาพก็ลงมือทานได้เลย~!



จะจิ้มกับซอสมักชังแล้วทานเลยก็ได้ หรือจะห่อด้วยใบงาก็อร่อยสุด ๆ เลยนะคะ! มักชังที่เคี้ยวหนึบ ๆ พอทานคู่กับซอสรสหวานและเค็ม รวมถึงปรุงรสด้วยต้นหอมและพริกที่มีรสเผ็ดเล็กน้อยก็ออกมาน่าประทับใจมาก ๆ เลยล่ะค่ะ!

ยิ่งถ้าห่อด้วยใบงาแล้วใส่กระเทียมอีกล่ะก็ ให้ 10 คะแนนเลย!



มักชังวัว (150 กรัม) ราคา 15,000 วอน

แน่นอนว่ามักชังวัวแพงและอร่อยกว่ามักชังหมูค่ะ! ย่างเสร็จจนเป็นสีน้ำตาลสวยแล้วก็ลงมือทานได้เลย~



จะกินตรง ๆ หรือจะห่อด้วยใบงาเหมือนมักชังหมูก็ได้นะคะ แต่มักชังวัวจะเค็มและเคี้ยวยากกว่า ซึ่งแน่นอนว่ารสชาติดีกว่าและอร่อยกว่าค่ะ!



3. ร้านอาหารบอดึล (버들식당)


  • ชื่อร้าน: 버들식당
  • ที่อยู่: 대구광역시 달서구 성당1동 118-1 (118-1 Seongdang 1-dong, Dalseo-gu, Daegu)
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 12:00 - 22:00 น. (พัก 15:00 - 17:00 น.)



สถานที่ต่อไปที่เราอยากจะแนะนำก็คือร้านอาหารบอดึล (버들식당) ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของ Duryu Park สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในแทกูนั่นเองค่ะ

ร้านบอดึล (버들식당) คือร้านหม้อไฟกบชัง (곱창) ที่เก่าแก่มาก ๆ เลยนะคะ เปิดครั้งแรกในปี 1967 และยังอยู่ในรายชื่อ 100 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเกาหลีตามกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของเกาหลีอีกด้วยค่ะ



คนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเมื่อมาที่แทกูก็จะต้องแวะทานอาหารที่ร้านนี้มานานกว่า 50 ปีแล้วล่ะค่ะ และแน่นอนว่าอีฮงกิ FT ISLAND และจงฮยอน NU'EST ก็มาที่นี่เพื่อทานอาหารในรายการ Night Elves (밤도깨비) ของ jtbc ปี 2018 ด้วยนะคะ!



เมื่อก้าวผ่านประตูเข้ามาก็จะเห็นห้องสวีทยาว 2 ห้อง แต่ละห้องจะมีโต๊ะ 1 หรือ 2 โต๊ะที่ดูอบอุ่นและนั่งสบายมาก ๆ ตั้งอยู่ค่ะ



เมนูจะแบ่งออกเป็นหม้อไฟและปิ้งย่าง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องหม้อไฟ เราจึงสั่งหม้อไฟอันเป็นเอกลักษณ์ของร้านสำหรับ 2 คนมาทานกันค่ะ



หม้อไฟ 3 คอร์ส (환상의 맛 - 삼합 전골) ราคา 17,000 วอนต่อ 1 คน (250 กรัม)

หม้อไฟมีสีสันน่าดึงดูดมากๆ เลยใช่มั้ยละคะ? แถมยังรายล้อมไปด้วยเครื่องเคียงมากมาย เช่น ยำผักดอง, ถั่วงอก, เค้กปลา, สลัด, มันฝรั่ง, ถั่วลิสง ฯลฯ



เรายังสั่งโซจูมาดื่มด้วยค่ะ เพราะคนเกาหลีมักจะดื่มโซจูเวลากินหม้อไฟรสเผ็ดแบบนี้นั่นเอง! นอกจากนี้ใบงาและเห็ดก็ช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นของหม้อไฟให้ดียิ่งขึ้นด้วยนะคะ



และจุดเด่นของหม้อไฟก็คือ เราสามารถเพลิดเพลินไปกับทั้ง กบชัง, แดชัง, และเนื้อได้ในคราวเดียวค่ะ! รสชาติมีทั้งเผ็ด, เปรี้ยว, เค็ม, และยังมีกลิ่นหอมอีกด้วยนะคะ ยิ่งทานคู่กับโซจูก็ยิ่งอร่อยค่ะ~!



บันบันซารี (반반사리) ราคา 1,000 วอน

หลังจากทานหม้อไฟแล้วก็อย่าลืมสั่งบันบันซารีมาตบท้ายกันนะคะ เมนูนี้จะประกอบไปด้วยเส้นรามยอนและเส้นอุด้งค่ะ!



4. ชุงอังต็อกปกกี (중앙떡볶이)


  • ชื่อร้าน: 중앙떡볶이
  • ที่อยู่: 대구광역시 중구 동성로2가 동성로2길 81 (81 Dongseong-ro 2-gil, Dongseong-ro 2-ga, Jung-gu, Daegu)
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 11:30 - 20:00 น. (ปิดก่อนเวลาเมื่อของหมด)
  • วันหยุด: วันอาทิตย์แรกของเดือน จากนั้นจะหยุดทุก ๆ 10 วัน
  • การเดินทาง: เดินประมาณ 8 นาทีจากทางออก 2 ของสถานี Jungang-ro



ร้านอาหารชุงอังต็อกปกกี (중앙떡볶이) ตั้งอยู่ใน Dongseong-ro ใจกลางเมืองแทกูเลยล่ะค่ะ ทางร้านมีประวัติมานานถึง 30 ปีและเป็นที่รักของชาวเกาหลีจำนวนมากด้วยนะคะ



ในรายการ Top 3 Chef King ของแบคจองวอน นี่เป็นหนึ่งในสามร้านต็อกปกกีที่ดีที่สุดในแทกูค่ะ!



ร้านอาหารยังคงทำต็อกปกกีในร้านแบบดั้งเดิมด้วยนะคะ! ได้บรรยากาศสุด ๆ ไปเลย~



โต๊ะยาว 2 แถว 2 ข้างชิดผนัง ตรงกลางเป็นโต๊ะแยกจำนวนหนึ่ง เนื่องจากร้านไม่ใหญ่มาก การออกแบบโต๊ะยาวจึงช่วยเพิ่มที่นั่งได้มากขึ้นนั่นเองค่ะ



บนกำแพงยังมีลายเซ็นของคนดังเกาหลีหลายคนที่เคยมาทานอาหารที่นี่ด้วยนะคะ



และนี่ก็คือเมนูซิกเนเจอร์ของทานร้านและเป็นอาหารจานโปรดของแบคจองวอนด้วยค่ะ!



ซัลต็อกปกกี (쌀떡볶이) ราคา 4,000 วอน

ซัลต็อกปกกีคือต็อกปกกีที่ทำจากข้าวนั่นเองค่ะ จุดเด่นคือจะเคี้ยวง่ายและอร่อยกว่าต็อกปกกีที่ทำด้วยแป้ง



ซอสของต็อกปกกีที่ชุงอังต็อกปกกีไม่เผ็ดเลยนะคะ ตามที่แบคจองวอนอธิบาย ผงกะหรี่จะถูกเติมลงในเครื่องปรุงรสด้วย ดังนั้นเราจึงรู้สึกว่ามีความหวานมาช่วยลดความเผ็ดของพริกแดงลงนั่นเองค่ะ



เกี๊ยวนับจัก (납작만두) ราคา 4,000 วอน

เกี๊ยวนับจักมีต้นกำเนิดในแทกูค่ะ จุดเด่นคือการทอดเกี๊ยวในน้ำมันโดยต้องเติมน้ำมันให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และแป้งเกี๊ยวยังบางมาก ๆ ด้วยนะคะ



เกี๊ยวเสิร์ฟมาพร้อมกับซอสสุดอร่อย เป็นรสชาติที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวแทกูค่ะ~!



5. ร้านอาหารซูบงบันจอม (수봉반점)


  • ชื่อร้าน: 수봉반점
  • ที่อยู่: 대구광역시 북구 대현2동 321-70 (321-70 Daehyeon 2-dong, Buk-gu, Daegu)
  • เวลาทำการ: วันธรรมดา 11:00 - 15:00 น., วันเสาร์/วันหยุด 10:20 - 15:40 น. (ปิดวันอาทิตย์)
  • การเดินทาง: เดินประมาณ 5 นาที ข้ามสะพานหลังจากออกจากทางออก 4 ของสถานีตลาดชิลซอง (Chilseong)



ซูบงบันจอม (수봉반점) เป็นร้านอาหารอายุ 20 ปีในแทกูที่ปรากฏใน Top 3 Chef King ของแบคจองวอนเช่นกันค่ะ แถมยังเป็น 1 ใน 5 ร้านจัมปงที่ดีที่สุดในแทกูและร้านอาหารจีนที่มีชื่อเสียงที่สุดร้านหนึ่งด้วยนะคะ



เนื่องจากมีคนมารอคิวตลอดเวลา ทกุคนจะได้สั่งอาหารไว้ก่อน จากนั้นก็จะได้รับใบเสร็จที่ระบุเวลาในการเข้าไปในร้านอาหารค่ะ 



เรามาถึงเวลา 13:30 น. หลังจากสั่งอาหารแล้วก็ต้องรอจนกว่าจะ 14:30 น. ถึงจะเข้าไปทานได้ค่ะ เพราะคนเยอะสุด ๆ ไปเลย!

ทุกคนสามารถนั่งรอที่หน้าร้านหรือออกไปที่ไหนสักแห่งแล้วกลับมาในเวลานัดก็ได้นะคะ ข้าง ๆ จะมีตลาดชิลซองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในแทกูตั้งอยู่ จะไปเดินเล่นฆ่าเวลาก็ได้เช่นกันค่ะ~



ภายในร้านไม่ใหญ่มากนัก มีโต๊ะแค่ 7 - 8 โต๊ะเองค่ะ เท่ากับว่าทานได้ครั้งละ 7 - 8 กลุ่มเท่านั้นเอง



เครื่องเคียงง่าย ๆ ได้แก่ หัวไชเท้าดอง, หัวหอม, และน้ำจิ้มหัวหอม ถือเป็นเครื่องเคียงพื้นฐานที่สุดของร้านอาหารจีนในเกาหลีเลยล่ะค่ะ



ข้าวบิบิมบับสไตล์จีน (중화비빔밥) ราคา 8,000 วอน

บิบิมบับสไตล์จีนเป็นอาหารที่หาไม่ได้จากที่อื่นนอกจากแทกูค่ะ ดังนั้นใครที่มาแทกูจะต้องแวะมาให้ได้เลยนะคะ



มาเริ่มกันที่น้ำซุปค่ะ เป็นซุปจัมบงที่มีรสชาติเข้มข้นและเผ็ดร้อน แถมยังเต็มไปอาหารทะเลและผักต่าง ๆ เช่น บวบ หัวหอม และต้นหอมด้วยนะคะ!



ส่วนบิบิมบับแบบจีนจะไม่มีส่วนประกอบเป็นอาหารทะเล แต่จะใช้เนื้อซี่โครงหมูเป็นส่วนผสมหลักแทนค่ะ



เราผสมข้าวกับซอสสีแดง, หัวหอม, และเนื้อสันในหมูเข้าด้วยกันแล้วทานค่ะ และถ้าดูจากสีก็จะต้องรู้สึกว่ามันเผ็ดมากแน่ ๆ ใช่มั้ยละคะ? แต่จริง ๆ แล้วเป็นความเผ็ดที่อยู่ในระดับปกติ แถมยังมีรสหวานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของอาหารจีนด้วยนะคะ



6. ร้านอาหารหมายเลข 8 (8번 식당)


  • ชื่อร้าน: 8번 식당
  • ที่อยู่: 대구광역시 중구 서성로1가 59-1 (59-1 Seoseong-ro 1-ga, Jung-gu, Daegu)
  • เวลาทำการ: วันจันทร์ - วันศุกร์ 08:00 - 24:00 น., วันอาทิตย์ 08:00 - 21:00 น.
  • การเดินทาง: เดินประมาณ 5 นาทีจากทางออก 1 ของสถานีตลาดซอมุน



ร้านอาหารหมายเลข 8 เป็นร้านกุกบับที่มีมายาวนานกว่า 40 ปีในเมืองแทกูค่ะ ร้านอาหารหมายเลข 8 ขายกุกบับหมู แต่เมนูที่มีชื่อเสียงที่สุดของทางร้านก็คือซุนแดกุกบับนั่นเองค่ะ



แม้ว่าจะเป็นร้านอาหารที่เก่าแก่ แต่ก็เพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่เมื่อไม่นานมานี้ค่ะ ดังนั้นภายในร้านจึงเป็นระเบียบและสะอาดมาก ๆ เลยนะคะ



มีลายเซ็นของคนดังเกาหลีจำนวนมากที่เคยแวะมาที่ร้านถูกแขวนไว้บนผนังใกล้กับทางเข้าร้านอาหารด้วยนะคะ



เมนูส่วนใหญ่จะแบ่งเป็นเมนูเนื้อและกุกบับ เราตัดสินใจลองกินซุนแดกุกบับที่มีชื่อเสียงที่สุดของทางร้านค่ะ



เครื่องเคียงเยอะมาก ๆ เลยนะคะ มีทั้งกิมจิ, หัวหอม, พริก, และสลัดค่ะ



ซุนแดกุกบับ (순대국밥) ราคา 8,000 วอน

ซุนแดกุกบับเสิร์ฟมาในชามดินที่ช่วยรักษาความร้อนของอาหารค่ะ นอกจากจะหอมแล้วยังเต็มไปด้วยซุปข้าวและมีต้นหอมมากมายอยู่ด้านบนด้วยนะคะ!



เครื่องปรุงจะมีเกลือ, พริกแดง, และพริกไทยค่ะ ถ้าชอบรสเค็มก็ใส่เกลือได้ หรือถ้าชอบเผ็ดก็ใส่พริกแดง แต่ถ้าอยากให้มีกลิ่นหอมกว่านี้ก็ใส่พริกไทยได้เลยค่ะ



ซุนแดหรือไส้กรอกเลือดชิ้นใหญ่อยู่ใต้น้ำซุปเข้มข้นนะคะ และจุดเด่นของทางร้านก็คือการใช้มักชังที่มีคุณภาพ ทำให้สีของซุนแดเข้มข้นและเคี้ยวหนึบกว่านั่นเองค่ะ นอกจากนี้น้ำซุปก็หวานและไม่มันเยิ้ม ให้คะแนน 10 เต็ม 10 ไปเลยค่ะ!



7. C'est la Vie มิวสิคคาเฟ่ (쎄라비음악다방)


  • ชื่อร้าน: 쎄라비음악다방
  • เวลาทำการ: ปิด
  • ที่อยู่: 대구광역시 중구 성내 2동 쎄라비 ( Seongnae 2-dong, Jung-gu, Daegu)



และที่สุดท้ายที่อยากแนะนำก็คือ C'est la Vie มิวสิคคาเฟ่ (쎄라비음악다방) ที่เป็นสถานที่ถ่ายทำของซีรีส์เรื่อง Love Rain ในปี 2012 นั่นเองค่ะ

ร้านนี้ตั้งขึ้นในปี 1970  และได้รับความนิยมอย่างมากหลังจากซีรีส์ออกอากาศ ดังนั้นมิวสิคคาเฟ่แห่งนี้จึงได้ให้บริการลูกค้ามาตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ



ว่ากันว่าไม่เพียงแต่คนสูงอายุเท่านั้นที่ไปใช้เวลาที่นี่ แต่วัยรุ่นที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศของเกาหลีในยุค 70 และ 80 ก็แวะมาที่ร้านเป็นจำนวนมากเช่นกันค่ะ ล่าสุดซีรีส์เรื่อง Youth of May ก็มาถ่ายทำที่นี่ด้วยนะคะ

อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ในที่สุดร้านก็ต้องปิดตัวลงในเดือนสิงหาคม 2021 ที่ผ่านมาค่ะ โชคดีที่เราแวะไปก่อนที่ร้านจะปิดนะคะ!



C'est la Vie มิวสิคคาเฟ่จะตั้งอยู่บนชั้น 2 ของอาคาร ตั้งแต่ก้าวเข้ามา เราก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศย้อนยุคด้วยโทนสีอบอุ่นและไฟนีออนทันทีเลยล่ะค่ะ



ภายในของ C'est la Vie ค่อนข้างกว้างขวางและมีโทนแสงสีเหลืองเป็นโทนสีหลักค่ะ



โซฟาสีสันสดใสทำให้ทุกคนรู้สึกสบายเหมือนอยู่บ้านเลยใช่มั้ยละคะ?



บนผนังด้านหนึ่งมีภาพถ่ายของเดอะบีทเทิลส์หลายรูปพร้อมลายเซ็นของนักแสดงที่ถ่ายทำซีรีส์เรื่อง Love Rain ด้วยนะคะ



กล่องดนตรีไม่ได้ใช้งานมานานแล้วเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงยังเต็มไปด้วยฝุ่นค่ะ แต่ดู ๆ ไปแล้วก็เก่าแก่ชวนระลึกถึงความหลังมากขึ้นไปอีกใช่มั้ยละคะ?



เนื่องจากเดิมเป็นกองถ่ายซีรีส์ จึงยังมีร่องรอยการถ่ายทำอยู่มากมายเลยละ่ค่ะ



น่าเสียดายที่ร้านต้องปิดตัวลงใช่มั้ยละคะ?   




เป็นยังไงกันบ้างคะกับการพาไปเยี่ยมชมสถานที่ยอดฮิตมากมายตามที่ไอดอลแนะนำในแทกู? มีแต่สถานที่น่าไปเที่ยวทั้งนั้นเลยใช่มั้ยละคะ? ใครที่กำลังวางแพลนมาเกาหลีก็อย่าลืมแวะไปกันด้วยนะคะ~


🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube 

Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand

🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี


ยอดเข้าชมมากที่สุด

ยอดเข้าชมมากที่สุด