เกาหลีผ่านร่างอนุญาตให้สส.พาลูกไปทำงานได้

เกาหลีผ่านร่างอนุญาตให้สส.พาลูกไปทำงานได้หลังสส. ยงฮเยจิน ได้พาลูกวัย 2 เดือนของเธอมายังสภา

피비 @creatrip
4 years ago
เกาหลีผ่านร่างอนุญาตให้สส.พาลูกไปทำงานได้

สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน


#ข่าวเกาหลี

#ร่างกฎหมาย #สส.


หลังจากสส. ยงฮเยจิน ได้พาลูกวัย 2 เดือนของเธอมายังสภาเพื่อเป็นกระตุ้นการเปลี่ยนพระราชบัญญัติเกี่ยวกับเด็กและผู้หญิง ในที่สุดสภาก็ผ่านร่างกฎหมายของเธอที่ระบุอนุญาตให้สมาชิกผู้หญิงสามารถนำลูกเข้ามาในสภาและเข้าร่วมการประชุมแบบเต็มรูปแบบได้


🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube

Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand

🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี


เกาหลีผ่านร่างอนุญาตให้สส.พาลูกไปทำงานได้นักการเมืองหญิงกับรถเข็นเด็กในเกาหลี มุ่งหน้าเข้าไปในรัฐสภาด้วยชุดสูทสีขาว ภาพนี้สะท้อนถึงความพยายามในการบริหารจัดการการทำงานและการเลี้ยงดูลูกให้สามารถทำไปพร้อมๆ กันได้

สส. ยงฮเยจิน
cr: bbc news


หลังจากที่ตัวแทน "ยงฮเยจิน" วัย 31 ปี จากปาร์ตี้ลิสต์ด้านรายได้ขั้นพื้นฐาน พาลูกชายวัย 2 เดือนของเธอมาทำงานในวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งรูปภาพของเธอที่กำลังอุ้มลูกมาที่ทำงานได้ถูกโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียและกลายเป็นกระแสไวรัลที่มีคนให้ความสนใจจำนวนมาก

ในวันดังกล่าว เธอได้จัดงานแถลงข่าวเพื่อเรียกร้องให้มีการผ่านร่างกฎหมายที่เธอเป็นผู้ร่าง ซึ่งระบุให้อนุญาตสส.ทุกคนสามารถพาลูกที่ยังต้องการการดูแลเข้าร่วมการประชุมกับคณะได้ เนื่องจากภายใต้กฎหมายฉบับปัจจุบัน อนุญาตให้เฉพาะสมาชิกสภานิติบัญญัติ, นายกรัฐมนตรี, สมาชิกสภาแห่งรัฐ และผู้ที่ได้รับอนุญาตจากโฆษกสภาเท่านั้น


นักการเมืองหญิงกำลังแถลงข่าวพร้อมกับลูกในอ้อมกอด เธอสวมชุดสูทสีขาวและยืนต่อหน้าไมโครโฟนในรัฐสภาเกาหลี ภาพสะท้อนการส่งเสริมสิทธิสตรีในการมีส่วนร่วมทางการเมือง

สส. ยงฮเยจิ
cr: seoul news


ซึ่งหลังจากที่รูปภาพของเธอกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคม ก็เกิดความเห็นขึ้นมา 2 ฝ่ายด้วยกันคือ ฝ่ายที่เห็นด้วยกับสส.ยง สำหรับการเดินหน้าเพื่อเสริมสร้างสิทธิสตรีในการมีส่วนร่วมทางการเมือง และอีกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย โดยกล่าวว่าเธอพาลูกไปทำงานและเรียกร้องสิทธิพิเศษสำหรับนักการเมือง

ด้านสส.ยงได้กล่าวกับสำนักข่าว The Korea Herald ว่า เธอรู้สึกประหลาดใจสำหรับความสนใจและการโถ้เถียงเกี่ยวกับร่างกฎหมายนี้ เพราะผู้คนกับให้ความสนใจมากกว่าที่เธอคิดไว้ แต่เธอก็คิดว่านี่ถือเป็นโอกาสที่สำคัญ


นักการเมืองหญิงสวมชุดสีน้ำตาลและถือเอกสารยืนที่แท่นแถลงข่าวในเกาหลี การปรากฏตัวของเธอเป็นสัญลักษณ์ของการมีส่วนร่วมในรัฐสภา

สส. ชินโบรา
cr: women news


ร่างกฎหมายฉบับเดียวกันนี้ถูกเสนอครั้งแรกโดยสส. ชินโบรา ในปี 2018 กลับไม่ได้รับความสนใจมากนักในตอนนั้น แต่ครั้งนี้หลังจากการแถลงข่าวของสส.ยุนได้รับความสนใจ เธอสามารถเกลี้ยกล่อมให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 60 คน รวมทั้งหัวหน้าพรรคฝ่ายปกครองและฝ่ายค้านเข้าร่วมในร่างกฎหมายนี้ได้

เธอกล่าวว่าเมื่อเธอขึ้นไปที่ชั้นของผู้นำ ทั้ง 2 คนแสดงการสนับสนุน และเธอก็ไม่เห็นว่าฝ่ายนิติบัญญัติจะมีท่าทีต่อต้านอย่างรุนแรง โดยร่างกฎหมายดูเหมือนว่าจะผ่านในระหว่างการประชุมครั้งที่ 21 แบบที่ไม่ยากมากนัก

ซึ่งสส.ยงได้ปฏิเสธการคาดเดาที่ว่าร่างกฎหมายนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้การปฏิบัติเป็นพิเศษสำหรับนักการเมืองเท่านั้น เธอเชื่อว่าสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมและการมีสิทธิมีเสียงทางการเมืองของสตรีมากกว่า

ภายใต้สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน การเลี้ยงลูกและการทำงานในรัฐสภามีความขัดแย้งกัน ทำให้นักการเมืองที่มีลูกไม่มีสามารถทำงานได้ตามปกติ พวกเธอไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเลือกการดูแลและเลี้ยงดูลูก ซึ่งเหมือนกับการบอกเป็นนัยๆผู้หญิงว่าอย่าเล่นการเมือง


นักการเมืองหญิงในที่ประชุมใหญ่พร้อมด้วยการอุ้มลูก เด็กที่กำลังดื่มนม ความพยายามนี้มุ่งเน้นให้เห็นถึงความจำเป็นในการสนับสนุนการเลี้ยงลูกในระหว่างการทำงาน

cr: bbc news


ในตอนนี้หลายประเทศอนุญาตให้นักการเมืองผู้หญิงสามารถพาลูกไปทำงานได้ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และรัฐสภายุโรป นักการเมืองสามารถเข้าร่วมการประชุมเต็มคณะพร้อมเด็กเล็กและสามารถให้นมลูกได้เช่นกัน

เธอกล่าวว่า ในประเทศเหล่านี้การมีส่วนร่วมทางการเมืองของสตรีสูงขึ้น โดยจากข้อมูลล่าสุดของ OECD ในปี 2019 เปอร์เซ็นต์ของสมาชิกรัฐสภาหญิงในประเทศส่วนใหญ่สูงกว่าเกาหลีใต้

โดยสัดส่วนของนักการเมืองหญิงในสวีเดนและฟินแลนด์คือ 47.3% และ 47% ต่อคน, สเปน ฝรั่งเศส และโปรตุเกส คือ 41.1%, 39.7% และ 35.7% ตามลำดับ ในขณะที่นิวซีแลนด์และออสเตรเลีย สัดส่วนคือ 40% และ 30%


ผู้หญิงเข้าร่วมการประชุมในเกาหลีพร้อมกับลูกซึ่งนั่งที่โต๊ะข้างๆ ภาพสะท้อนถึงความสมดุลระหว่างการทำงานและการดูแลบุตรชายในสภาพแวดล้อมการเมือง

cr: thestar


ในประเทศที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมทางการเมืองมากกว่าอย่างเกาหลีและญี่ปุ่น สัดส่วนของนักการเมืองหญิงอยู่ที่ร้อยละ 17.1 และร้อยละ 10.2 ในแต่ละประเทศ ซึ่งในปี 2017 ญี่ปุ่น นักการเมืองหญิงของญี่ปุ่นรายหนึ่งถูกเพื่อนร่วมงานไล่ออกจากการประชุมเพราะพาลูกมา

แต่เนื่องจากในเกาหลีมีสภาที่ปกครองโดยผู้ชายและสส.ส่วนมากก็เป็นผู้ชาย ทำให้ปัญหาการเลี้ยงลูกของนักการเมืองไม่ถือเป็นปัญหาใหญ่มากนักโดยตอนนี้มีนักการเมืองเพียงสามคนเท่านั้นที่กลายเป็นแม่ในระหว่างดำรงตำแหน่ง


กลุ่มนักการเมืองหญิงเกาหลีที่ยืนอยู่บนแท่นแถลงข่าวพร้อมลูก ๆ ของพวกเธอในงานแถลงข่าว ภาพเน้นถึงความสำคัญของการให้สิทธิสตรีในการมีบทบาททางการเมืองและในครอบครัวอย่างเท่าเทียม

cr: women news


นักการเมืองหญิงคนแรกที่ให้กำเนิดลูกในระหว่างดำรงตำแหน่ง คือ จางฮานา ในปี 2015 และไม่ได้ใช้วันลาสำหรับคลอดบุตร คนต่อมา คือ ชินโบรา ที่ให้กำเนิดลูกในปี 2018 เธอใช้วันลาคลอดไปทั้งหมด 45 วัน และได้ทำการขออนุญาตพาลูกเข้าร่วมการประชุมแบบเต็มรูปแบบ แต่ถูกปฏิเสธโดยวิทยากรที่การประชุม และคนที่ 3 ก็คือ ยงฮเยจิน ผู้ที่ร่างกฎหมายใหม่นี้ โดยเธอใช้วันลาไปทั้งหมด 60 วัน


นักการเมืองหญิงในเกาหลีที่ใช้รถเข็นเด็กเดินผ่านประตูเข้าสู่ห้องประชุมในสภา ภาพนี้แสดงถึงความพยายามที่จะรวมการเลี้ยงดูที่บ้านและการมีบทบาทในงานเข้าด้วยกัน

cr: bbc news


เธอกล่าวเพิ่มเติมว่านักการเมืองหญิงที่มีลูกคนต่อไปจะสามารถลาเพื่อคลอดบุตรได้นานขึ้น เนื่องจากในเกาหลีไม่มีการลาเพื่อคลอดบุตรสำหรับสส. เพราะพวกเขาไม่ถือว่าเป็นพนักงานภายใต้พระราชบัญญัติมาตรฐานแรงงาน แต่ชินและยงสามารถหยุดงานได้เนื่องจากขออนุญาตผู้บรรยายในการประชุม

ในต่างประเทศ นักการเมืองหญิงที่ให้กำเนิดลูกระหว่างดำรงตำแหน่งมีทางเลือกมากขึ้นในการทำงาน เช่น การมอบฉันทะหรือการลงคะแนนเสียงทางไกลนอกเหนือจากการลาเพื่อคลอดบุตร ในขณะที่เกาหลียังคงไม่สามารถทำเช่นนี้ได้และถือว่ายังเป็นเส้นทางอีกยาวไกลในการปรับแก้กฎหมาย

การประชุมของเกาหลียังคงล้าหลังในด้านการนำระบบการลงคะแนนทางอิเล็กทรอนิกส์หรือทางไกลมาใช้ การแต่งตั้งตัวแทนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะรัฐสภาของเกาหลีมี "นักการเมือง" เป็นศูนย์กลางไม่ได้มี "พรรคการเมือง" เป็นศูนย์กลางเหมือนในยุโรป


สามนักการเมืองเกาหลีที่นั่งประชุมด้วยกัน สวมชุดสูท โดยเป็นภาพสะท้อนการเติบโตของนักการเมืองรุ่นใหม่ในเกาหลีที่มีส่วนร่วมในบทสนทนาเกี่ยวกับสิทธิและนโยบายทางสังคม

สส. อายุน้อยของเกาหลี

cr: h21


จากที่กล่าวว่าทั้งหมด สส.ยงได้สรุปว่า เธอเชื่อว่าสภาอนุรักษ์นิยมของประเทศกำลังเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีการโต้เถียงเกี่ยวกับการนำทารกไปเข้าประชุมสภาหรือการลาคลอดของนักการเมืองหญิงเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีว่ารัฐสภากำลังเปลี่ยนแปลงในอนาคต

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเพราะเธอเชื่อว่าคนหนุ่มสาวจำนวนมากมีส่วนร่วมและให้ความสนใจเกี่ยวกับการเมืองมากขึ้น และประเด็นเรื่องการเมืองก็กลายมาเป็นบทสนทนาและการโต้เถียงใหม่ของคนกลุ่มนี้

ปัจจุบัน จากสมาชิกสภานิติบัญญัติ 300 คน สมาชิกสภานิติบัญญัติทั้งหมด 13 คนอยู่ในวัย 20 และ 30 ปี ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศที่มีสมาชิกอายุน้อยรวมอยู่ในสภา ซึ่งนักการเมืองรุ่นเยาว์มักหยิบยกประเด็นเสรีนิยมขึ้นมาพูดมากขึ้น ทั้งในเรื่องของความเท่าเทียมทางเพศ, รายได้พื้นฐาน, สิ่งแวดล้อม และสิทธิสัตว์


นักการเมืองหญิงเกาหลีรับของเล่นจากผู้หญิงอีกคนในขณะที่ลูกน้อยอยู่บนตักภาพนี้แสดงออกถึงความลงตัวระหว่างการทำงานและการเลี้ยงลูก

cr: ohmynews


โดยสส.ยงได้กล่าวเพิ่มเติมว่าเธอกำลังทำการร่างกฎหมายเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ชายในการดูแลเด็ก, ป้องกันการหยุดงานของสตรี, ลดช่องว่างของค่าจ้างที่แตกต่างกันเนื่องจากเพศ และลดภาระของบุคคลในการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร

พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจและโต้เถียงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เธอเชื่อว่าร่างกฎหมายฉบับต่อไปที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงและการเลี้ยงดูบุตรจะได้รับความสนใจมากขึ้นในที่ประชุม


ที่มา: koreaherald



🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube

Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand

🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี