รีวิวคาเฟ่ใกล้ Seoul Forest | Grandpa Factory
พาไปสำรวจคาเฟ่ Grandpa Factory คาเฟ่ใกล้ Seoul Forest ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1,000 ตารางเมตร!
สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#โซลฟอเรสต์ #รีวิวคาเฟ่เกาหลี
#คาเฟ่เกาหลี #เที่ยวเกาหลี
วันนี้เราจะมาพาทุกคนไปสำรวจคาเฟ่ "Grandpa Factory" คาเฟ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Seoul Forest และมีขนาดใหญ่ถึง 1,000 ตารางเมตรกันค่ะ! ไปดูกันดีกว่าว่าคาเฟ่ที่มีพื้นที่ใหญ่ขนาดนี้จะมีเอกลักษณ์อะไรบ้างนะ?
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
รีวิวคาเฟ่ Grandpa Factory
คาเฟ่ Grandpa Factory | ข้อมูล
- ชื่อ: Grandpa Factory (카페 할아버지 공장)
- ที่อยู่: 서울 성동구 성수이로7가길 9 (9, Seongsui-ro 7ga-gil, Seongdong-gu, Seoul)
- เวลาทำการ: ทุกวัน 11:00 - 22:30 น.
คาเฟ่ Grandpa Factory | รีวิว
คาเฟ่ Grandpa Factory ตั้งอยู่บนถนนคาเฟ่ของย่านซองซูดง ไม่ไกลจาก Seoul Forest ค่ะ เจ้าของร้านคาเฟ่อย่าง "ฮงดงฮี" เป็นนักออกแบบตกแต่งภายในและนักศิลปะสถาปัตยกรรมชื่อดังของเกาหลีเลยนะคะ ดังนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไม Grandpa Factory ถึงเปลี่ยนจากโรงงานเก่า ๆ จนกลายเป็นคาเฟ่สุดเก๋ไก๋แบบนี้ได้
ในความเป็นจริง ถนนส่วนใหญ่ในย่านซองซูดงก็ได้กลายเป็นถนนคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยร้านกาแฟที่สวยงามและพื้นที่ทางวัฒนธรรมมากมายเลยล่ะค่ะ และทั้งหมดนี้ก็มาจากความสำเร็จของ "Daelim Changgo" ร้านกาแฟที่ดำเนินการโดยฮงดงฮี ในปี 2013 นั่นเองค่ะ
เมื่อเข้ามาทางประตูไม้ สิ่งแรกที่จะออกมาทักทายทุกคนก็คือต้นไม้สีเขียวแสนสดชื่นนั่นเองค่ะ
รับรองเลยว่าทุกคนจะต้องทึ่งกับพื้นที่กว้างขวางของคาเฟ่แห่งนี้อย่างแน่นอนค่ะ แต่บอกเลยว่าตรงนี้ยังเป็นเพียงแค่พื้นที่ 1 ใน 10 เท่านั้นเองนะคะ! ทุกคนจินตนาการได้มั้ยคะว่าคาเฟ่ Grandpa Factory จะมีขนาดใหญ่เท่าไหนกันนะ?
หลังจากเข้ามาในคาเฟ่แล้ว เคาน์เตอร์สีดำด้านขวามือที่สะดุดตานี้ก็เป็นที่สำหรับสั่งเครื่องดื่มนั่นเองค่ะ!
แน่นอนว่าเมนูขนาดใหญ่บนผนังด้านขวาของเคาน์เตอร์ก็มีทั้งเครื่องดื่มและขนมหวานมากมายให้เลือกสรรเลยนะคะ ซึ่ง Grandpa Factory ก็ไม่ได้มีแค่กาแฟและขนมปังเท่านั้น แต่ยังมีอาหารที่หลากหลายด้วยนะคะ เช่น สลัด, แซนวิช, สเต็ก, และพาสต้า เป็นต้น
ส่วนตรงข้ามเคาน์เตอร์ก็จะเป็นหน้าต่างกระจกที่สูงจากพื้นจรดเพดานและสามารถมองเห็นลานกว้างได้ค่ะ ในวันที่ฝนไม่ตกทางร้านก็จะเปิดหน้าต่างเพื่อให้พื้นที่ภายในร้านเชื่อมต่อกับลานด้านนอกด้วยนะคะ
และด้านในสุดของชั้น 1 ก็จะมีโต๊ะและเก้าอี้หลายตัวจัดวางไว้เพื่อรองรับลูกค้ามากมายเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีโต๊ะไม้ที่นั่งได้หลายคนอยู่ตรงกลางด้วยนะคะ
แม้ว่าโต๊ะเหล่านี้จะเป็นโต๊ะไม้ทั้งหมด แต่ถ้าลองสังเกตดูดี ๆ ก็จะเห็นว่าโต๊ะแต่ละโต๊ะมีสีที่แตกต่างกันไปนะคะ! รวมถึงยังคงมีรูปทรงและสามารถรักษาลายตามธรรมชาติของลำต้นเอาไว้ได้อย่างดีเลยล่ะค่ะ ทำให้โต๊ะแต่ละตัวมีเอกลักษณ์และมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง แถมบรรยากาศก็ยังเข้ากันได้ดีมาก ๆ กับธรรมชาติภายในร้านด้วยนะคะ!
แน่นอนว่าของต่าง ๆ ที่ใช้ตกแต่งภายในร้าน เช่น เครื่องเล่นแผ่นเสียง, โคมไฟ, และกระจกบานใหญ่ ก็ทำให้คาเฟ่แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ
และความเก๋อีกอย่างก็คือตรงบันไดทางขึ้นชั้น 2 ก็มีการออกแบบให้เป็นที่นั่งด้วยนะคะ! ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าทุกสัดส่วนจริง ๆ ค่ะ
และเมื่อขึ้นบันไดมาจนถึงชั้น 2 ก็จะพบกับพื้นที่ที่ใช้สำหรับแสดงผลงานศิลปะต่าง ๆ ค่ะ มีงานศิลปะมากมายราวกับกำลังอยู่ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่เลยล่ะค่ะ!
แม้รูปร่างและเลย์เอาต์ของโต๊ะจะคล้ายกับชั้นแรก แต่ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือผนังบนชั้น 2 จะเต็มไปด้วยงานศิลปะมากมายเลยล่ะค่ะ!
นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดแสดงต่าง ๆ เช่น ภาพวาด, งานภาพถ่าย, และงานศิลปะด้วยนะคะ แทนที่จะใช้จอทีวีแบบทันสมัย ทางคาเฟ่ก็เลือกที่จะตกแต่งพื้นที่ด้วยผลงานของศิลปินหลาย ๆ คนเป็นระยะ ๆ แทนค่ะ
รู้สึกเหมือนเรามั้ยคะว่าเจ้าของคาเฟ่ถือเป็นศิลปินที่พยายามจะสร้างพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนรักศิลปะอย่างหนักเลยทีเดียว แล้วแบบนี้ทุกคนจะพลาดได้เหรอคะ?
มีห้องเล็ก ๆ อยู่ตรงหัวมุมของชั้น 2 ด้วยนะคะ
ห้องนี้เป็นห้องขนาดเล็กที่มีโต๊ะไม้ยาวสองโต๊ะ เหมาะสำหรับการมาเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ หรือปาร์ตี้สุด ๆ!
และแน่นอนว่าผนังทั้งสองข้างภายในห้องก็เต็มไปด้วยผลงานศิลปะที่น่าทึ่งมากมายเลยล่ะค่ะ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ชมงานศิลปะท่ามกลางทิวทัศน์ธรรมชาติที่สดใสข้างนอกแล้วใช่มั้ยคะ!
และหากขึ้นบันไดหน้าห้องเล็กบนชั้น 2 ไปก็จะเจอกับดาดฟ้าค่ะ
เพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซปต์โดยรวมของคาเฟ่ โครงพื้นและระเบียงก็ทำจากไม้จริง ๆ นะคะ แถมเถาวัลย์บนโครงไม้ก็สวยมาก ๆ เลยล่ะค่ะ!
ยิ่งถ้าใครที่มาในเดือนมิถุนายนก็จะเจอกับดอกไฮเดรนเยียที่บานเต็มที่ด้วยนะคะ! ดอกไฮเดรนเยียสีน้ำเงินที่มีสีม่วงแซมเล็กน้อยทำให้พื้นที่บนดาดฟ้าสวยงามและสดชื่นยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าเลยล่ะค่ะ!
นอกจากนี้ก็ยังมีที่นั่งมากมายบนดาดฟ้าเลยล่ะค่ะ ดังนั้นถ้ามาในวันที่อากาศดี ๆ ก็อย่าลืมขึ้นมาผ่อนคลายบนดาดฟ้ากันนะคะ!
และพื้นที่สุดท้ายที่เราอยากจะแนะนำคือสวนค่ะ! ภายในคาเฟ่มีสวนเล็ก ๆ อยู่ด้วยนะคะ รู้สึกเหมือนเป็นสวนแห่งความลับที่รายล้อมไปด้วยอาคารต่าง ๆ เลยล่ะค่ะ!
ภายในสวนของคาเฟ่ Grandpa Factory มีทั้งโต๊ะ, เก้าอี้ไม้, และเก้าอี้เหล็กหลากสี ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเทพนิยายเลยล่ะค่ะ
และเมื่อมองขึ้นไปก็จะเจอกับบ้านต้นไม้หลังเล็ก ๆ อยู่ท่ามกลางสวนด้วยนะคะ! ถือเป็นสัญลักษณ์ของคาเฟ่ Grandpa Factory เลยทีเดียวค่ะ!
และที่สำคัญที่สุดก็คือซีรีส์ Vincenzo ก็มาถ่ายทำที่นี่เช่นกันค่ะ! และตรงนี้ก็คือที่ที่วินเชนโซ (ซงจุงกิ) และฮงชายองนั่งทานกาแฟกันนั่นเอง
แน่นอนว่าเรามาที่นี่เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ดังนั้นเราจึงสั่งแซนวิชกุ้งกัวคาโมเล่และ Cold Brew Dirty Einspener ค่ะ ซึ่งทั้งสองก็เป็นเมนูยอดนิยมของที่นี่เลยนะคะ
Cold Brew Dirty Einspener (콜드브루 더티 아인슈페너) ราคา 8,000 วอน
ต้องบอกเลยว่านี่เป็นเมนูที่น่าค้นหาสุด ๆ ไปเลยล่ะค่ะ อเมริกาโน่เย็นที่ราดด้วยครีมและผงโกโก้ด้านบนก็มีเอกลักษณ์มาก ๆ และเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิด "Dirty (สกปรก)" ของ Einspener น้ำเชื่อมช็อกโกแลตจึงถูกเทมั่ว ๆ ที่ด้านข้างของแก้วนั่นเองค่ะ!
ตอนแรกเราคิดว่าเมนูนี้น่าจะมีรสหวานจากไซรัปช็อกโกแลตและครีม แต่จริง ๆ แล้วมันไม่หวานอย่างที่คิดเลยค่ะ! เนื่องจากน้ำเชื่อมช็อกโกแลตมีรสขมเหมือนดาร์กช็อกโกแลต จึงเข้ากันได้ดีมาก ๆ กับครีมรสหวานค่ะ แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูงไปหน่อย
แซนวิชกัวคาโมเล่กุ้ง (쉬림프 과카몰리 샌드위치) ราคา 17,000 วอน
และเมนูนี้ก็คือแซนวิชแบบเปิดที่มีไส้หลากหลาย เช่น กัวคาโมเล่, ไข่, หัวหอม, มะเขือเทศ, กุ้ง, และผัก วางบนขนมปังหนา ๆ นั่นเองค่ะ ทั้งตกแต่งได้อย่างสวยงามและดูน่าอร่อยมาก ๆ เลยใช่มั้ยล่ะคะ?
พอใช้มีดหั่นแซนวิชเป็นชิ้นพอดีคำแล้วตักส่วนผสมทุกอย่างมาลองชิมในคำเดียวก็บอกเลยว่าอร่อยสุด ๆ! แต่เครื่องปรุงรสไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไหร่นะคะ ดังนั้น สำหรับใครที่ชอบรสเค็มก็อาจจะผิดหวังนิดหน่อย แต่เราพอใจกับจานนี้มาก ๆ เลยล่ะค่ะ
คาเฟ่ Grandpa Factory | การเดินทาง
ใช้ทางออก 3 ของสถานีซองซู (สาย 2) ได้เลยค่ะ
จากนั้นให้เดินมาทางซ้ายของประตู 3 เล็กน้อย ก็จะเจอกับซอยแรกอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
เดินตรงไปเรื่อย ๆ บนถนนคาเฟ่ของย่านซองซูดงได้เลยค่ะ
เดินอีกประมาณ 5 นาที ก็จะเจอกับคาเฟ่ Grandpa Factory อยู่ทางขวามือของถนนค่ะ!
เป็นยังไงกันบ้างคะกับรีวิวคาเฟ่ "Grandpa Factory" คาเฟ่ใกล้ Seoul Forest ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1,000 ตารางเมตร! เห็นแบบนี้แล้วก็อยากจะไปเดินเล่นพักผ่อนสบาย ๆ ซักครั้งเลยใช่มั้ยละคะ? สำหรับใครที่มีแพลนจะไปแถว ๆ Seoul Forest ก็อย่าลืมแวะไปคาเฟ่ Grandpa Factory ด้วยนะคะ~
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand