สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน

#เที่ยวเกาหลี #คาเฟ่เกาหลี

#สีม่วง #สถานที่ห้ามพลาด #โซล

เกาหลีเป็นประเทศที่มีร้านคาเฟ่เยอะมากๆ เรียกได้ว่าทุกหัวมุมถนนต้องเจอคาเฟ่อย่างน้อย 1 ร้าน แต่จะไปแต่คาเฟ่ธรรมดาก็อาจน่าเบื่อสำหรับบางคน ลองมาเที่ยวแบบมีธีมดูเป็นยังไงคะ?

เรารวบรวมเอาร้านคาเฟ่สีม่วงยอดฮิตในหมู่คนเกาหลีมาฝากกัน มาเที่ยวครั้งหน้าไม่ว่าจะกับเพื่อน, แฟนหรือแม้แต่ครอบครัว รับรองสนุกและถ่ายรูปเพลินอย่างแน่นอนค่ะ เตรียมเสื้อผ้าสีม่วงให้เข้ากับบรรยากาศมากันให้พร้อมนะคะทุกคน~  

🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube 

✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand

🎈ตามรอยไอดอล

ตะลุยเที่ยวคาเฟ่สีม่วงในโซล

Cafe Monstercat (요괴냥수비대)

ร้านแรกที่เราจะแนะนำให้ทุกคนรู้จักกันนี้มีชื่อว่า 요괴냥수비대 หรือ Cafe Monstercat ที่กำลังเป็นกระแสในหมู่วัยรุ่นเกาหลีตอนนี้เลยค่ะ! ซึ่งร้านตั้งอยู่ในย่านสุดฮิตอย่างฮงแด เดินเพียงประมาณ 9 จากทางออก 9 ของสถานีฮงแดเท่านั้นค่ะ

โดยเจ้าของร้านก็คือ คุณควักโทริ เจ้าของช่องยูทูป 곽토리 (kwak tori) ผู้ที่ชื่นชอบสีม่วงและสไตล์ที่หวานปนน่ารักแนวคาวิอี้ ซึ่งสะท้อนและสื่อออกมาผ่านคาเฟ่ได้เป็นอย่างดี

สำหรับสายหวานและผู้ที่ชื่นชอบสีม่วง เข้ามาที่ร้านนี้แล้วจะต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน เพราะที่ร้านตกแต่งด้วยเครื่องประดับและของสีม่วงน่ารักๆเต็มไปหมดเลยละค่ะ แถมยังมีของที่เป็นรูปแมวจำนวนมากอีกด้วยนะคะ เพราะเจ้าของร้านก็เป็นทาสแมวเช่นกันค่ะ 

เมนูของร้านสามารถดูได้จากที่หน้าเคาท์เตอร์เลยค่ะ โดยจะมีป้ายแปะไว้พร้อมอธิบายส่วนผสมของแต่ละเครื่องดื่มค่ะ ต้องขอบอกก่อนว่าร้านนี้ไม่มีขนมหวานนะคะ มีแต่เมนูเครื่องดื่มให้เลือกกันเท่านั้นค่ะ 

ระหว่างที่รอเครื่องดื่มเราก็แวะไปดูสินค้าที่วางขายอยู่ภายในร้านค่ะ สำหรับคนที่ชอบสติ๊กเกอร์หรือว่าเป็นทาสแมวจะต้องมีเสียเงินกันอย่างแน่นอนค่ะ เพราะว่าของแต่ละอย่างน่ารักมากๆเลย แถมราคาก็ไม่แพงมากด้วยค่ะ

ด้วยความที่เป็นคนชอบสีม่วงเลยรู้สึกเพลิดเพลินกับการมาคาเฟ่แห่งนี้มากๆค่ะ เพราะไม่ว่าเครื่องประดับอะไรที่ทางร้านได้จัดวางก็มีความน่ารักและเข้ากันกับธีมของร้านเป็นอย่างมากค่ะ

ที่ร้านมีขนาดไม่กว้างมากนัก จึงมีที่นั่งไม่เยอะและรองรับคนได้จำนวนไม่มากเท่าไหร่ค่ะ และอย่างที่เราบอกไปว่าร้านเปิดเพียงแค่ 4 วันต่ออาทิตย์ ฉะนั้นคนจึงเยอะมากๆ ขนาดเราเดินทางไปในช่วงวันธรรมดาตอนบ่ายแก่ๆ คนยังแน่นร้านแล้วเลยค่ะ เหลือเพียงแค่โต๊ะ 2 ตัวตามภาพข้างบนเท่านั้น

สไตล์ของร้านจะมีความน่ารักกุ๊กกิ๊กและจัดด้วยโทนสีพลาสเทล ส่วนโต๊ะที่นั่งก็จะมีแนวที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละโซนของร้านค่ะ ทั้งโต๊ะแนวหรูหรา, โต๊ะพร้อมเกาหลีแบบเรียบง่ายไปจนถึงโซฟาค่ะ

นั่งรอไม่นานเครื่องดื่มของเราก็ได้แล้วค่ะ ทางร้านจะไม่มีเครื่องสั่นเตือนให้เหมือนบางคาเฟ่นะคะ แต่ทางเจ้าของร้านจะเป็นผู้ขานหมายเลขออเดอร์ของเราเองค่ะ ฉะนั้นตั้งใจฟังกันให้ดีด้วยนะคะ~ โดยเรากับเพื่อนได้สั่งเมนูแนะนำของทางร้านไปคือ ลาเวนเดอร์ โยเกิร์ต สมูตตี้ (7,200 วอน) และจัสมิน เกรปฟรุ๊ต โซดา (6,500 วอน)

เครื่องดื่มของที่ร้านน่ารักมากจริงๆค่ะ แถมยังถ่ายลงโซเชียลสวยอีกด้วย ที่สำคัญรสชาติดีด้วยนะคะ ไม่ใช่น่ารักอย่างเดียวค่ะ แต่ลาเวนเดอร์ โยเกิร์ต สมูตตี้ไม่ค่อยได้กลิ่นของลาเวนเดอร์ เหมือนทานโยเกิร์ตสมูตตี้เฉยๆค่ะ

ที่ร้านมีที่นั่งด้านนอกเช่นกันสำหรับคนที่อยากนั่งชิลรับลมธรรมชาติ โดยมี 2 ส่วนด้วยกันคือส่วนที่เป็นโซฟาและส่วนที่เป็นเก้าอี้น้องหอย เก้าอี้น้องหอยแอบนั่งไม่สบายค่ะ แต่มีกระจกที่คนเกาหลีนิยมถ่ายรูปอัพไอจีกัน ฉะนั้นแวะมาถ่ายรูปกันนะคะ

แน่นอนว่ามีกระจกที่ตรงไหนของคาเฟ่ ตรงนั้นจะเป็นมุมถ่ายรูปไปทันตาค่ะ คนเกาหลีนิยมถ่ายให้ติดป้ายน้องแมว 5 ตัวที่เป็นสัญลักษณ์ของทางร้าน ถือเป็นอีกหนึ่งมุม A MUST ที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ

และมุมสุดท้ายแน่นอนว่าจะเป็นมุมไหนไปไม่ได้นอกจากป้ายน้องแมวที่สีม่วงพลาสเทลที่บริเวณหน้าร้านค่ะ เป็นมุมเช็คอินของทุกคนที่เดินทางมาที่ร้านนี้จริงๆค่ะ หากใครได้ไปเสิร์ชคนเกาหลีที่ลงรูปตอนเดินทางมาที่ร้านนี้ละก็ ต้องเจอรูปมุมนี้เยอะมากๆแน่นอน ไม่ว่าจะถ่ายกับป้ายหรือแม้แต่นำเครื่องดื่มมาถ่ายอย่างเดียวก็ตาม 

กระซิบว่าถ้านั่งทานในร้าน ทางร้านจะไม่ใส่แก้วกระดาษสีม่วงให้นะคะ เป็นการลดโลกร้อนค่ะ ถ้าใครมาในช่วงกลางคืนป้ายจะเปิดไฟและกลายเป็นสีม่วงทั้งหมด ได้บรรยากาศและความสนุกในการถ่ายรูปไปอีกแบบ ฉะนั้นอย่าพลาดรอร้านเปิดไฟกันด้วยนะคะ

สุดท้ายแล้วสำหรับคนที่ชอบซื้อเครื่องเขียนหรือของกระจุกกระจิก ก็สามารถแวะดูสินค้าที่ร้านข้างๆ "UNIPOPCORN" กันได้นะคะ เพราะร้านนี้เจ้าของก็คือเจ้าของเดียวกันกับคาเฟ่ค่ะ

ข้อมูลร้าน

ที่อยู่: 서울 마포구 홍익로 13-12

เวลาเปิดบริการ: พฤหัส, ศุกร์, เสาร์และอาทิตย์ 13.00-20.00 น.

วิธีเดินทาง: สถานีฮงแด (홍대입구역) ทางออก 9 เดินประมาณ 9 นาที

Instagram: https://www.instagram.com/cafe_monstercat

Cafe Be Purple (카페 비퍼플)

เมื่อพูดถึงคาเฟ่สีม่วงในโซลจะไม่มีร้านนี้ไปไม่ได้เลย "Be Purple" แค่ชื่อร้านก็บอกแล้วใช่มั้ยคะว่าสีม่วงมาแน่นอน~ คาเฟ่แห่งนี้เป็นที่แรกที่ขึ้นมาเลยละค่ะ หากลองเสิร์ชหาคาเฟ่สีม่วงใน NAVER 

ร้านนี้มีทั้งขนมหวานและเครื่องดื่มหลากหลายให้ได้เลือกทานกันค่ะ ที่สำคัญมีขนาดที่ใหญ่และมีที่นั่งให้นั่งเยอะมากๆค่ะ เดินทางมากับเพื่อนหรือครอบครัวกลุ่มใหญ่ๆก็สามารถหาที่นั่งในร้านนี้กันได้

โดยเมนูซิกเนเจอร์ของที่ร้านคือ ครีมคาเฟ่มอคค่า ซึ่งเป็นสีม่วงค่ะ แต่เสียดายที่ตอนเราไป sold out ไปซะก่อนเลยอดสั่งกันค่ะ ที่ร้านนี้หากสั่งแบบ take out จะได้ส่วนลดด้วยนะคะ แก้วละ 500 วอนค่ะ 

ที่ร้านมีมุมตกแต่งน่ารักๆเยอะมากๆเลยละค่ะ อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นอีกหนึ่งไอเดียในการแต่งห้องค่ะ เพราะเทรนด์การแปะะภาพแบบนี้กำลังเป็นที่นิยมในเกาหลีมากๆ ทั้งสวยงามและทำให้ห้องดูมีสีสันอีกด้วยค่ะ 

ตามชื่อร้าน Be Purple ทุกอย่างในร้านเต็มไปด้วยสีม่วงแม้กระทั่งเก้าอี้เลยละค่ะ สำหรับคนที่สั่งอาหารด้วยหรือสั่งหลายเมนู ทางร้านจะนำใส่รถเข็นสีม่วงมาเสิร์ฟให้ ซั่งเป็นอะไรที่น่ารักมากๆ ใครที่มาพร้อมกันกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ เราขอแนะนำร้านนี้มากๆค่ะ

ร้านมีขนาดที่ใหญ่และกว้างมากๆ สามารถเลือกที่นั่งตามสไตล์ที่ชื่นชอบได้เลยค่ะ แล้วไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่นั่งด้วยนะคะ เพราะโต๊ะเยอะมากจริงๆค่ะ 

ตรงนี้ถือเป็นมุมถ่ายรูปของที่ร้านเลยค่ะ (เหมือนกับที่ร้านจัดเก้าอี้ไว้ให้ถ่ายเลย) ถ่ายรูปพร้อมกับพื้นหลังสีชมพูม่วง ใครที่แต่งตัวมาในธีมแบบหวานๆ เข้ากับมุมนี้ที่สุดเลยละค่ะ แถมถ่ายออกมาดูน่ารักอีกด้วยนะคะ เพราะแสงไฟรวมถึงการแต่งโต๊ะที่น่ารักพร้อมดอกไม้

บางคนอาจจะสงสัยว่ารูปข้างๆคือรูปอะไรกันนะ นี่คือภาพโพลารอยที่ทางเจ้าของถ่ายไว้นั่นเองค่ะ ทั้งภาพคน, ขนมและบรรยากาศของร้าน จริงๆมีภาพคนหลายคนเลยนะคะ แต่เราก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าใช่คนดังรึเปล่า ใครที่แวะไปแล้วเจอภาพคนดังก็อย่าลืมมาบอกกันหน่อยนะคะ~

ที่ร้านมีมุมที่นั่งที่เป็นโซฟาเยอะมากๆ ใครที่เหนื่อยกับการเที่ยวหรืออยากหาที่นั่งพักสบายๆแบบชิลๆละก็ เราว่าที่ร้านนี้ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกันนะคะ

ไม่นานเมนูที่เราสั่งมาทั้งหมดก็มาเสิร์ฟแล้วค่ะ โดยเราสั่งไป 3 อย่างด้วยกันได้แก่ เมนูซีซั่นนอลของทางร้าน สตรอว์เบอร์รี่ลาเต้, ครอฟเฟิลสตรอว์เบอร์รี่และเมนูที่ร้านแนะนำกาแฟนมลาเต้ค่ะ

ครอฟเฟิลถือว่าเป็นขนมหวานที่กำลังได้รับความนิยมมากในเกาหลีตอนนี้ค่ะ ฉะนั้นเราก็ไม่พลาดที่จะสั่งกันมา ครอฟเฟิลเสิร์ฟมาแบบร้อนๆ ทำให้ตัวขนมมีความกรอบที่ด้านนอกและนุ่มที่ด้านในค่ะ ทานแล้วฟินมากๆ ยิ่งทานกับครีมและสตรอว์เบอร์รี่สดยิ่งเป็นอะไรที่ลงตัว ที่สำคัญตัวครีมสดไม่หวานจนเกินไปทำให้ทานแล้วไม่เลี่ยนค่ะ

ต่อมาก็มาที่เครื่องดื่มกันบ้าง กาแฟนมลาเต้ของที่ร้านมีความหอมของกาแฟ, ขมกำลังดีและไม่หวานมากค่ะ ทานกับขนมหวานก็เลิศนะคะ ส่วนสตรอว์เบอร์รี่ลาเต้ก็อร่อยมากๆ เพราะทางร้านใช้สตรอว์เบอร์รี่ทั้งที่เป็นสตรอว์เบอร์รี่สดและแยมทำให้ได้ทั้งรสชาติหวานและเปรี้ยวอย่างลงตัวเลยค่ะ 

ก่อนที่จะกลับกันก็อย่าพลาดแวะถ่ายรูปกับมุมซิกเนเจอร์ของทางร้านพร้อมกับป้ายไฟ Be Purple ตรงนี้นะคะ ถือเป็นมุมเช็คอินของทุกคนต้องถ่ายจริงๆค่ะ ที่ร้านจัดเอาไว้ได้น่ารักมากๆ โดยมีผนังเป็นใบไม้สีเขียวตัดกับสีม่วงจากเครื่องประดับรอบๆ ถ่ายออกมายังไงก็สวยค่ะไม่ว่าจะแนวตั้งหรือแนวนอนก็ตาม

ใครที่อยากหา reference ในการตกแต่งห้องละก็ เราว่าการตกแต่งของที่ร้านนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ เพราะจัดวางได้อย่างลงตัวและไม่รกจนเกินไปค่ะ ที่สำคัญถ่ายรูปสวยอีกด้วย  

ใครที่อยากนั่งแบบเป็นส่วนตัวและมากัน 2 คนก็สามารถเข้ามานั่งกันในมุมนี้ได้เลย เป็นโต๊ะที่จัดวางไว้อยู่ด้านหลังผ้าม่านค่ะ ที่สำคัญมีมุมกระจกให้ถ่ายรูปแบบอาร์ตๆอีกด้วย

ถ้าหากมาเป็นกลุ่มใหญ่ก็สามารถเข้าไปนั่งในห้องนี้ได้เช่นกันนะคะ พอดีว่าตอนที่เราไปมีคนนั่งอยู่เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากกัน ยังไงหากหาคาเฟ่ที่มีธีมที่โดดเด่นสำหรับนั่งชิลอย่าลืมเก็บร้านนี้ไว้ในลิสต์นะคะ

ข้อมูลร้าน

ที่อยู่: 서울 은평구 통일로 633

เวลาเปิดบริการ: วันธรรมดา 10.00-22.00 น./ วันเสาร์-อาทิตย์ 11.00-22.00 น.

วิธีเดินทาง: สถานีนกบอน (녹번역) ทางออก 5 เดินประมาณ 5 นาที

Instagram: https://www.instagram.com/bepurple_cafe

Tape (테이프)

ร้านสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำกันนี้มีชื่อว่า Tape ค่ะ ตั้งอยู่ในย่านอิแทวอน มั่นใจว่าหลายคนที่ค้นหาคาเฟ่ในเกาหลีต้องเคยเห็นภาพขนมของที่ร้านนี้กันอย่างแน่นอน....

สำหรับคนที่ชอบงานศิลปะให้คอยติดตามโซเชียลมีเดียของทางร้านไว้ให้ดีนะคะ เพราะทางร้านจะอัพเดทว่ามีการจัดแสดงงานอาร์ตช่วงไหนค่ะ ทุกคนสามารถเข้ามาชมรูปภาพงานศิลปะกันได้ฟรีเลย ไม่เพียงเท่านั้นยังมีเครื่องเขียนหรืองานอาร์ตต่างๆให้ได้เลือกซื้อกันด้วยนะคะ อย่างตอนที่เราไปก็มีแมคกาซีนรวบรวมงานศิลปะแจกฟรีด้วยเช่นกันค่ะ สามารถหยิบกลับกันได้เลย

คาเฟ่แห่งนี้มีขนาดที่ไม่กว้างมากนักแต่มีที่นั่งให้นั่งเยอะพอสมควรเลยละค่ะ แถมยังมีบริเวณดาดฟ้าให้ขึ้นไปชมวิวอิแทวอนกันด้วยนะคะ เสียดายที่ตอนเราไปบริเวณดาดฟ้าปิดให้บริการอยู่ค่ะ เลยไม่ได้เก็บบรรยากาศมาให้ชมกัน สำหรับใครที่อยากชมบรรยากาศสวยๆจากดาดฟ้าของร้านนี้ก็สามารถเข้าไปดูกันที่ IG ของทางร้านได้เลยนะคะ 

ที่ร้านตกแต่งด้วยความเรียบร้อยและเน้นการใช้สีแบบโฮโลแกรมเพิ่มความสนุกในการถ่ายรูป เพราะจะทำให้สีแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแสงด้านนอกร้านรวมกับแสงของในร้าน บวกกันมุมและองศาในการถ่ายภาพค่ะ

เห็นภาพเค้กของที่ร้านแล้วเริ่มคุ้นกันรึยังคะ เพราะหากพูดถึงคาเฟ่ย่านอิแทวอนที่มีธีมพิเศษๆ ร้าน TAPE แห่งนี้จะต้องติดอันดับอย่างแน่นอนค่ะ พร้อมกับเค้กในธีมกาแลกซี่

ที่ร้านมีเมนูเครื่องดื่มที่ค่อนข้างหลากหลายให้เลือกเช่นกันค่ะ โดยมีทั้งเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟและไม่มี รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ค่ะ หากมาในช่วงที่ดาดฟ้าเปิดให้บริการ จิบเบียร์เย็นๆในยามกลางคืน พร้อมชมวิวอิแทวอนในบรรยากาศเอาท์ดอร์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะคะ

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ร้านได้รับความนิยมก็คือผนังไฟ LED สีม่วงค่ะ ที่ทางร้านจะเริ่มเปิดในช่วงตอนบ่ายแก่ๆ นะคะ หากคนที่อยากเดินทางไปที่ร้านเผื่อไปถ่ายกับมุมผนังยอดฮิตนี้ก็แนะนำให้ไปในช่วงบ่ายแกหรือไม่ก็เป็นตอนเย็นไปเลยนะคะ จะได้ถ่ายภาพออกมาสวยค่ะ โดยมุมและโต๊ะยอดฮิตก็คือโต๊ะริมสุดติดกระจกในภาพที่เราถ่ายมาฝากกันเลยค่ะ ถ่ายภาพมุมนี้ได้ทั้งบรรยากาศแบบชิคๆผสมกับความอาร์ตที่ลงตัวมาก

และแล้วเมนูที่พวกเราสั่งไปก็มาแล้วค่ะ~~ โดยเราสั่งเค้กยอดนิยมของทางร้าน สตรอว์เบอร์รี่ชีสเค้ก (สีฟ้า) และเค้กฮาเซลนัทช็อกโกแลตค่ะ ส่วนเครื่องดื่มเราก็ให้ทางร้านแนะนำ ซึ่งร้านแนะนำเป็นชาเขียวและชาทรอปปิคอลฟรุ๊ตให้กับเราค่ะ (ทางร้านให้สั่งเครื่องดื่มอย่างน้อยคนละ 1 เมนูนะคะ)

สำหรับชาเขียวก็อร่อยตามมาตรฐานชาเขียวลาเต้ค่ะ แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบหวานอาจจะต้องบอกให้ทางร้านลดหวานหรือสั่งเป็นเครื่องดื่มอื่นแทนนะคะ เพราะเพื่อนเราไม่ทานหวานทานแล้วบอกว่าหวานไป สำหรับเราคืออร่อยค่ะ   ส่วนชาทรอปปิคคอลฟรุ๊ต มีความหอมกลิ่นผลไม้อ่อนๆและอมเปรี้ยวเล็กน้อย ทานกับขนมหวานและตัดความเลี่ยนได้ดีเลยค่ะ

เค้กอย่างแรกที่เราลองทานกันค่ะ ฮาเซลนัทช็อกโกแลต ใครที่นึกรสชาติไม่ออกให้นึกถึงรสชาติของช็อกโกแลตเฟอร์เรโร่ไว้ค่ะ อร่อย~~ รสชาติของช็อคโกแลตเข้มข้น มาพร้อมกับถั่วฮาเซลนัทที่เพิ่มความกรุบกรอบเบาๆและกลิ่นที่หอมของถั่ว ทานเข้ากันกับชีสเค้กเลเยอร์เล็กๆ เป็นอะไรที่ดีงามมากๆค่ะ เราแนะนำให้สั่งมากๆ แต่ของบอกก่อนนะคะว่าเค้กของทางร้านจะมีความเป็นมูสนิดๆค่ะ ถูกใจเรามากๆ นุ่มละมุน~

อีกตัวหนึ่งก็คือสตรอว์เบอร์รี่ชีสเค้กที่เป็น A MUST ของทางร้านและคนนิยมสั่งกันมากๆเพราะรูปลักษณ์ที่น่ารัก จริงๆแล้วที่เราเห็นมาในโซเชียลคือเป็นสีม่วงนะคะ แต่ตอนที่เราไปน้องเป็นสีฟ้าค่ะ ใจคนที่ชอบสีม่วงก็จะเฟลๆเล็กน้อย...   แต่หลังจากที่ได้ลองชิมความเฟลก็จางหายไปทันควันค่ะ 

เพราะตัวชีสเค้กมีความเนียนนุ่มจนเหมือนกับมูสเลยละค่ะ เป็นชีสที่กลิ่นหอม ทานเข้ากันกับตัวแคร็คเกอร์ด้านล่างและสตรอว์เบอร์รี่เข้ากันแบบเลิฟเลยค่ะ แต่หลังจากเราทานเสร็จทางร้านก็เอาเค้กล็อตใหม่ออกมาซึ่งเป็นน้องสีม่วงค่ะ ร้องไห้แล้วนะ...  

ใครที่หามุมถ่ายรูปของที่ร้านอย่าพลาดเลือกโต๊ะเดียวกับที่เรานั่งนะคะ เพราะเป็นมุมที่คนเกาหลีนิยมถ่ายกันมากๆ เพราะสามารถเห็นพื้นหลังสีม่วงรวมถึงผนังปูนเปลือย ส่วนสายอาร์ตก็ห้ามพลาดมุมกระจกตรงนี้นะคะ อัพลงไอจีสตอรี่คือดีค่ะ

หากมีแพลนเดินทางมาที่ร้านนี้เราแนะนำให้มาในช่วงที่พระอาทิตย์ตกดินแล้วนะคะ เพราะผนัง LED ที่เปิดไฟสีม่วงจะมองเห็นเป็นสีม่วงชัดมากกว่าตอนที่ยังมีแสงแดดส่องเข้ามาจากด้านนอกค่ะ แถมม่วงโทนสวยกว่าอีกด้วยค่ะ ถ้าแสงส่องเข้ามาและถ่ายรูป ผนังจะกลายเป็นสีชมพูได้ค่ะ (จากใจคนเลิฟสีม่วง...  )

ข้อมูลร้าน

ที่อยู่: 서울 용산구 이태원로14길 21 2층 TAPE

เวลาเปิดบริการ: ทุกวัน 12:00 - 22:00 น.

วิธีเดินทาง: สถานีอิแทวอน (이태원역) ทางออก 4 เดินประมาณ 7 นาที

Instagram: https://www.instagram.com/tapeseoul

เป็นยังไงบ้างคะกับคาเฟ่สีม่วงที่เรารวบรวมมาให้ในวันนี้ ขอบอกว่าทุกร้านกำลังเป็นที่นิยมและฮอตฮิตในโซเชียลมีเดียของคนเกาหลีเป็นอย่างมาก ฉะนั้นหากมีแพลนมาเที่ยวเกาหลีก็อย่าพลาดเก็บร้านดังกล่าวเป็นลิสต์ที่ห้ามพลาดกันนะคะ

แล้วเจอกันใหม่ค่ะ!

🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube 

✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand

🎈ช้อปปิ้ง｜สั่งซื้อสินค้าเกาหลี