เรื่องจริงสุดช็อกเบื้องหลังซีรีส์ "Taxi Driver"
ทุกคนรู้มั้ยคะว่าแต่ละคดีในซีรีส์เรื่อง Taxi Driver อ้างอิงจากมาจากเหตุการณ์จริงในเกาหลีทั้งนั้นเลย!
สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#ซีรีส์เกาหลี #เหตุการณ์จริง
#Taxi-Driver #ข่าวเกาหลี
วันนี้เราจะมาพาทุกคนไปพบกับเรื่องจริงสุดช็อกเบื้องหลังซีรีส์ "Taxi Driver" กันค่ะ! ทุกคนรู้มั้ยคะว่าแต่ละคดีในซีรีส์เรื่องนี้อ้างอิงมาจากเหตุการณ์จริงในเกาหลีทั้งนั้นเลย? ไม่ว่าจะเป็นการใช้แรงงานผิดกฎหมาย, การใช้ความรุนแรงในที่ทำงาน, หรือแม้แต่การกลั่นแกล้งที่โหดร้ายก็เคยเกิดขึ้นจริง ๆ ค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
เรื่องจริงสุดช็อกเบื้องหลังซีรีส์ "Taxi Driver"
1. คดี "โชดูซุน"
ในตอนต้นของซีรีส์เรื่อง "Taxi Driver" เราจะได้เห็นฉากการปล่อยผู้กระทำความผิดทางเพศออกจากเรือนจำใช่มั้ยละคะ โครงเรื่องของคดีนี้จะคล้ายกับคดี "โชดูซุน" ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ชาวเกาหลีใต้โกรธเคืองกันทั้งประเทศเลยล่ะค่ะ
ในปี 2008 "โชดูซุน" ได้ก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศและทำให้เด็กหญิงอายุ 8 ขวบได้รับบาดเจ็บจนอวัยวะภายในของเธอเสียหายอย่างรุนแรงถึง 80% และแม้ว่าเธอจะได้รับการช่วยชีวิตเอาไว้ได้ แต่เธอก็จำเป็นจะต้องเจาะท้องเพื่อขับถ่ายและไม่อาจเดินได้อีกตลอดชีวิต
ในระหว่างการพิจารณาคดี "โชดูซุน" อ้างว่าเขาเมาจนเป็นเหตุให้สูญเสียความสามารถในการตัดสินใจและได้กระทำเรื่องเลวร้ายลงไป จากนั้นเขาก็ได้รับโทษจำคุกเพียง 12 ปีเท่านั้น และได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2020
ในซีรีส์เรื่อง Taxi Driver เราจะเห็นได้ชัดเลยว่าผู้กระทำความผิดขึ้นแท็กซี่ไปอย่างเย่อหยิ่งและไม่มีร่องรอยของความรู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย
ในเหตุการณ์จริง ตอนที่โชดูซุนถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อปีที่แล้วนั้น เขาก็ไม่ได้กล่าวคำแถลงการณ์หรือคำขอโทษใด ๆ ค่ะ เขาเพียงแค่เอามือไพล่หลังและโค้งคำนับให้กับฝูงชนและสื่อที่มารวมตัวกันเท่านั้น
ซึ่งวิธีการโค้งคำนับที่เขาใช้นั้น โดยทั่วไปแล้วถือเป็นวิธีที่คนในตำแหน่งที่เหนือกว่าจะแสดงออกมาค่ะ และสิ่งนี้ก็ทำให้ชาวเกาหลีหลายคนโกรธแค้นมาก ๆ เพราะเห็นได้ชัดเลยว่าพฤติกรรมของเขาเย่อหยิ่งและไม่มีเจตนาจะกลับใจเลยแม้แต่น้อย
แต่แน่นอนว่าในชีวิตจริงก็ไม่มีการใช้ศาลเตี้ยต่อโชดูซุนแต่อย่างใดค่ะ และเพราะแบบนั้นคนเกาหลีหลาย ๆ คนที่ได้ดู Taxi Driver จึงชื่นชอบฉากนี้เป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ และสำหรับใครที่ต้องการอ่านคดีนี้เพิ่มเติม ก็สามารถไปอ่านได้ที่ คลิก
2. การใช้แรงงานบนเกาะสีม่วง
อีกคดีที่เกิดขึ้นจริงและซีรีส์เรื่อง Taxi Driver นำมาใช้อ้างอิงก็คือ เหตุการณ์การใช้แรงงานที่เกิดขึ้นบนเกาะสีม่วงในจังหวัดชอลลาค่ะ ในซีรีส์จะเป็นเรื่องราวของคนพิการที่ถูกค้ามนุษย์และถูกบังคับให้มาทำงานในโรงงานอาหารทะเลนั่นเอง
คนงานหลาย ๆ คนต้องทำงานภายใต้ชั่วโมงการทำงานที่ไร้ความปราณี รวมถึงความรุนแรง ตลอดจนการยักยอกทรัพย์สินส่วนตัวโดยนายจ้างด้วยค่ะ และเมื่อคนงานหญิงในซีรีส์สามารถหลบหนีไปได้ เธอก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่นำตัวกลับไปที่โรงงานอีกครั้ง แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ตำรวจก็ร่วมมือกับเจ้าของโรงงานค่ะ
และแน่นอนว่าเรื่องราวนี้ก็คล้ายกับเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในเกาหลีเมื่อไม่นานมานี้เลยล่ะค่ะ
ในปี 2008 และ 2012 มีชายพิการสองคน "นายแจ" และ "นายคิม" ได้ถูกหลอกโดยหน่วยงานจัดหางานที่ไม่จดทะเบียน และถูกขายให้กับฟาร์มเกลือบนเกาะสีม่วงค่ะ โดยคนงานในฟาร์มนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้นอนเกิน 5 ชั่วโมง และยังถูกบังคับให้ทำงานหนักมาก ๆ ทั้งการทำนาเกลือและงานก่อสร้างค่ะ
ชายทั้งสองพยายามหลบหนีออกมาหลายครั้ง แม้จะถูกขู่ฆ่าแต่พวกเขาก็ยังพยายามหนีอีกครั้งและอีกครั้งค่ะ แต่เนื่องจากสถานที่ที่ทั้งคู่ถูกบังคับให้ทำงานนั้นเป็นพื้นที่ชนบท และชาวบ้านจำนวนมากหรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เมินเฉยต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายนี้ ดังนั้นไม่ว่าจะพยายามกี่ครั้งก็หลบหนีไม่สำเร็จค่ะ
และจากนั้น ความจริงที่ว่าคนงานที่พยายามหลบหนีถูกส่งกลับไปที่ฟาร์มอีกครั้งโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีท้องที่ก็ถูกค้นพบในภายหลังค่ะ
และสภาพที่น่าสยดสยองในฟาร์มเกลือก็ถูกเปิดเผยในปี 2014 ค่ะ รองผู้ว่าการเทศมณฑลและสมาชิกสภาท้องถิ่นถูกจับกุมในข้อหายักยอกเงินและการใช้แรงงานที่ผิดกฎหมาย แน่นอนว่าชาวเกาหลีหลาย ๆ คนก็รู้สึกโกรธเคืองเมื่อพบว่าแม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ไม่สามารถไว้วางใจให้ปกป้องผู้ที่อ่อนแอในสังคมได้ค่ะ
ในที่สุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ก็ตัดสินใจขยายเวลาการสอบสวน จากนั้นฟาร์มเกลือและงานที่รับคนพิการทั่วเกาหลีก็ถูกตรวจสอบค่ะ ซึ่งตำรวจก็พบว่ามีคนงานที่เป็นคนพิการอย่างน้อย 100 คนไม่ได้รับค่าจ้างที่เหมาะสม และยังมีอีกหลายคนที่หายสาบสูญไปหรือไม่ปรากฏชื่อค่ะ
3. การกลั่นแกล้งในโรงเรียน
อีกประเด็นหนึ่งใน Taxi Driver ก็คือการกลั่นแกล้งในโรงเรียนนั่นเองค่ะ ซีรีส์เรื่องนี้ได้บอกเล่าเรื่องราวของนักเรียนมัธยมปลายที่ถูกกลั่นแกล้งจนสูญเสียความตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่
นักเรียนคนนี้ถูกเพื่อนร่วมชั้นดูถูกและรังแกเพราะเขามาจากครอบครัวที่ยากจน จากนั้นก็ได้รับความช่วยเหลือจาก Rainbow Taxi Company เพื่อแก้แค้นค่ะแต่การกลั่นแกล้งในชีวิตจริงจะมีคนมาช่วยแบบนี้เหรอ? มีกี่คนที่ต้องจบชีวิตลงเพราะไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วย?
อันที่จริง การฆ่าตัวตายคิดเป็น 22.1% ของการเสียชีวิตในหมู่วัยรุ่นในเกาหลีเลยทีเดียวค่ะ นั่นหมายความว่าในบรรดาผู้ที่เสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย 1 ใน 5 มีสาเหตุมาจากการฆ่าตัวตายนั่นเองค่ะ
แล้วทุกคนไม่สงสัยเหรอคะว่าเพราะอะไรวัยรุ่นเกาหลีเหล่านี้จึงต้องเลือกหนทางที่โหดร้ายให้กับตัวเอง? คำตอบก็คือการกลั่นแกล้งในโรงเรียนค่ะ มีเด็กหลาย ๆ คนที่ถูกข่มขู่และดูถูกจากคนที่พวกเขาคิดว่าเป็นเพื่อน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสังคมเกาหลีค่ะ
4. ความรุนแรงในที่ทำงาน
ยางจินโฮ ประธาน WeDisk (ที่มา: DailySmart)
เรื่องราวต่อมาใน Taxi Driver ก็ได้กล่าวถึงความรุนแรงในที่ทำงานค่ะ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุการณ์นี้อ้างอิงมาจากไหน เพราะว่าเป็นคดีที่โด่งดังไปทั่วเกาหลีเลยทีเดียวค่ะกับพฤติกรรมอุกอาจของ "ยางจินโฮ" ประธาน WeDisk ในปี 2018
ในเดือนตุลาคม 2018 ความรุนแรงของประธาน "ยางจินโฮ" ที่กระทำต่อพนักงานถูกเปิดเผยหลังจากมีการรั่วไหลของคลิปภายในบริษัทค่ะ ในคลิปจะเห็นได้ชัดเลยว่าเขาตบพนักงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า นอกจากนี้ก็ยังสั่งให้ลูกน้องคุกเข่าขอโทษอย่างไร้เหตุผลด้วย
และในงานเลี้ยงอาหารค่ำของบริษัท ยางจินโฮก็ยังบังคับให้พนักงานกินกระเทียมถึงหนึ่งกำมือในคำเดียว รวมถึงสั่งให้คนอื่น ๆ กินซอสพริกรสเผ็ดด้วยค่ะ นอกจากนี้เขาก็ยังสั่งให้ผู้จัดการไปย้อมผมให้เป็นสีที่เขาชอบด้วยนะคะ
วิดีโอการใช้ความรุนแรงของประธาน WeDisk
แม้ว่าในซีรีส์ Taxi Driver อาจจะดูเกินไปกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปบ้าง แต่การใช้ความรุนแรงในที่ทำงานแบบนี้ก็สร้างความทุกข์ให้กับคนเกาหลีจำนวนมากเลยล่ะค่ะ
จากการสำรวจที่จัดทำโดยสมาคมจิตวิทยาแห่งเกาหลี พนักงานบริษัทมากกว่า 1 ใน 10 กล่าวว่าพวกเขาถูกรังแกในที่ทำงานเกือบทุกวัน และพนักงาน 5 ใน 6 ก็กล่าวว่าพวกเขาถูกกลั่นแกล้งอย่างน้อยเดือนละครั้งค่ะ
และจากการสำรวจอีกครั้งในปี 2017 ก็พบว่า 70% ของพนักงานออฟฟิศในเกาหลีเคยถูกรังแกหรือทารุณกรรมค่ะ
แม้ว่ากฎหมายที่ว่าด้วยการห้ามการกลั่นแกล้งในที่ทำงานจะประกาศใช้ในปี 2019 แต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลาย ๆ คนยังคงประสบปัญหาการใช้ความรุนแรงและการกลั่นแกล้งในที่ทำงานอยู่ค่ะ มีพนักงานกี่คนนะที่ต้องทรมานทุกวันโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือ?
นอกจากนี้ธรุกิจของบริษัทในซีรีส์ก็เกี่ยวข้องกับการแสวงหาผลประโยชน์จากการแบล็กเมล์ทางเพศด้วยนะคะ ซึ่งก็คล้ายกับกรณี "Nth Room" ที่เป็นกระแสไปทั่วเกาหลีใต้เมื่อปีที่แล้วเลยล่ะค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับเหตุการณ์จริงสุดช็อกเบื้องหลังซีรีส์ "Taxi Driver" ใครจะไปรู้ล่ะคะว่าแต่ละคดีที่แสนโหดร้ายในซีรีส์จะถูกอ้างอิงมาจากเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในเกาหลี รู้แบบนี้แล้วพอดูซีรีส์ก็มีอารมณ์ร่วมมายิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าเลยใช่มั้ยล่ะคะ?
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand